x close

ผีแดง แม่นโทษดับ ไก่ ซิวแชมป์ลีกคัพ สมัย 3




ผีแดง แม่นโทษดับ ไก่ ซิวแชมป์ลีกคัพ  สมัย 3 (ไทยรัฐ)

           การแข่งขันฟุตบอล "คาร์ลิง คัพ" นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เป็นการพบกันระหว่างแชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว "ไก่เดือยทอง" ทอตแนม ฮอตสเปอร์ พบกับจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

           แชมป์เก่า สเปอร์ ขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามครบครัน มี เอเรลโญ โกเมส เป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบด้วย เบอนัวต์ อัสซู-เอค็อตโต, เวดราน ชอร์ลูกา, เล็ดลีย์ คิง, ไมเคิล ดอว์สัน กองกลางส่ง เจอร์เมน จีนาส กับ ดิดิเยร์ โซโกรา ทำเกมส์ตรงกลาง โดยมี อารอน เลนนอน ปีกตัวจี๊ด และลูกา โมดริช คอยโจมตีริมเส้น ส่วนคู่หน้า แฮร์รี เรดแนพพ์ เลือกใช้ ดาร์เรน เบนท์ คู่กับ โรมัน พาฟลูเชนโก

           ส่วนฝั่งทีม ปีศาจแดง จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ท่าน เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ใช้ผู้เล่นผสมกันระหว่างนักเตะดาวรุ่งกับทีมชุดใหญ่มี  เบน ฟอสเตอร์, จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, โจนาธาน อีแวนส์, ปาทริซ เอฟรา, หลุยส์ นานี, พอล สโคลส์,  ดารอน กิ๊บสัน คารอส เตเวซ และ แดนนี เวลเบ็ค

           เริ่มเกมส์ในช่วงแรก ทั้งสองทีมยังเล่นแบบระวังตัวกันอยู่ แต่เป็นทางฝั่งปีศาจแดงได้โอกาสเสียวก่อนในนาทีที่ 5 จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา ตรงกลางประตู โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างได้ลุ้น และหลังจากนั้นอีกนาทีเดียว โรนัลโด้ คนเดิมมีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษบอลพุ่งไปตรงตัว โกเมส รับเข้าซองสบาย

           นาทีที่ 13 ปีศาจแดง ได้ลุ้นอีกจากลูกยิงไกลระยะ 25 หลา โดดาร์รอน กิ๊บสัน มิดฟิลด์ดาวรุ่ง แต่บอลพุ่งแรงเหินข้ามคานไปอย่างได้ลุ้น  อีก 2 นาทีต่อมา เป็นโอกาสโชว์ของ นานี ที่ลากบอลขึ้นมาจากฝั่งซ้ายแล้วตัดเข้ากลางก่อนตัดสินใจยิง เป็นโกเมสที่พุ่งปัดออกหลังเสียเพียงเตะมุมฝั่ง แชมป์เก่า มีโอกาสสวนมาบ้างจากจังหวะที่ อารอน เลนนอน พาบอลขึ้นมาทางขวาก่อนตบเรียดเข้ากรอบเขต ให้กับ โรมัน พาฟลูเชนโกเข้าชาร์จแต่จังหวะสุดท้ายติดบล็อคของ ริโอ เฟอร์ดินานด์

           เกมตกเป็นของปีศาจแดง และมีโอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะสกัดบอลกันไม่ขาดของกองหลังสเปอร์ เป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์ เก็บตกหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนสับไกจากระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งในลักษณะใบไม้ร่วงบอลแต่แรงไปนิดเดียว บอลตกด้านบนของตาข่าย เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้ทั้งสนาม

           ครึ่งชั่วโมงผ่านไป แชมป์เก่า เริ่มทำเกมส์ได้ดีขึ้น และมีโอกาสได้ลุ้นจากจังหวะที่ อารอน เลนนอนใช้ความเร็วกระชากผ่าน นานี ไปสุดเส้นหลังก่อนเปิดเรียดเข้ากลางแต่ยังมี จอห์น อีแวนส์ ตามมาสกัดจังหวะสุดท้ายได้ทัน
หลังจากนั้นเป็นผีแดงที่ครองเกมส์ไว้ได้หมดแต่ยังเจาะประตู สเปอร์ ไม่ได้ ก่อนจบครึ่งแรก 0-0

           กลับมาเล่นต่อในครึ่งเวลาหลัง ยังเป็นฝ่ายปีศาจแดงที่เปิดเกมส์บุกอยู่ โดยมีโอกาสลุ้นจากลูกฟรีคิก ของโรนัลโด้ แต่ก็ยังไม่เข้ากรอบ  รูปเกมส์ในตอนนี้ทั้งสองทีมผลัดกันครองบอลแต่ไม่มีโอกาสเข้าทำที่ชัดเจน ผีแดง พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่ กิ๊บสัน เปิดลูกเตะมุมเป็น โกเมสออกมาชกบอล บอลลอยมาเข้าทาง โจนาธาน อีแวนส์ ได้ซัดแต่ยิงไม่ดีบอลปลิ้นไปเข้าทาง คารอส เตเบส ที่ยืนรออยู่หน้าปากประตู  ก่อนที่จะไขว้ยิงบอลหลุดออกนอกกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ

