x close

เปิดประวัติ เด่นเก้าแสน แชมป์โลก WBA คนใหม่

 



         เชื่อว่าหลายคนยังคงจำกันได้ดี สำหรับชัยชนะอันเด็ดขาดของ "เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม"  ที่สามารถคว่ำคู่ปรับไม้เบื่อไม้เมา แดนอาทิตย์อุทัย อย่าง ทาเคฟูมิ ซากาตะ ไปแบบยอดเยี่ยมในยกที่ 2 คว้าเข็มขัดแชมป์รุ่นฟลายเวต จากสมาคมมวยโลก (WBA) มาครองได้สำเร็จ วันนี้ กระปุกดอทคอมเลยไม่พลาดที่จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักนักมวยแชมป์โลกป้ายแดงคนนี้กันค่ะ

         เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม หรือ เด่นเก้าแสน เก้าวิชิต มีชื่อจริงว่า นายสุเทพ หวังมุ๊ เป็นชาวเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2519  ปัจจุบันอายุ 32 ปี  เป็นลูกคนที่ 2 จากจำนวน 7 คน ของคุณพ่ออูเซ็ง กับ คุณแม่ยาเราะห์  เด่นเก้าแสน นับถือศาสนาอิสลาม มีชื่อเป็นภาษาอาหรับว่า "แวฮามะ"  หรือที่คนใกล้ชิดเรียกติดปากกันว่า "เจ้ามะ" นั่นเอง

         เส้นทางในวงการมวยของ "เด่นเก้าแสน" นั้น ต้องบอกว่าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบจริงๆ เขาต้องต่อสู้ ผ่านชัยชนะและพ่ายแพ้มาอย่างโชกโชน จัดว่าเป็นนักสู้ชีวิตที่มีความมานะบากบั่น ในทำนองเดียวกับ "สมจิตร จงจอหอ" ที่ล้มเหลวหลายครั้ง กว่าจะคว้าเหรียญโอลิมปิกมาครองได้สำเร็จ เช่นเดียวกับเด่นเก้าแสน ที่เฝ้ารอเข็มขัดแชมป์โลก WBA มานานถึง 10 ปี ความสำเร็จในครั้งนี้จึงเหมือนชุบชีวิตให้เขาประหนึ่งได้แจ้งเกิดอีกครั้ง

         "ผมเฝ้ารอคอยแชมป์โลกเส้นนี้มานานถึงสิบปี ขึ้นชิงแชมป์โลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งถือเป็นรถไฟเที่ยวสุดท้ายแล้ว การได้แชมป์โลกครั้งนี้เหมือนได้เกิดอีกครั้งอย่างเต็มตัว" เด่นเก้าแสน กล่าว




         สำหรับที่มาที่ไปในอาชีพนักมวยของเด่นเก้าแสน เริ่มต้นขึ้นเมื่ออายุได้ 12 ปี ด้วยลักษณะนิสัยที่ชอบใช้ชีวิตแบบโลดโผนแก่นแก้วมากกว่าเด็กธรรมดาไปสักหน่อย ผู้เป็นพ่อจึงพาไปฝากค่ายมวย "เก้าวิชิต" ของ อำนวย แซ่วุ่น หัวหน้าคณะ ทำให้ในบรรดาพี่น้อง 7 คน มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น ที่ชะตาชีวิตหันเหให้มาเป็นนักมวยอาชีพ ทั้งที่ความจริงแล้ว เด่นเก้าแสน ไม่เคยคิดฝันเรื่องชกมวยมาก่อนเลย อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นเขาใช้ชื่อ เด่นเก้าแสน เก้าวิชิต ในการตระเวนขึ้นเวทีชกแถวบ้านเกิดแดนปักษ์ใต้ โดยได้รับการชูมืออย่างผู้ชนะถึง 52 ครั้ง จากทั้งหมด 70 กว่าครั้ง 

         ต่อมาในปี 2535 เมื่ออายุอานามได้ 16 ปี เด่นเก้าแสน ได้ขยับจากนักชกแดนใต้ เข้ามาประกาศศักดาในเมืองกรุง สังกัดค่ายเกียรติบ้านช่อง ของ "ใหม่ เมืองคอน" หรือสมคิด ชูแก้วรุ่งโรจน์ โดยได้ขึ้นสังเวียนมาตรฐานทั้งราชดำเนิน-ลุมพินี พบกับมวยดีมีระดับ แพ้บ้างชนะบ้าง ในระดับค่าตัวประมาณ 5-6 หมื่นบาท แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์มวยไทยเลยสักเส้น

