ไม่อนุมัติหมายจับ 4 นักศึกษา รุมทำร้ายช่างจิวเวอร์รี่สาหัส (คมชัดลึก)
ศาลไม่อนุมัติออกหมายจับ 4 นักเรียนนักเลง รุมตื้บช่างจิวเวลรี่สาหัสหน้ามาบุญครอง ระบุหลักฐานไม่ชัด แม้นตำรวจเผยวงจรปิดเห็นชัดเจน อย่างไรก็ตามศาลให้ประกัน นศ.อุเทนถวายพกปืนวันตะลุมบอน ขณะที่ขาสั้นปากน้ำเปิดศึกควงมีดไล่ฟัน ม.3 เอ็นข้อมือขาด
ผลพวงจากเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่บริเวณหน้าห้างมาบุญครอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. เมื่อเย็นวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนโดนลูกหลง 1 คน คือ นายสุเทพ วิวัฒน์เจริญชัย หัวหน้าช่างจิวเวลรี่ ที่ทำงานในห้างดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลหัวเฉียวนั้น
พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สน.ปทุมวัน กล่าวว่า ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พนักงานสอบสวนจะขอศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้ อนุมัติหมายจับนักศึกษาที่ร่วมก่อเหตุ และเป็นกลุ่มที่รุมทำร้ายร่างกายนายสุเทพจำนวน 4 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากได้ตรวจสอบจากภาพที่บันทึกได้จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดแล้ว พบว่ากล้องโทรทัศน์วงจรปิดหน้าห้างมาบุญครองฝั่งถนนพระรามที่ 1 สามารถจับภาพนักศึกษาทั้ง 4 คน ขณะรุมทำร้ายนายสุเทพ ที่นอนหมดสติอยู่ได้อย่างชัดเจน ส่วนในข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์นั้น ต้องตรวจสอบพยานและหลักฐานอย่างละเอียดก่อน
ผกก.สน.ปทุมวัน กล่าวย้อนถึงสาเหตุที่เกิดการปะทะกันระหว่างนักศึกษาทั้งสองสถาบันว่า ในวันเกิดเหตุนั้นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย พาเพื่อนสาวไปเดินเที่ยวที่มาบุญครอง แล้วบังเอิญไปพบนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ซึ่งเดินเข้ามาถามว่า "เรียนที่ใด" ฝ่ายนักศึกษาอุเทนถวายตอบกลับไปว่า "ไม่ได้เรียน" แต่นักศึกษาปทุมวันบอกว่า "จำได้ว่าเป็นคู่อริ เพราะเป็นคนโทรศัพท์ไปตามเพื่อนมาทะเลาะวิวาทจากเหตุก่อนหน้านี้" จากนั้นจึงเข้าล็อกคอและทำร้ายร่างกาย กระทั่งนำไปสู่เหตุการณ์ตะลุมบอนกันขึ้น
ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุตะลุมบอน พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายชุมพล ชาวลี้แสน พนักงานรักษาความปลอดภัยโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านมาบุญครอง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ว่า ถูกนักศึกษาซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในสองสถาบันดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสถาบันใด รุมทำร้ายร่างกาย เนื่องจากเมื่อช่วงเช้ามืดวันเดียวกันมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งประมาณ 7 คน รุมทำร้ายนักศึกษาคู่อริ จากนั้นนักศึกษาที่ถูกรุมทำร้ายวิ่งหลบหนีเข้าไปในโรงแรมที่นายชุมพลทำงาน นายชุมพลจึงปิดประตูไม่ให้คู่อริทั้ง 7 ตามมา แต่ทั้ง 7 คนตะโกนบอกว่าหากไม่เปิดประตูให้เข้าไปจะใช้อาวุธปืนยิงใส่
"ด้วยความกลัว นายชุมพลจึงยอมเปิดประตูให้เข้าไป แต่นักศึกษาทั้ง 7 คน ตามหาคู่อริไม่พบ จึงย้อนกลับมารุมทำร้ายนายชุมพล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งสืบสวนว่านักศึกษาจากสถาบันใดเป็นคนก่อเหตุ โดยมีหลักฐานจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของโรงแรมดังกล่าวจับภาพไว้ได้" พ.ต.อ.ไพศาล กล่าว
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า ศาลไม่ได้อนุมัติหมายจับ 4 นักศึกษา และตีกลับคำร้องเนื่องจากพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ โดยศาลชี้แจงว่าภาพที่นำมาขอนั้นยังไม่ชัดเจน และยังไม่สามารถระบุได้ว่ากลุ่มนักศึกษาดังกล่าวเป็นนักศึกษาจากสถาบันใด ดังนั้นให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นกว่านี้ เช่น ภาพสเก็ตช์คนร้าย
