ฟลุค ขู่มีแฉอีกอื้อถ้า ชัญญ่า ไม่ยอมหยุดพูด

ฟลุค ขู่มีแฉอีกอื้อถ้า ชัญญ่า ไม่ยอมหยุดพูด (สยามดารา)

          ศึกซดเกาเหลาหม้อใหญ่ ระหว่าง คาสโนวาบ้าของแพง "ฟลุค" เกริกพล มัสยวาณิช กับ สาวน้อยไฮโซ "ชัญญ่า ทามาดะ" จะผ่านไปแล้วกว่าสัปดาห์ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะยิ่งบานปลาย เพราะทั้งไฮโซคนสวยและพ่อม่ายเนื้อหอม นอกจากที่จะไม่มีใครยอมใครแล้ว ทั้งคู่ยังเพิ่มความคุกรุ่นของศึกครั้งนี้ด้วยการแฉกันไปแฉกันมา ทั้งที่ปากทั้งคู่ก็บอกว่าอยากให้จบให้สิ้นกันสักที แต่ภาพที่ออกมากลายเป็นว่า "ฟลุค-เกริกพล" และ "ชัญญ่า ทามาดะ" สาดสงครามน้ำลายใส่กันอย่างไม่รู้จบ 

          ล่าสุดทั้งสองฝ่ายเปิดฉากฉะกันผ่านรายการแฉแต่เช้า โดยมี 2 ดีเจ กฤษณ์-มดดำ เป็นตัวกลาง ด้าน วิน ยันไม่ได้คบกับชัญญ่าเพื่อกลบข่าวเกย์ตามที่เป็นข่าว งานนี้ลูกครึ่งสาวออกแรงช่วยยันอีกแรง ส่วนที่ปล่อยให้สาวลูกครึ่งไปกินข้าวกับคาสโนวาเพราะหลวมตัว ด้านฟลุคถามบอกว่าปากบอกแฟนสาวหลวมตัว แต่ตนเคยไปไหนกับ ชัญญ่า ตั้งหลายครั้งแล้ว ส่วนเรื่องหลักฐานที่ชัญญ่าพูดว่าวินเป็นเพื่อนเกย์ อันนี้เกริกพลบอกไม่มี เพราะไม่ได้คิดจะมานั่งแฉ รับเครียดเหมือนกันนะ ด้านแม่ช้อยนางรำ (สันติ เศวตวิมล) ว่าที่พ่อตา "ฟลุค-เกริกพล" ปัดไม่ขอยุ่ง พร้อมยกวาทะเด็ด "มันเป็นเรื่องของลูกคนอื่น ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับลูกของผม ซึ่งก็คือ "น้องแพง-ขวัญข้าว" คนเดียวเท่านั้น" 

          คาสโนวา (ผู้ที่นอนยันว่ายัง) บ้าของแพง "ฟลุค-เกริกพล"  ซวยไม่จบไม่สิ้นสิ้น ไอโฟนหาย หวั่นมีภาพหลุด โดนคนโน้นคนนี้จวกยับว่าไม่เป็นผู้ชายบ้างล่ะ  ที่ไปสู้ศึกกับสาวลูกครึ่ง หนำซ้ำต้องผจญกับสงครามน้ำลายระหว่าง เขา-ชัญญ่า ลูกครึ่งปลาดิบ ยังไม่จบไม่สิ้น  โดยล่าสุดเช้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สองดีเจ  กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ และ "มดดำ" คชาภา ตันเจริญ  จากรายการแฉแต่เช้า ได้มีการนำเสนอข่าวอย่างเป็นกลาง และติดต่อชัญญ่าให้โฟนอินเข้ามาพูดคุยในรายการ เนื่องจากอยากฟังความจากทุกๆ ฝ่าย ทั้ง ฟลุค และ  "หนุ่มวิน-ไรวินทร์" ซึ่งเป็นเพื่อนชายคนสนิทของชัญญ่า โดยทาง ดีเจกฤษณ์ ได้รุกถามหนุ่มวินว่า เป็นแฟนชัญญ่าจริงหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวลือหนาหูว่าคบกันเพราะต้องการกลบข่าวเป็นเกย์

          เบื้องต้นวินยืนยันว่าไม่ได้เป็นเกย์  อยากให้ดูน้ำหนัก และดูคนพูดด้วย พิธีกรถามต่อว่าถ้าเป็นแฟนจริงทำไมถึงปล่อยชัญญ่าไปกินหมูกระทะกับฟลุค เจ้าตัวบอกว่าหลวมตัวไม่คิดว่าจะมีเหตุร้ายขนาดนี้ และมาได้ถึงขนาดนี้ เพราะวันนั้นก็ไปกินกันหลายคน ตัวคนนั้นก็พูดว่าไปหลายคน ซึ่งมีเรื่องตรงกันแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว

          ส่วนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ไม่ใช่ว่าอยากจะมาเกาะกระแสใครดัง ที่ผ่านมาเป็นฝ่ายตั้งรับมาตลอด ผิดกับอีกฝั่งที่เป็นคนออกมาให้ข่าวไม่หยุด "และที่ผ่านมาเค้าก็ไม่เคยไปไหนมาไหนกันสองต่อสอง บางทีไปกันเป็นสิบ ผมเองเป็นคนรักษาคำพูด ตกลงกันว่าจะไม่ออกมาให้ข่าว ผมก็เงียบ   แต่สิ่งที่เขาทำมันต่างกับคำที่เขาพูดนะ เขาให้สัมภาษณ์ทุกรายการ แต่จบทุกครั้งด้วยคำว่าไม่พูด"

          ด้านชัญญ่าได้ยืนยันว่าตนไม่ได้พูดกับฟลุคว่าทางแฟนหนุ่มเป็นเกย์  และในวันนี้ไม่ได้ตั้งใจมาให้สัมภาษณ์แค่อยากช่วยยันว่าวินเป็นแมนเท่านั้น อยากจะให้จบได้แล้ว

          ในขณะที่ชัญญ่ากำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้นทาง คาสโนวาได้  SMS มาหามดดำว่า  "Want to meet friend why don't you just go to dinner with them?"   แปลออกมาแล้วก็คือ "ถ้าคุณอยากพบเพื่อนแล้วทำไมคุณไม่ไปดินเนอร์กับเรา" จากนั้นได้โฟนอินขอเคลียร์ตัวเอง งานนี้ดีเจกฤษณ์จึงพูดขึ้นว่า "อีกฝ่ายจบแล้วแต่เขาไม่อยากจบเหรอถึงได้โทร.เข้ามา" ด้านฟลุคกล่าวว่าขอให้จบจริงๆ แต่เดี๋ยวอาจจะมีอะไรโผล่ออกมาอีกตนขอพูดให้หมดเลย

          "เมื่อสักครู่ที่น้องเด็กคนนั้นออกมาพูดว่า ไม่ได้พูดว่าคุณวินเป็นอย่างนั้น แต่เขาบอกผมเองว่า "My gay friend" และยังมีอีกที่เขาบอกว่า เขาหลวมตัวให้น้องคนนั้นมากินข้าวกับผมและกินหลายคน จริงๆ ไม่ได้เจอกันครั้งเดียวของผมกับคุณชัญญ่า ผมเคยเจอเขาประมาณ 2-3 ครั้ง ครั้งหนึ่งคือตอนเขามาทำผมที่ร้านฮาชิ ตอนนั้นน้องอชิอยู่ด้วย และมีอีกครั้งไปกินข้าวกันที่ร้านสึนามิ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่แคร์ วันนั้นผมชวนเพื่อนคุณแพงไปทาน นัดกันตอนเที่ยง แต่ปรากฏ คุณจุ๋ม (เพื่อนแพง) มาสาย ปกติเขามาสายประจำอยู่แล้ว ผมบอกไม่ต้องมาแล้ว เพราะบ่ายโมงครึ่งผมต้องรีบออกไปรับน้องอชิ น้องชัญญ่าก็ยังติดรถผมพาไปลงทางด่วน แล้วเขาก็ขึ้นแท็กซี่หรือคนรถของเขาก็ไม่รู้ เพื่อที่จะไปร้านเขา จริงๆ ก็เคยไปสองคนด้วย แต่ผมบอกเลยว่าไม่ได้คิดอะไร" 

          คาสโนวาบ้าของแพงยังย้อนอดีตให้ฟังว่ารู้จักกันมาตั้งแต่ปลายปี 51  มีการสื่อสารกับทางอินเทอร์เน็ตบ้าง  ส่วนการไปกินหมูกระทะแพงรับรู้ 

