ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประวัติ สามี ต่าย ชุติมา หรือ ต่าย ซีซั่นเชนจ์ และนักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรง ที่หลายคนจับตามอง
หากเอ่ยชื่อ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เชื่อว่าหลายคนอาจพอทราบกันดีอยู่ว่าหนุ่มคนนี้คือสามีของนักแสดงสาว ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ หรือ ต่าย ซีซั่นเชนจ์ นั่นเอง หลังทั้งคู่ได้ควงกันเข้าประตูวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 5 เดือน 5 (พฤษภาคม) 2555 หลังคบหาดูใจกันมานานกว่า 3 ปี แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบอีกมุมหนึ่งของ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในมาดของนักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรง วันนี้ กระปุกดอทคอม ก็มีประวัติของ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาฝากกันด้วยค่ะ
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือ ทิม หนุ่มนักบริหารวัย 34 ปี เจ้าของส่วนสูง 175 เซนติเมตร น้ำหนัก 67 กิโลกรัม จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ การเงิน การธนาคาร ภาคภาษาอังกฤษ ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และระดับปริญญาโท คณะการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยเป็นนักเรียนไทยคนแรกที่ได้ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และบริหารธุรกิจ ที่ Sloan, Massachusetts Institute of Technology (M.I.T.) ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นบุตรชายของ คุณพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (เสียชีวิตแล้ว) กับ คุณลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ มีพี่น้อง 2 คน โดย ทิม พิธา เป็นลูกชายคนโต ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการควบ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด และเกรท โอเชียน ฟู้ด ควบคู่ไปกับการบริหารบริษัทของคุณพ่อผู้ล่วงลับ เป็นบริษัทผลิตผลิตผลทางการเกษตร เช่น น้ำมันรำข้าว เป็นต้น
"สมัยวัยรุ่นนี้ผมก็เฮี้ยวไม่ใช่เล่นนะครับ ผมไม่ใช่เด็กเรียน ไม่ได้เป็นเด็กเก่ง แต่เกเร ซ่ามาก สูบบุหรี่ ชกต่อย พ่อเลยส่งไปเรียนที่นิวซีแลนด์ เป็นเมืองที่เงียบมากกลายเป็นเด็กดี ตอนอยู่ที่นิวซีแลนด์ไม่ได้อยู่แบบคุณหนู ต้องงานพิเศษหาเงินเอง ทั้งเก็บสตรอว์เบอรี ส่งนม ปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์ พอคุณพ่อเสียผมต้องบินกลับมาเมืองไทยเพื่อดูแลธุรกิจต่อ ซึ่งวันที่ 2 ของงานศพถึงรู้ว่าคุณพ่อมีหนี้สินกว่าร้อยล้านบาท ผมไม่ได้เริ่มจากศูนย์แต่เริ่มจากติดลบ ผมถามตัวเองว่าเรามีสติพอไหม เข้มแข็งพอไหม ตั้งแต่คุณพ่อเสียจนทุกวันนี้ร้องไห้ไปแค่ 5 นาที คือร้องตอนที่เผาออกมาแล้วเหลือกระดูกกองนิดเดียว
ส่วนหนี้สินตอนนั้นขายของล้างหนี้ไป แต่ไม่ปิดบริษัทเพราะเป็นธุรกิจที่คุณพ่อรัก คุณพ่อรักเกษตรกรรม เราก็ซึมซับมาตั้งแต่เด็กเลยสานต่อ หลังจากใช้หนี้ร้อยล้านหมด ก็ตัดสินใจกู้เงินพันล้าน เพื่อมาพัฒนาธุรกิจของคุณพ่อต่อ อย่างไรก็ตามการสูญเสียคุณพ่อ และการเปลี่ยนแปลงชีวิตครอบครัวครั้งนี้ ทำให้ครอบครัวเรารักกันมากขึ้น ตอนนี้ธุรกิจก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีมูลค่าเป็นพันล้าน วันนี้บริษัทผมใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ เป็นอันดับ 5 ของโลก"
ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังเผยอีกว่า "อนาคตผมอยากเป็นนักการเมืองเหมือนกัน ถ้ามีพรรคไหนอยากให้ไปเป็น ที่ผ่านมามีหลายพรรคมาจีบแล้ว สาเหตุที่อยากลงมาเล่นการเมือง เพราะเบื่อข่าวที่ออกมาหาว่าไทยสู้ประเทศอื่นไม่ได้ บ้านเราเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ แต่กลับไปไม่ถึงไหน มาถึงวันนี้ผมเลยอยากนำความรู้ที่ได้มาจากผู้นำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น บิล คลินตัน หรือบารัค โอบามา ที่มาพูดให้ฟังเมื่อปีที่แล้ว คนเหล่านี้มีความรู้ความสามารถ ผมเลยอยากนำความรู้ที่เรียนมาพัฒนาประเทศ"
งานนี้ต้องขอปรบมือให้ดัง ๆ เลยค่ะ เพราะจากชีวิตติดลบ...แต่วันนี้เขาได้พิสูจน์แล้วว่าอุปสรรคมีไว้ให้ข้ามผ่าน เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ
ข้อมูลจาก
รายการสุริวิภา