"เมื่อศาลยังไม่อนุมัติหมายจับเพราะหลักฐานยังไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ก็ต้องเร่งหาพยานหลักฐานให้แน่นหนาชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อยื่นขออนุมัติหมายจับใหม่ คงต้องลงพื้นที่และหาพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อระบุตำหนิรูปพรรณสัณฐาน เพื่อจะใช้ในการสเก็ตช์ภาพคนร้าย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งดำเนินการหาผู้กระทำผิดมารับโทษ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย" พ.ต.อ.ไพศาล กล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าตำรวจ สน.ปทุมวัน จับกุมนายสว่างพงศ์ ธรรมจรรย์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้พร้อมอาวุธปืนขนาด 32 มม. หลังก่อเหตุยกพวกตะลุมบอนกันที่หน้าห้างมาบุญครอง ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.ณพงษ์ กปิตถัย สารวัตร สน.ปทุมวัน นำนายสว่างพงศ์ ผู้ต้องหาคดีครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ไปยื่นคำร้องขอฝากขังเป็นผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้ เป็นเวลา 12 วัน คือตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานหลายปากรอผลการตรวจสอบอาวุธปืน ลายพิมพ์นิ้วมือ ตรวจสอบประวัติอาชญากร และอื่นๆ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมาบิดาของนายสว่างพงศ์ซึ่งเป็นนายทหาร ได้ยื่นคำร้องพร้อมใช้ตำแหน่งขอประกันตัว โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหานักศึกษายกพวกตีกันว่า เป็นเรื่องที่สถาบันการศึกษาจะต้องแก้ไขในรายละเอียด ซึ่งตำรวจมีหน้าที่เพียงป้องกันและระงับเหตุตามกำลังที่มีเท่านั้น
เมื่อเวลา 07.40 น. วันเดียวกัน ร.ต.อ.กันตภณ ปิ่นทอง ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำว่ามีนักเรียนถูกอาวุธมีดฟันอาการสาหัส ไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พบนายวรวุฒิ สายพิมพ์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 โรงเรียนหาดอมรา มีบาดแผลถูกฟันด้วยอาวุธมีดที่ข้อมือซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์จนเส้นเอ็นขาด แพทย์ต้องผ่าตัดเป็นการด่วน
จากการสอบสวน นายวรวุฒิ ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าระหว่างที่ตนกับเพื่อนจะไปขึ้นรถโดยสารประจำทางไปโรงเรียน ขณะเดินผ่านลานอเนกประสงค์ด้านศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถนนศรีสมุทร ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 5 ที่อยู่ในชุดนักเรียนประมาณ 10 คน วิ่งเข้ามาทำร้าย โดยหนึ่งในนั้นใช้มีดดาบหัวตัดยาวประมาณ 1 ฟุต ไล่ฟันพวกตน จนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงต่างพากันวิ่งหนีอย่างชุลมุน เพราะเกรงจะโดนลูกหลง
"ผมพยายามวิ่งหลบหนีแต่ไม่ทัน นักเรียนคนดังกล่าวได้ใช้มีดฟันแสกหน้า ผมจึงยกมือซ้ายขึ้นมากัน จึงถูกมีดฟันเข้าอย่างจัง หลังก่อเหตุกลุ่มนักเรียนที่ทำร้ายพวกผมต่างพากันแยกย้ายหลบหนีเข้าไปโรงเรียนเทศบาล 5 ที่อยู่บริเวณหลังศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ผมจำหน้าคนที่ทำร้ายได้แม่น" นายวรวุฒิ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนติดตามตัวนักเรียนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นเจ้าภาพรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ซึ่งจะมาเรียนร่วมกัน ว่าจะเข้าไปดูกระบวนการคัดเลือกนักศึกษาของทั้งสองแห่ง โดยอาจจะต้องมีการปรับกระบวนการคัดเลือกนักศึกษาใหม่ที่จะเข้ามาเรียนในชั้นปีที่ 1 เพราะนักศึกษาในชั้นปีที่ 1 มีความสำคัญที่สุด ซึ่งต้องคัดกรองคนที่มีคุณภาพ มีวินัย และมีความประพฤติที่ดี
"โดยต่อไปต้องมีการกำหนดฐานคะแนนขั้นต่ำในรายวิชาต่างๆ ที่ใช้ในการสอบคัดเลือกเข้ามาประกอบกับคะแนนความประพฤติ เพื่อให้ได้คนรุ่นใหม่และมาจัดการเรียนการสอนร่วมกัน เรื่องดังกล่าวสภามหาวิทยาลัยของทั้งสองจะต้องหารือร่วมกัน เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการร่วมกัน" ดร.สุมธกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
