แม้ว ลั่นตายเป็นตาย ทวงความยุติธรรมคืน (ไทยรัฐ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.35 น. ที่ผ่านมา (14 ก.พ.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์โฟนอินเข้ามาในงานเลี้ยงระดมทุนของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หน้าวัดเวฬุวนาราม หรือวัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง ภายใต้ชื่องานว่า "วันแห่งความรักประชาธิปไตย" ซึ่งมีการจัดโต๊ะจีนเพื่อระดมทุน จำนวน 1,000 โต๊ะ ในราคาโต๊ะละ 10,000 บาท
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวทักทายกลุ่มเสื้อแดงว่า วันนี้เป็นวันแสดงความรัก วันนี้พวกเรามาแสดงความรักต่อประเทศไทย ซึ่งกำลังถูกกัดกร่อนอย่างไม่สนกติกา ตนไม่ห่วงอำนาจ เพราะเป็นเรื่องเล็กแต่ห่วงว่าต่อไปนี้ประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ไม่รู้ว่าการที่ปล้นเขามาแล้วจะดูแลประชาชนได้อย่างไร จากการที่ตนเดินทางรอบโลกได้เห็นสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ วิกฤติการเงินที่ลุกลามทั่วโลกหลายที่จนบริษัทใหญ่ล้ม เพราะธนาคารไม่มีเงินให้กู้ ไม่รู้ว่าจะลามถึงประเทศไทยตอนไหน ประเทศไทยส่งออกกว่า 70 % ของจีดีพี ที่ส่งไปทั่วโลก แต่ปรากฏว่ากำลังซื้อไม่มี การท่องเที่ยวก็มีปัญหา เพราะไม่มีความน่าเชื่อ เอาคนยึดสนามบินมาเป็นรัฐมนตรี
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า การใช้ประชานิยมมาแก้เศรษฐกิจไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายเพื่อดูแลพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าเศรษฐกิจปี 2009 จะแย่อย่างแน่นอน เด็กที่จบใหม่จะไม่มีงานทำ พ่อแม่ไม่มีเงินส่งลูกเรียนหนังสือ เกิดปัญหาสังคมตามมา
"การเมืองที่อ่อนแอแบบนี้จะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร การเมืองที่มี 2 มาตรฐาน ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่มีทางที่ประเทศจะฟื้นได้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
นอกจากนี้ อดีตนายกรัฐมนตรียังย้ำว่า จะไม่ยอมแพ้ จะสู้ต่อไป และจะกลับมารับใช้ประเทศอีกครั้ง หากประชาชนพร้อมให้กลับ แม้ว่ากลับมาแล้วจะถูกฆ่าตายก็ตาม ส่วนที่ฝ่ายตรงข้ามเรียกร้องให้กลับมาขึ้นศาลนั้น ต้องถามว่าขึ้นศาลแล้วจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้นมาสอบสวน
"ผมไม่ได้เป็นคนหาเรื่องราวแต่ต้องการแสวงหาความเป็นธรรม ผมกลายเป็นเหยื่อ เชื่อไหมครับว่า พวกพันธมิตรจะไปที่ไหน ตำรวจทหารดูแลเป็นแถว แต่เสื้อแดงไปไหนก็ถูกห้าม" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว และย้ำว่า สำหรับตนพูดกันดีๆ ก็รู้เรื่อง แต่ถ้าแกล้งกันแล้ว ตายเป็นตาย ตายดีกว่าเป็นผู้แพ้
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