           โอกาสจังๆ ของ สเปอร์ มาในนาทีที่ 70 จากจังหวะที่ เอค็อตโต้ เติมเกมส์ขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนเปิดเรียด เข้ามาผ่าน ลูก้า โมดริช บอลเลยมาถึง เลนนอน ที่รออยู่ทางเสาสองก่อนที่จะจับบอลหนึ่งจังหวะแล้วตัดสินใจยิงเต็มข้อ แต่เป็น เบน ฟอสเตอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกไปได้  เกมส์ในช่วงนี้เป็นสเปอร์ที่สามารถครองเกมส์กดดัน ปีศาจแดงตลอด จนนาทีที่ 75 เซอร์ อเล็กต้องส่ง เนมายา วิดิช ลงมาแทน จอห์น โอเช ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก

           การแข่งขันเดินมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายรูปเกมส์ของ “ปีศาจแดง” ยังไม่ดีขึ้น ยังโดนแชมป์เก่ากดดันอยู่ตลอดแต่ยังดีที่จังหวะสุดท้ายกองหลังยังช่วยกันสกัดไว้ได้ สเปอร์มีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่ อารอน เลนนอน ทำชิ่ง 1-2 กับ ชอร์ลูก้า ก่อนทะลุแขตโทษ แต่วิดิชยังตามมาสกัดจังหวะสุดท้ายได้ทัน

           ช่วงทดเวลา สเปอร์เกือบเจอทีเด็ด โรนัลโด ที่ไดบอลทางฝั่งขวาก่อนเลี้ยงผ่าน เอค็อตโต้ เข้ากรอบเขตโทษ ก่อนสับด้วยซ้าย บอลผ่านมือ โกเมส ไปแล้วแต่บอลดันพุ่งไปชนเสาร์ พลาดการได้ประตูชัยไปอย่างน่าเสียดาย  จบ 90 นาทียังทำอะไรกันไม่ได้ ต้องต่อเวลาอีก 30 นาที

           นาทีที่ 5 ในช่วงต่อเวลพิเศษ นานี มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะยิงสุดปลายเท้า บอลเลยไม่มีน้ำหนัก ไหลไปเข้ามือ โกเมส รับสบาย  ผ่านมา 10 นาที แฮร์รี เรดแนพพ์ ต้องส่ง ดาวิด เบนท์ลีย์ ลงมาแทน อารอน เลนนอน ที่เป็นตะคริว ส่วนแมนฯยู มีโอกาสได้ลุ้นจากจังหวะสับไกยิงหน้ากรอบเขตโทษของโรนัลโด แต่บอลหลุดเสาสองออกไป และก่อนหมดเวลาช่วงต่อเวลาครึ่งแรก แมนฯยูฯ มีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะการลุยมาสุดเส้นหลังก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ คารอส เตเวส ขึ้นโหม่งแต่บอลก็ยังหลุดออกนอกกรอบอยู่ดี

           เข้าสู่ต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง สเปอร์มีโอกาสได้ลุ้นประตูก่อนจากการหลอกยิงฟรีคิกระยะประมาณ 40 หลา บอลลอยลงมาตกด้านบนของตาข่าย หลังจากนั้น ปีศาจแดง มีโอกาสได้ลุ้นบ้างจากจังหวะยิงหน้ากรอบเขตโทษของ คารอส เตเบส บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างไม่ได้ลุ้น

           แชมป์เก่า ที่มีโอกาสทำประตูจากจังหวะลูก้า โมดริช พาบอลมาก่อนถูกปั๊มแย่งบอลบอลไหลมาที่ ดาร์เรน เบนท์ ตั้งป้อมยิงในกรอบเขตโทษ แต่ยิงไปติดเซฟของ ฟอสเตอร์ ก่อนที่กองหลังจะช่วยกันสกัดออกไป ฝั่ง “ปีศาจแดง” สวนกลับขึ้นมาบ้างจากการเติมขึ้นมาเปิดทางฝั่งขวาของ โจนาธาน อีแวนส์ ก่อนเปิดเข้ามาถึงเสาสองเป็นเอฟราที่เติมขึ้นมายิงฮาฟวอลเลย์ บอลพึ่งเหินข้ามานออกไปนิดเดียว  หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันไป 0-0 ต้องตัดสินชี้ขาดด้วยการดวลจุดโทษ

           คนแรกของ ผีแดง คือ ไรอัน กิ๊ก ยิงเข้าไปให้ ผีแดง ขึ้นนำก่อน ก่อนที่ เจมี โอฮารา จะยิงไปติดเซฟของ เบน ฟอสเตอร์ ผ่านคนแรกไป ปีศาจแดงขึ้นนำ 1-0 คนที่สองของทั้งสองทีม คือ คารอส เตเบล และ เวดราน ชอร์ลูก้า ยิงเข้าทั้งคู่ผ่านคนที่สอง ปีศาจแดง นำอยู่ 2-1

           เข้าสู่คนที่ 3 ปีศาจแดง ส่ง โรนัลโด ส่วนฝ่าย สเปอร์ เป็น ดาวิด เบนท์ลีย์  โรนัลโดยิงเข้าไปไม่มีปัญหาแต่ เบนท์ลีย์ยิงออก ทำให้ปีศาจแดงขึ้นนำ 3-1 คนที่ 4 ของปีศาจแดงเป็น แอนเดอร์สัน ที่ยิงเข้าไปทำให้ปีศาจแดงเอาชนะ แชมป์เก่า สเปอร์ จากจุดโทษ 4-1

           ด้านนผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ในวันเดียวกัน ฮัลล์ ซีตี้ เปิดบ้านแพ้ให้กับ "กุหลาบไฟ" แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 1-2  เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 โบลตัน วอนเดอเรอร์ส ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-0 แอสตัน วิลลา เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 2-2

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผีแดง แม่นโทษดับ ไก่ ซิวแชมป์ลีกคัพ สมัย 3 อัปเดตล่าสุด 2 มีนาคม 2552 เวลา 11:08:34 4,538 อ่าน
TOP