x close

ยื่นอภิปราย ไม่ไว้วางใจ 11 มี.ค.


ยื่นอภิปราย ไม่ไว้วางใจ 11 มี.ค. (ไทยรัฐ)

         เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 3 มี.ค. 2552 นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ประธานวิปฝ่ายค้าน ร่วมกันแถลงผลการประชุมพรรคเพื่อไทย โดยนายยงยุทธกล่าวว่า พรรคยืนยันที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 11 มี.ค. และมีมติเอกฉันท์ให้เสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส. สัดส่วน ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯแนบญัตติอภิปรายนายกฯ โดยในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อรับรองมตินี้

         นายวิทยากล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช แสดงความไม่เห็นด้วยที่เสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมขึ้นเป็นนายกฯว่า เรื่องนี้เป็นมติของพรรคเพื่อไทย เราเคารพกติกาของพรรค ส่วนการชี้แจงกับพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น จะมีการเรียนเพื่อทราบตามมารยาททางการเมืองต่อไป อย่างไรก็ตาม การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ส.ส.ของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะร่วมอภิปรายฯด้วยก็ได้ ส่วนการลงมติจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นดุลยพินิจของแต่ละพรรค โดยในวันที่ 5 มี.ค. จะมีการหารือร่วมกันในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน

เย้ยรัฐบาลลงพื้นที่ปากกล้าขาสั่น

         นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมพรรคว่า ที่ประชุมพรรคได้กำหนดยุทธศาสตร์หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะทำวีซีดีการอภิปรายของฝ่ายค้านแจกประชาชนทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนเห็นข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลมีข้อผิดพลาดอย่างไร โดยเฉพาะตัวนายกฯที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายถึง 14 ประเด็น นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงกรณีที่รัฐบาลจะได้เริ่มลงพื้นที่ต่างจังหวัด แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มปากกล้าขาสั่น เกรงว่าการอภิปรายจะมีผล จึงเริ่มลงพื้นที่เตรียมการเลือกตั้ง โดยออกหาเสียงตามต่างจังหวัด ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงให้ ส.ส.ทุกจังหวัด ใช้แผนประกบรัฐบาลทันที เช่น เมื่อนายกฯเสร็จสิ้นการลงพื้นที่ที่ จ.ลพบุรี จะให้ ส.ส.เพื่อไทยลงพื้นที่ประกบทันที เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ นอกจากนี้จะให้ ส.ส.ทุกคนจับตาในการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีว่า มีการใช้เงินงบประมาณเพื่อหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่

คุยโขมงหลังอภิปรายนายกฯยุบสภา

         นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ของพรรคได้วิเคราะห์ ว่า นายกฯมีสิทธิ์ตัดสินใจยุบสภาฯหลังจากฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล   เพราะมีหลักฐานชัดเจนที่สามารถโยงใยให้สังคมเห็นและเข้าใจว่ามีการทุจริต ร.ต.อ.เฉลิมได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า หลักฐานที่จะอภิปรายชัดเจนมาก ถ้ามีหลักฐานและข้อเท็จจริงในการอภิปรายไม่ดีจริง หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะขอรับผิดชอบ โดยการลาออกจากตำแหน่งประธาน ส.ส.ของพรรคทันที

         ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน ในฐานะโฆษกในที่ประชุม ได้กล่าวในช่วงที่ผู้สื่อข่าวและช่างภาพไปบันทึกภาพการประชุมพรรคว่า กรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ไม่เห็นด้วยกับการเสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นนายกฯนั้น เหตุที่นายเสนาะคัดค้านเพราะมีวาระซ่อนเร้นอย่างใดอย่างหนึ่ง วันนี้พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ร.ต.อ.เฉลิมคือศูนย์หน้าที่พรรคจะเสนอ และไม่ได้ขี้เหร่ หากอภิปรายฯแล้วนายอภิสิทธิ์ล้ม ร.ต.อ. เฉลิมก็จะเป็นนายกฯ

โดนขุดกิ๊กเพราะดาบนั้นคืนสนอง

         นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ว่า ฝ่ายค้านไม่ควรอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงนี้ว่า ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของฝ่ายค้านว่าเหมาะสมหรือไม่ ถ้ามีเหตุผลเพียงพอก็น่าจะทำได้ เป็นสิทธิและความชอบธรรมของฝ่ายค้านจะยื่นอภิปราย ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องคนในครอบครัวนายกฯมาอภิปรายด้วยนั้น นายชุมพลตอบว่า สมัยก่อนตอนที่เราเป็นฝ่ายค้านก็ทำแบบเดียวกัน ก็คงจะเป็นเรื่องดาบนั้นคืนสนอง แต่การเมืองสมัยใหม่ไม่ควรจะนำเรื่องนี้มาพูดหรือไม่ควรเอาเรื่องอดีตมาเป็นฐานในการอภิปราย ควรจะนำเรื่องบริหารงานในช่วง 3 เดือนมาอภิปราย โดยหลักควรจะเป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่าฝ่ายค้านยังไม่มีความชัดเจนรายชื่อนายกฯ นายชุมพลตอบว่า ขอให้ชัดเจนก่อน ถ้าเป็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย จะเอาจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ ถ้าพรรคเพื่อไทยพร้อมใจ ร.ต.อ.เฉลิมก็น่าจะได้ นักการเมืองบางคนไม่คิดว่าจะได้เป็นตำแหน่งสูงๆได้ก็เป็นได้ คนบอกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังเด็กก็เป็นได้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ก็ทำงานได้ดีพอสมควร เพราะฉะนั้นให้โอกาสดีกว่า เพราะตอนนี้นักการเมืองหาไม่ได้แล้ว ถูกเว้นวรรคเยอะ

ปชป.ซ้อมรับมือศึกซักฟอกรัฐบาล

         วันเดียวกัน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงผลการประชุมพรรคว่า สำหรับประเด็นเงิน 23 ล้านบาท ในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2548 ที่มีข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งเรื่องให้ กกต.นั้น พรรคยืนยันว่าพรรคได้ขออนุมัติค่าใช้จ่ายต่อ กกต. ทุกครั้ง ส่วนรายรับที่มาจากเงินสมทบ เงินบริจาคและการระดมทุน พรรคก็ได้ทำบัญชีรายรับครบถ้วน ไม่มีการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ เงินจำนวน 23 ล้านบาท เป็นการกล่าวหาทางการเมืองในแนวทางเดิมไม่มีมูลความจริง โดยในปี 2548 พรรคประชาธิปัตย์ได้ขออนุมัติใช้เงินต่อ กกต. จำนวน 68.79 ล้านบาท รวม 21 โครงการ โดยจำนวน 29 ล้านบาท ได้ขออนุมัติใช้สำหรับแผ่นป้ายขนาดใหญ่ และเล็ก ต่อมาขอลดขนาดป้ายลงจึงเหลืองบ 27 ล้านบาท ตามหนังสือที่ได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2548

         นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคยังได้หารือกันถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ยังไม่ทราบความชัดเจนจากฝ่ายค้านว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีคนใดบ้าง พรรคจึงให้รัฐมนตรีทุกคนทำการบ้านและชี้แจงให้ ประชาชนเข้าใจในปัญหา โดยที่ประชุมพรรคได้ให้ ส.ส. ซักฟอกรัฐมนตรี เป็นการซ้อมใหญ่ของรัฐมนตรีในการชี้แจงต่อสภาฯ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยื่นอภิปราย ไม่ไว้วางใจ 11 มี.ค. โพสต์เมื่อ 4 มีนาคม 2552 เวลา 14:28:08 2,910 อ่าน
TOP