x close

หนาววิปริต แร้ง บินหลงทิศหมดแรงร่วงที่ สตูล-กาญจน์


            นักวิชาการชี้เพราะอากาศแปรปรวน อุตุฯ เผยหนาวทุบสถิติหลายจังหวัด ชี้อากาศเย็นสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ ชาวนาพิษณุโลก โอดข้าวยืนต้นตายกว่า 1.5 แสนไร่ ปภ.ประกาศพิบัติภัย 46 จังหวัด 

            ประชาชนในหลายจังหวัดยังคงเผชิญต่อสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สัตว์ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เมื่อวันที่ 16 มกราคม น.ส.ณรัชรา นามนาเมือง เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำอุทยานน้ำหนาว กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด และมีแม่คะนิ้งในช่วงเช้า ทำให้ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวพบซากนกหนาวตายราววันละ 2-3 ตัว และยังนำซากมาให้เจ้าหน้าที่ดูด้วย

แร้งหนีหนาวตกที่เมืองกาญจน์ 

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านพบนกตัวใหญ่ไม่ทราบชนิด ถูกชาวบ้านจับมาขังไว้ในกรงวัดสาลวนาราม หมู่ 13 ต.ดอนตาเพชร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ลักษณะคล้ายแร้ง ขนสีน้ำตาล ปีกมีลายทางสีขาวสลับน้ำตาล มีนิ้วตีนข้างละ 4 นิ้ว ปากเป็นจะงอยยาวประมาณ 3 นิ้ว สูงจากพื้นประมาณ 2 ฟุตเศษ น้ำหนักที่ชั่งได้ 5.5 กิโลกรัม 

            นายสุรินทร์ สังข์ทอง อายุ 47 ปี ผู้จับนกดังกล่าว เล่าว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากทำงาน เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังห้อมล้อมผิดสังเกต จึงจอดรถดูพบนกตัวนี้จึงอุ้มมาไว้ที่วัด แต่นกหลุดมือและพยายามที่จะบินหนีแต่ไม่มีแรง จึงนำเนื้อหมูดิบมาให้กินครึ่งกิโลกรัม แล้วนำไปขังไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอพนมทวนมาตรวจสอบ พร้อมทั้งได้ฉีดยาพ่นเพื่อป้องกันเชื้อโรค 

            ด้านนายบุญล้อม หนูสั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ประจำเขตห้ามล่าสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ กล่าวว่า นกตัวดังกล่าวน่าจะเป็นพวกตระกูลแร้ง ยืนยันว่าไม่ใช่นกที่พบในประเทศไทยมาก่อน อาจจะเป็นนกที่หนีอากาศหนาวเย็นลงมา เชื่อว่าคงใช้ระยะเวลาเดินทางไกลมาก จึงหมดแรงร่วงลงพื้นและไม่สามารถบินต่อไปได้

ชาวสตูลตื่นนกยักษ์ตกกลางทุ่ง 

            ที่ จ.สตูล นายสะอาด สุวาหลำ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 3 บ้านตันหยงกลิง ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง กล่าวว่า เมื่อบ่ายวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา พบนกขนาดใหญ่ไม่ทราบชนิด 6 ตัว บินวนไปมาหลายรอบ ก่อนที่นกตัวหนึ่งจะตกลงมาบริเวณทุ่งนา จากนั้นชาวบ้านช่วยกันจับไว้ และพบว่านกไม่มีแรง ลักษณะของนกดังกล่าวเมื่อกางปีกเต็มที่กว้าง 2.5 เมตร ส่วนหัวจรดหางยาว 1.20 เมตร น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม หัวสีขาว ลำตัวสีน้ำตาลสลับเหลืองและขาว 

            นายสะอาด กล่าวอีกว่า คนในพื้นที่ไม่เคยพบเห็นนกชนิดนี้มาก่อน ตัวที่ตกลงมานั้นคาดว่าอาจบินชน หรือเกี่ยวกับสายไฟฟ้าในหมู่บ้าน ส่วนนกที่เหลือก็ยังบินวนรอบหมู่บ้าน

ชี้อากาศเปลี่ยนนกบินหลงทิศ 

            ด้าน รศ.ดร.สมโภชน์ ศรีโกสามาตร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีนกยักษ์ที่มีลักษณะคล้าย "แร้งหิมาลัย" บินมาตกที่ท้องทุ่งนาว่า ช่วงหลังสภาพภูมิอากาศแปรปรวน เส้นทางการอพยพอาจเปลี่ยนแปลง ทิศทางลม จุดพักเปลี่ยน ทำให้บินหลงทิศหลงทาง จนเหนื่อยล้าและหมดแรงได้ 

            "กรณีที่พบนกยักษ์ที่คล้ายแร้งหิมาลัยนั้น ช่วงฤดูอพยพอาจจะบินหลงทาง ผิดทิศทาง เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งแร้งเป็นตัวชี้วัดที่เด่นชัดว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ปกตินกจากทางเหนือจะอพยพหนีหนาวเข้ามาในเขตอบอุ่น แต่กลับมาพบความแปรปรวนของสภาพอากาศ พอถึงจุดพักมันก็พักไม่ได้ เนื่องจากเส้นทางอพยพ จุดพัก มันเปลี่ยนแปลงไปหมด มันก็จะบินหาไปเรื่อยๆ จนหมดแรงได้" รศ.ดร.สมโภชน์ วิเคราะห์

            ส่วนนายอุทัย ตรีสุคนธ์ นักชีววิทยาและนักอนุรักษ์สัตว์ กล่าวว่า นกชนิดดังกล่าวน่าจะเป็นนกย้ายถิ่นหนีอากาศหนาวมาจากประเทศอินเดีย จีน หรือมองโกเลีย อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อบินมาด้วยระยะทางยาวไกลแล้วเกิดเหนื่อยจึงตกลงในพื้นที่ ไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดอะไร เพราะนกมีการอพยพย้ายถิ่นเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้นกหมดแรงตกลงนั้น นอกจากความเหน็ดเหนื่อยแล้ว อาจเป็นไปได้ว่าไปกินอะไรที่เป็นพิษแล้วทำให้หมดแรงบิน ส่วนประเด็นการติดเชื้อไข้หวัดนกนั้น คิดว่านกประเภทนี้ไม่น่าจะติดเชื้อพวกนี้ เพราะไข้หวัดนกส่วนใหญ่จะระบาดอยู่ในสัตว์ปีกจำพวกเป็ด




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนาววิปริต แร้ง บินหลงทิศหมดแรงร่วงที่ สตูล-กาญจน์ อัปเดตล่าสุด 17 มกราคม 2552 เวลา 14:32:45 17,698 อ่าน
TOP