หมอยื้อชีวิต รงค์ วงษ์สวรรค์ หัวใจหยุดเต้นรอบ 3 (ไทยรัฐ)
นพพร นิวัฒนนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลเทพปัญญา จังหวัดเชียงใหม่ กล่าววันนี้ (15 มีนาคม) ถึงอาการของ "รงค์ วงษ์สวรรค์" หรือ นายณรงค์ วงษ์สวรรค์ อายุ 77 ปี ศิลปินแห่งชาติและนักเขียนชื่อดัง ซึ่งเส้นเลือดในสมองแตกและหมดสติ ว่า เวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ แพทย์ต้องปั้มหัวใจหลังจากหัวใจของนายณรงค์หยุดเต้นเป็นครั้งที่ 3 หลังจากครั้งแรกหยุดเต้นไปเมื่อเย็นวานนี้ (14 มีนาคม)
ผอ.ฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลเทพปัญญา กล่าวต่อว่า วานนี้แพทย์ใช้เวลาปั้มหัวใจนายณรงค์นาน 10 นาที ทำให้อัตราการเต้นอยู่ที่ 111 ครั้งต่อนาที และมาวันนี้หัวใจหยุดเต้นครั้งที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. แพทย์เร่งปั้มหัวใจช่วยเหลือ มีอัตราการเต้น 119 ครั้งต่อนาที ต้องหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจ ความดันโลหิตวัดไม่ได้ และผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ยังอยู่ในห้องไอซียู โดยอาการขณะนี้ถือว่า วิกฤติและไม่คงที่ ซึ่งแพทย์ยังไม่เปลี่ยนแผนการรักษา โดยให้ยากระตุ้นหัวใจและมียาเพิ่มให้
มีรายงานว่า เช้าวันนี้บุตรชายคนโตของนายณรงค์เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว โดยของดการแถลงข่าว เพราะต้องการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและนายณรงค์ให้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ที่บริเวณชั้น 1 ของโรงพยาบาลเทพปัญญา มีผู้ใกล้ชิดและแฟนหนังสือของนายณรงค์เดินทางไปลงชื่อในสมุดเยี่ยมให้กำลังใจนายณรงค์อย่างต่อเนื่อง
วันเดียวกัน นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ปี 2536 เจ้าของฉายา "กวีรัตนโกสินทร์" กล่าวถึงนายรงค์ที่กำลังป่วยว่า ทราบข่าวอาการของนายรงค์พวกกวีนักเขียนในแวดวงวรรณกรรม มีความรู้สึกเป็นห่วงมากจึงได้ส่งกำลังใจขอให้หายป่วยในเร็ววัน
ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี 2536 กล่าวต่อว่า นายณรงค์เป็นผู้สร้างสรรค์งานเขียนหนังสือที่แตกต่างไปจากนักเขียนท่านอื่นๆ ในรุ่นราวเดียวกัน มีคลังภาษาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างที่กล่าวขานกันพญาอินทรีสวนอักษรเขียนได้อย่างโดดเด่น อลังการ เฉิดฉาย และน่าอ่าน มีลีลาภาษาที่เรียกว่านอกขนบ แม้แต่นักเขียนในปัจจุบันไม่มีใครสามารถทำได้
นายเนาวรัตน์ กล่าวอีกว่า ตนขอยกย่องให้นายรงค์เป็นอักขราจารย์ทางด้านวรรณศิลป์คนหนึ่งของเมืองไทย จึงอยากให้สถาบันการศึกษาได้นำงานเขียนของนายณรงค์ มาให้นักเรียนนักศึกษาที่สนใจงานเขียนวรรณกรรมได้ศึกษาหาอ่าน จะทำให้เห็นการใช้ภาษาเขียนและช่วยให้มีคลังภาษามากขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