         อย่างไรก็ตาม ในยุคนั้นต้องถือว่าเป็นยุคทอง ที่แชมป์โลกมวยสากลอาชีพเมืองไทยกำลังบูม รุ่นพี่ร่วมค่ายอย่าง เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง, อาคม เฉ่งไล่ ต่างโด่งดังทั้งในเชิงมวยไทย และมวยสากลสมัครเล่น อีกทั้ง แสน ส.เพลินจิต, หยกไทย ศิษย์ อ. และพิชิต ช.ศิริวัฒน์ ก็กำลังครองแชมป์โลก WBA ประกาศศักดากันเป็นว่าเล่น เลยทำให้ ใหม่ เมืองคอน อยากมีแชมป์มวยสากลประดับค่ายบ้าง จึงเรียนลัดจับเด่นเก้าแสน ขึ้นชิงแชมป์พาบารุ่นฟลายเวต และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ลูกพี่ผิดหวัง  สามารถคว้าแชมป์มาครองในการชกอาชีพไฟต์แรก ด้วยการชนะคะแนน เมลวิน มากราโม่ นักชกฟิลิปปินส์ได้สำเร็จ เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2539


เด่นเก้าแสน



         จากนั้นมา เด่นเก้าแสน ก็สามารถป้องกันแชมป์พาบาไว้ได้อย่างยาวนานถึง 18 ครั้ง ก่อนจะสละเข็มขัดไป เพื่อชิงแชมป์โลก WBA ครั้งแรก แต่ต้องผิดหวัง พ่ายให้กับ น็อก อีริก โมเรล นักชกเปอร์โตริโก ทำให้กลับมาชิงแชมป์พาบาเส้นเดิม ซึ่งในระหว่างนั้น ชะตาชีวิตของเด่นเก้าแสนเกิดผกผันครั้งใหญ่ เมื่อลูกพี่ใหญ่ ใหม่ เมืองคอน เสียชีวิตลงด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้ค่ายเกียรติบ้านช่องต้องปิดตัวลง ทางภรรยาเจ้าของค่าย จึงตัดสินใจขาย เด่นเก้าแสน ให้กับ เสี่ยนริส สิงหวังชา ในวงเงินค่าตัว 1.6 ล้านบาท และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม"

         หลังครองตำแหน่งรองแชมป์พาบา 1 ต่อเนื่องมานาน แบบมาราธอนเกือบสามปี จึงสบโอกาสสละแชมป์พาบา ขึ้นไปชิงแชมป์โลก WBA อีกครั้ง แต่ทำได้แค่เสมอ ทาเคฟูมิ ซากาตะ เจ้าของตำแหน่งชาวซามูไร อย่างน่าเจ็บใจ ทำให้ครั้งนั้น  เด่นเก้าแสน ได้ค่าเหนื่อยกลับบ้านเพียงแค่แสนกว่าบาท ซ้ำยังต้องพักรักษาหัวแม่โป้งนิ้วมือตัวเอง ที่บาดเจ็บอีกนานหลายเดือน ทำเอาเจ้าตัวท้อ คิดอยากจะเลิกมวยไปเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยปัญหาชีวิตครอบครัวที่แร้นแค้น และยากจน ทำให้ต้องทนชกมวยต่อไป

         และโอกาสครั้งที่สามก็มาถึง เมื่อได้สิทธิ์ล้างตากับคู่ปรับคนเดิม ทาเคฟูมิ ซากาตะ พร้อมกับข้อเสนออันงดงามด้วยค่าตัว 6 หมื่นเหรียญสหรัฐ ตั๋วเครื่องบิน 7 ใบ โดยในส่วนของเด่นเก้าแสนนั้น จะได้รับค่าเหนื่อย จากการชกครั้งนี้จำนวน 5 แสนบาท  และผลคือ เขาเป็นฝ่ายคว่ำคู่ปรับเก่าเจ้าถิ่น ได้เร็จ ทำให้เด่นเก้าแสนกลายเป็นแชมป์โลกคนใหม่ มีสถิติการขึ้นชกอาชีพชนะ 46 แพ้ 1 เสมอ 1 เป็นการชนะน็อค 20 ไฟท์ 

         คราวนี้ก็ต้องมาจับตาดูเส้นทางแชมป์โลกคนนี้กันต่อไป... เพราะ "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" เชื่อว่าคนไทยทุกคนจะเป็นกำลังใจนักมวยไทยคนนี้ ...เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม  แน่นอนค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 
- baanmaha.com
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดประวัติ เด่นเก้าแสน แชมป์โลก WBA คนใหม่ อัปเดตล่าสุด 16 มกราคม 2552 เวลา 15:29:42 22,825 อ่าน
TOP