x close

วันมาฆบูชา นมัสการ พระบรมสารีริกธาตุ








สัตตมหาสถานศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 4 ของโลก (เดลินิวส์)

        สังคมไทยจากอดีตถึงปัจจุบันมีศาสนาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ดังนั้นศาสนาจึงมีบทบาทและความสำคัญต่อการดำรงชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะเห็นได้ว่ายามใดที่เกิดเหตุการณ์เลวร้าย หรือเกิดความท้อแท้ สิ้นหวัง ศาสนาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเป็นสิ่งที่ทุกคนยึดเหนี่ยวเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กลับมีความเข้มแข็งที่พร้อมจะดำเนินชีวิตต่อไปได้ในสังคม โดยเฉพาะประเพณีทางพระพุทธศาสนาของสังคมไทยในปีหนึ่งๆ จะมีประเพณีการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งพระพุทธรูปประจำวัด หรือพระธาตุสำคัญๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองครอบครัวผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคและให้เจริญรุ่งเรืองในกิจทั้งปวง

        พระธาตุบังพวน ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย ที่ห่างจากตัวเมืองหนอง คาย เพียง 20 กม. ที่สร้างขึ้นในห้วงเวลาที่ใกล้เคียงกับองค์พระธาตุพนม จ.นครพนม เป็นพระมหาเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุหัวหน่าว (กระดูกส่วนล่างของกระดูกเชิงกราน) 29 องค์ โดยองค์พระธาตุเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมสูงจากฐานถึงยอดฉัตร 34.25 ม. ทรงศิลปะท้องถิ่น ฐานล่างเป็นศิลาแลงกว้าง 17.20 ม. สูงประมาณ 1 ม.เศษ ถัดขึ้นเป็นอิฐมีฐานทักษิณ 3 ชั้น บัวคว่ำ 2 ชั้น ต่อด้วยรูปปรางค์สี่เหลี่ยมบังปากระฆัง ระฆังคว่ำ บัวสายรัด 3 ชั้น รับดวงปลีบัวตูม และฉัตร 5 ชั้นที่เป็นเนื้อทองแดงปิดทอง ส่วนช่วงบนสุดเป็นซุ้ม พระพุทธปฏิมา ซึ่งจากเชิงบัวคว่ำรับปรางค์ซุ้มขึ้นด้านบนจะมีลักษณะเหมือนกับองค์พระธาตุพนม จ.นครพนม

        แต่จากบัวคว่ำลงมาจะมีลักษณะเหมือนกับองค์พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ใกล้ ๆ องค์พระมหาเจดีย์ ยังประกอบไปด้วยโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญยิ่ง คือ สัตตมหาสถาน หรือ สัตตมหาเจดีย์ หรือ สถานที่จำลอง 7 แห่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับเสวยวิมุตติสุข หลังการตรัสรู้แห่งละ 7 วัน ที่ถือว่าเป็นพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ ที่สำคัญ คือ สัตตมหาเจดีย์ ที่วัดพระธาตุบังพวนแห่งนี้ยังมีความสมบูรณ์ที่สุด โดยอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวัด ประกอบด้วย โพธิบัลลังก์ เป็นสถูปทรงกลม สูง 2.60 ม. ก่อด้วยหินศิลาแลงทั้งองค์ เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าประทับบำเพ็ญเพียรตรัสรู้ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และพระองค์ได้ประทับเสวยวิมุตติสุขต่อจากวันตรัสรู้อีก 7 วัน

        อนิมนิสเจดีย์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโพธิบัลลังก์ เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมย่อมุม ก่อด้วยอิฐถือปูน ตอนบนมีซุ้มในซุ้มมีพระพุทธรูปปางสมาธิราบ ผินพระพักตร์เข้าหาโพธิบัลลังก์ ซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าลุกจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อระลึกถึงคุณที่ให้ร่มเงาจนได้ตรัสรู้ รัตนจงกรมเจดีย์ ก่อด้วยอิฐถือปูน ทรงสี่เหลี่ยม หน้า ฐานองค์นี้มาทางเท้าก่อด้วยอิฐกว้าง 2.50 ม. ทอดยาวไปทางทิศตะวันออกเกือบจดกับอนิมนิสเจดีย์  เป็นสถานที่เดินจงกรมเพื่อพิจารณาหมู่สัตว์ และได้ประทับเสวยวิมุตติสุขที่แห่งนี้ในสัปดาห์ที่ 3 รวม 7 วัน
 
        สำหรับ รัตนฆรเจดีย์ อยู่ทิศตะวันตกของโพธิบัลลังก์ ก่อด้วยอิฐถือปูนทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมที่สูงใหญ่กว่าเจดีย์องค์อื่น ๆ ในกลุ่ม ตอนบนมีซุ้ม ในซุ้มมีพระพุทธรูปปางสมาธิราบ ผินพระพักตร์เข้าหาโพธิบัลลังก์เช่นกัน ซึ่งเป็นสถานที่เรือนแก้วที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์ที่ 4 รวม 7 วัน และ  ขณะทรงประทับอยู่สถานที่แห่งนี้ ได้บังเกิดพระฉัพ พรรณรังสี (พระรัศมี 6) เปล่งออกจากพระวรกาย มี สีฟ้า เหลือง แดง ขาว ส้ม และสีแก้วผลึก (ขาวสลัว) อชาปาลนิโครธเจดีย์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของโพธิบัลลังก์ ก่อด้วยอิฐถือปูนทรงสี่เหลี่ยม บนสุดมีซุ้มพระพุทธรูปปางสมาธิราบ ผินพระพักตร์เข้าหาโพธิบัลลังก์ เป็นสถานที่ พระพุทธเจ้าทรงตัดสินพระทัยโปรดเวไนยสัตว์ที่พระองค์ทรงเสด็จประทับวิมุตติสุขที่ใต้ต้นไทรใหญ่

        ในสัปดาห์ที่ 5 รวม 7 วัน มุจลินท์เจดีย์ ตั้งอยู่ในสระน้ำหิน ในสระมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางนาคปรก 7 เศียร ผินพระพักตร์ ไปยังโพธิบัลลังก์ และมีวิหารมุงหลังคาไม่มีฝาผนัง ภายในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโพธิบัลลังก์ ซึ่งเป็นวิหารแทนสถานที่ต้นจิกอยู่ริมสระมุจลินท์ ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับเสวยวิมุตติสุขริมสระน้ำในสัปดาห์ที่ 6 รวม 7 วัน และขณะนั้นเกิดพายุฝนตกพรำ ๆ ด้วยพุทธานุภาพ จึงมีพญานาคมุจลินท์ ออกมาจากสระน้ำพร้อมแผ่พังพานใหญ่ป้องลมฝน ไม่ให้ต้องพระวรกาย และ ราชายตนะเจดีย์ เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยม ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผินพระพักตร์เข้าหาโพธิบัลลังก์ ตอนบนมีซุ้มพระพุทธรูปปางสมาธิราบ ผินพระพักตร์เข้าหาโพธิบัลลังก์ เป็นสถานที่แทนไม้เกด ที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ในสัปดาห์ที่ 7 รวม 7 วัน
    
        ประเพณีนมัสการพระมหาเจดีย์พระธาตุบังพวนแห่งนี้ ถือปฏิบัติกันมาช้านานและจัดขึ้นทุก ปีเหมือนกับงานนมัสการพระธาตุ สำคัญองค์อื่น ๆ คือ กำหนดขึ้นในห้วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา  "วันมาฆบูชา" ระหว่างวันขึ้น 11-15 ค่ำ เดือน 3 ปีนี้ตรงกับวันที่ 5-9 ก.พ. 52 โดยพระครูภาวนาเจติยาบาล (ทวี มหาวีโร) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุบังพวน กล่าวว่า ตลอดทั้งปีมีพุทธศาสนิกชนจากทุกสารทิศ ได้มานมัสการและศึกษาประวัติความเป็นมาของโบราณสถานแห่งนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเทศกาลนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งปีนี้จะ จัดพิธีบวชชีพราหมณ์ สมโภชในวันที่ 5 ก.พ. มีพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุทุกวัน และในวันที่ 9 ก.พ. วันมาฆบูชา มีพิธีเททองหล่อองค์พระโมค คัลลาน์ สาลีบุตร หรือ พระอัครสาวกซ้ายขวา ซึ่งเป็นองค์พระประธานประจำพระอุโบสถที่กำลังก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จอีกด้วย.



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก relicsofbuddha.com และ วิกีพีเดีย
โดย จิรศักดิ์ วงษ์คำจันทร์
 

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วันมาฆบูชา นมัสการ พระบรมสารีริกธาตุ อัปเดตล่าสุด 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา 00:09:55 7,504 อ่าน
TOP