          "ซึ่งคุณแพงก็รู้เพราะผมนั่งคุยโทรศัพท์กับเขาอยู่ ผมคิดว่าเรื่องที่สำคัญ คือ ในเมื่อที่ผมพูดไปมันดีอยู่แล้ว คุณออกมาโต้ทำไม ถ้าเกิดคุณไม่อยากมีปัญหาเป็นข่าว ตอนที่ผมพูดว่าบังเอิญเจอกันมันสวยที่สุดแล้ว ลองไปถามเขาได้ว่าไปจริงหรือเปล่า" อีกทั้งย้ำว่าตนมีบิลเก็บไว้  ส่วนเรื่องหลักฐานที่ชัญญ่าพูดว่าวินเป็นเพื่อนเกย์ อันนี้เกริกพลบอกไม่มี  เพราะไม่ได้คิดจะมานั่งแฉ ไม่ได้คิดเกาะใคร เท่านี้ก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว  พร้อมยังบอกอีกว่าอีกฝ่ายมีพ่อแม่ ตนก็มีลูก เครียดเหมือนกัน พร้อมกล่าวแบบมั่นใจว่าต่อไปอีกฝ่ายคงจะแฉอะไรไม่ได้แล้ว เพราะนี่คือความจริงทั้งหมด ยืนยันซ้ำ

          "ถ้าเขาไม่พูดอะไรอีก ผมก็ไม่พูด แต่ถ้าเขาพูดผมมีอีกเพียบเลย"

          ส่วนเรื่องเบอร์ที่ฝากข้อความลิงค์ไปที่เบอร์ชัญญ่า ประเด็นนี้ฟลุคชี้แจงว่า เบอร์เขามีคนโทร.เข้ามาเรื่อยๆ  แต่ตนจะพูดให้ฝากข้อความไว้ที่เลขาฯ หรือไม่โทร.เข้าเบอร์ส่วนตัว ซึ่งคนที่เป็นเพื่อนเขา หรือ คนที่ผมจริงจังเป็นแฟนจะต้องรู้เบอร์ดังกล่าว แต่ชัญญ่าไม่รู้เบอร์ส่วนตัวของเขา 

          หลังจากฟังเสียงฟลุคเปิดใจไปแล้ว สยามดาราได้ทำการติดต่อไปยัง ฟลุค และ "แพง" ขวัญข้าว เศวตวิมล   เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะอุปกรณ์ในการสื่อสารของฟลุคหายไปในงานสุพรรณหงส์

          อย่างไรก็ตามเกียวกับสงครามน้ำลายที่กำลังบานปลายนั้น ผู้สื่อข่าวสยามดาราได้สอบถามความคิดเห็นไปยัง คอลัมนิสต์ชื่อดัง  "แม่ช้อยนางรำ" สันติ เศวตวิมล คุณพ่อของ "แพง" ขวัญข้าว เศวตวิมล และเป็นว่าที่พ่อตาของฟลุค  ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของลูกสาวกับ ฟลุค-เกริกพล หรือไม่ ? 

          โดย "แม่ช้อย" กล่าวอย่างสบายอุราชนิดคุยไปขำไปว่า ไม่อยากยุ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฝ่ายชาย ตนก็จะให้สิทธิ์ขาดกับลูกสาวเป็นคนตัดสินเรื่องหัวใจว่าจะเดินหน้า หรือจะถอยหลังตามสบาย "ผมพอได้ยินข่าวเกี่ยวกับคุณฟลุคกับน้องชัญญ่ามาบ้าง ตรงนี้ผมบอกตามตรงเลยว่า ผมไม่อยากยุ่งนะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของลูกคนอื่น ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับลูกของผมซึ่งก็คือ "น้องแพง-ขวัญข้าว" คนเดียวเท่านั้น"

          "เรื่องนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องขำๆ นะ เป็นเรื่องของเด็กๆ ผมเลยไม่อยากยุ่ง แต่ถ้าเกิดลูกสาวเราได้หมั้นหมายกับเค้าแล้วสิ อันนั้นผมถึงจะยุ่ง เพราะการที่คนเรารักกัน ชอบพอกัน ไม่ได้ถึงขนาดหมั้นหมาย หรือแต่งงานมันก็ไม่แน่นอนหรอก สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับ คุณฟลุค กับ น้องชัญญ่า เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับลูกสาวผม แต่ถ้าถามว่ากลัวลูกสาวเสียใจมั้ย มันก็ขึ้นอยู่กับเค้าเองว่าเค้าจะแฮปปี้มั้ย เพราะผมเองก็เคยบอกเค้าบ่อยๆ ว่า รักซะอย่าง จะไปกลัวอะไรกับอนาคตที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ผมปล่อยเค้าอิสระมาตั้งแต่เค้าเรียนจบ มีงานทำแล้ว เรื่องหัวใจเค้ามีสิทธิ์เต็มที่ครับ" สันติ กล่าวในที่สุด


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก