x close

ยังอายๆเขินๆ ชีวิตวันนี้ น้องสอง-บุตรี เผือดผ่อง








ยังอายๆเขินๆ ชีวิตวันนี้ น้องสอง-บุตรี เผือดผ่อง (เดลินิวส์)

         อยู่ในความสนใจของคนไทยมากทีเดียว หลังเป็นข่าว 2 ครั้ง 2 หนไล่เลี่ยกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ ครั้งแรก "ถูกขโมยมอเตอร์ไซค์" ครั้งหลัง "ตกรถกระบะจนบาดเจ็บ" จนทางคุณแม่เปรยว่าเห็นทีว่าช่วงนี้ลูกสาวดวงไม่ค่อยดี ซึ่งเรื่องดวงนั่นก็เรื่องหนึ่ง อีกเรื่องที่วันนี้ทีม "วิถีชีวิต" จะพาไปพูดคุยกับเธอถึงสารัตถะในชีวิตและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หลังกลายเป็น "ฮีโร่โอลิมปิก" ของคนไทยทั้งประเทศ จากกีฬา "เทควันโด"

มาดู "ชีวิตวันนี้" ของ "น้องสอง-บุตรี เผือดผ่อง" 

         น้องสอง-บุตรี เผือดผ่อง เกิดวันที่ 16 ต.ค. 2533 ตอนนี้อายุเพิ่งย่าง 19 ปี เธอเป็นนักกีฬาเทควันโดไทยที่คว้าเหรียญเงินในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ 29 ที่ประเทศจีน จากรุ่น 49 กิโลกรัม โดยเธอเริ่มฝึกเทควันโดตั้งแต่อายุได้ 11 ขวบ สนใจและอยากเล่นเพราะอยากเจริญรอยตามพี่สาวคือ “หนึ่ง-ภัสสร เผือดผ่อง” ซึ่งน้องสองก็ฉายแววชัดขึ้นหลังจากเริ่มลงแข่งขันรายการต่าง ๆ และได้เหรียญรางวัลโดยเฉพาะเหรียญทองมาตลอด อาทิ เหรียญทองกีฬาเยาวชนแห่งชาติ 3 สมัยซ้อน ปี 2548-2549-2550, เหรียญทองการแข่งขันเทควันโดเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ปี 2549 และ 2550, เหรียญทองเยาวชนชิงแชมป์โลก ปี 2549, เหรียญทองการแข่งกีฬาเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชียปี 2550 

         หลังกวาดรางวัล ในระดับเยาวชนจนที่แขวนแทบไม่พอ เธอก็เริ่มขยับเลื่อนขึ้นแข่งรุ่นประชาชน และคว้าแชมป์ประเทศไทยได้สำเร็จ และในซีเกมส์ครั้งที่ 24 ที่นครราชสีมาเป็นเจ้าภาพ ซึ่ง โค้ชจอมเฮี้ยบ เช ยอง ซุก เรียกตัวน้องสองเข้าแคมป์ทีมชาติ เธอก็คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ จากนั้นก็ไปคว้าเหรียญทองจากทัวร์นาเมนต์ ยูเอสโอเพ่นที่สหรัฐอเมริกาเพิ่ม จนมาถึงกีฬา โอลิมปิกครั้งที่ 29 ที่จีน เธอก็สามารถคว้าเหรียญเงินในรุ่น 49 กิโลกรัม เป็นเหรียญเงินเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ให้กับวงการเทควันโดไทย และนั่นก็ทำให้ชื่อเสียงของเธอโด่งดังชนิดตั้งตัวแทบไม่ติด กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน 

         กับชื่อเสียงเกียรติยศที่ถาโถมใส่ น้องสอง-บุตรีเผยว่า ไม่รู้สึกว่าชีวิตจะต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยอมรับว่ามีหลายสิ่งที่ทำให้วิถีชีวิตหรือบุคลิกประจำตัวต้องปรับเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง เพราะมีคนรู้จักเธอมากขึ้น อีกทั้งยังต้องเดินทางไปโชว์ตัวตามสถานที่ต่าง ๆ อยู่ตลอด ซึ่งเรื่องนี้ก็สอดคล้องกับคำยืนยันของนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย อาจารย์เอ-พิมล ศรีวิกรม์ ที่บอกว่า สองเป็นเด็กดีคนหนึ่งที่สมาคมภูมิใจ ปัญหาน้อย ส่วนความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือชีวิตของเขาจะไม่เหมือนเดิม เพราะมีคนรักมากขึ้น รู้จักมากขึ้น เป็นคนของประชาชน ไปไหนก็ต้องเป็นที่สนใจ "แต่ที่เหลือก็ขึ้นกับตัวเขาเอง...ว่าจะเปลี่ยนไหม ??" 

         "ถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปไหม ? ถ้าจะบอกว่าไม่เปลี่ยนเลยก็คงพูดได้ไม่เต็มที่นัก เพราะบางเรื่องบาง อย่างก็มีเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่สำหรับตัวเองแล้ว สองไม่เคยคิดว่าตัวเองเปลี่ยนแปลง” นี่เป็นคำกล่าวของน้องสอง ส่วนที่หลายคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “น้องสองยิ้มยาก" นั้น เธอก็ยอมรับ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เพราะหยิ่งหรือดังแล้วลืมตัว แต่ "เพราะเขิน" ไม่รู้จะวางตัวอย่างไรเวลาที่เจอคนรุมล้อม ? 

         ถามถึงประสบการณ์แปลก ๆ ภายหลังมีชื่อเสียง น้องสองบอกว่าก็ไม่ค่อยมี แต่จะมีที่ไม่ชอบหรือรู้สึกไม่ดีมากกว่า เช่นบางคนเวลาเจอเธอจะพยายามดึงเธอเข้าไปโชว์กับกลุ่มเพื่อนฝูงโดยแสดงกิริยาไม่ดีใส่ 

         "เราไม่รู้จักเขาเลยนะคะ แต่เหมือนเขาจะพยายามโชว์ให้คนอื่น ๆ เห็น เหมือนโชว์เพาเวอร์ ก็ตะโกนเรียกเราให้เข้าไปถ่ายรูปแบบจิก ๆ บางทีเราก็งง เพราะเราก็ไม่รู้จักเขา แต่ก็พยายามเก็บอารมณ์ไว้ เพราะเราก็รู้บทบาทของตัวเราเองดี แต่คิดในใจว่าบอกกัน ดี ๆ ก็ได้เราเองก็ไม่ใช่คนเรื่องมากอะไรอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ติดใจอะไร นี่ล่ะมั้งคะที่เราได้จากการที่เป็นคนมีชื่อเสียง ที่ได้คือความอดทนที่เพิ่มขึ้น"...ฮีโร่สาวน้อยเผยความรู้สึก 

         ส่วนกิจวัตรของเธอนอกจากเรื่องเรียนนั้น น้องสองบอกว่า หากไม่มีคิวเก็บตัวเข้าแคมป์เพื่อฝึกซ้อม สิ่งที่โปรดปรานมากที่สุดคือ "การนอน" โดยคนใกล้ตัวต่างก็รู้กันดีว่า "น้องสองเป็นแชมป์นอนอึด" ด้วย ซึ่งพี่สาวเธอเองก็ยังเผยว่าน้องสาวคนนี้มีดีกรีเป็นแชมป์นอนทน-นอนนาน และ "หลับได้ทุกที่-ทุกเวลา"

         “เขาคงใช้พลังเยอะ เวลามีช่วงว่าง ๆ เขาเลยอยากจะนอนพักผ่อนให้มากที่สุด เดินห้าง ไปเที่ยวอะไรนี่สองแทบไม่ค่อยได้ไปเลยนะ จะมีบ้างแต่ก็น้อย ส่วนใหญ่จะกินแล้วก็นอนพักมากกว่า ช็อกโกแลตนี่ถือเป็นของโปรดที่เขาขาดไม่ได้เลย ต้องกินทุกวัน ขาดไม่ได้" หนึ่ง-ภัสสร พี่สาวน้องสอง เมาท์น้องสาวให้ฟัง 

         สำหรับเรื่องเรียน ตอนนี้น้องสองกำลังจะเข้าเรียนที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเธอบอกว่าที่เลือกสาขานี้อาจเพราะตัวเอง อยากทำงานราชการ อยากเป็นทหาร-ตำรวจ นอกจากนี้ เธอรู้สึกว่าวิชานี้เหมาะกับนิสัยส่วนตัว ซึ่งเธอเป็นคนชอบตั้งคำถามกับสิ่งต่าง ๆ ทุกเรื่อง แต่ไม่ชอบเป็นครู ไม่ใช่เพราะไม่ชอบอาชีพนี้ แต่เพราะอธิบายอะไรให้คนอื่นฟังไม่ค่อยเป็น ขี้อายด้วย เขินเวลาต้องยืนพูดให้คนอื่น ๆ ฟังเยอะ ๆ 

         "แม้แต่เวลาสอนเทควันโดให้เด็ก ๆ สองก็รู้สึกเขิน ๆ นะ อีกอย่างสองกลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อสารด้วย แต่ไม่ใช่ไม่อยากสอนนะคะ เวลาสอนสองก็ต้องเต็มที่อยู่แล้ว"... น้องสองกล่าว 

         “รัฐศาสตร์นี่ที่เรียนก็เพราะมองว่าน่าจะสนุก เพราะเป็นวิชาที่น่าจะให้อธิบายหลาย เรื่อง ๆ ได้ อีกอย่างสองอยากรับราชการ อยากเป็นทหาร ตำรวจ มองว่าผู้หญิงเวลาใส่เครื่องแบบมันดูเท่ดี เราก็อยากเป็นแบบนั้นบ้าง ก็เลยเลือกเรียนด้านนี้ค่ะ” ก็เป็น “ชีวิตวันหน้า” ที่ฮีโร่รายนี้จะไล่ตามฝัน 

         ในอนาคต คนไทยน่าจะมีโอกาสสูงที่จะได้เห็น "ฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิก” อย่าง “น้องสอง-บุตรี เผือดผ่อง” ในอีกบุคลิกหนึ่ง ในเครื่องแบบเท่ๆ ที่ไม่ใช่ชุดแข่งเทควันโดสีขาวอย่างที่เคยคุ้นตา.

"ตรวจดวงฮีโร่" หลังซวยซ้อน 

         หลัง “น้องสอง-บุตรี เผือดผ่อง” ตกเป็นข่าวดัง 2 กรณีซ้อน คือถูกหัวขโมยวัยโจ๋อายุ 16 ย่องขโมยมอเตอร์ไซค์ไปจากบ้านที่ได้รับรางวัลจากการเป็นฮีโร่โอลิมปิก ที่เจ้าตัวเพิ่งจะย้ายเข้าไปอยู่ได้เพียง 1 วัน ซึ่งทางตำรวจจับหัวขโมยรายนี้ได้แล้ว แต่ไม่ทันไรน้องสองก็พลาดท่าตกรถกระบะเพื่อนนักกีฬาระหว่างเตรียมตัวออกไปหาอาหารรับประทานหลังเสร็จจากการซ้อม โดยแพทย์ต้องฉีดยาแก้ปวดและสั่งให้งดการฝึกซ้อม 1 สัปดาห์ ซึ่งทางคุณแม่ของน้องสอง “สุวรรณา เผือดผ่อง” ให้สัมภาษณ์ว่าช่วงนี้ลูกสาวคงดวงไม่ค่อยดี คิดว่าจะพาลูกสาวไปทำบุญใหญ่ ถวายสังฆทาน ทำบุญโลงศพ ถึงตอนนี้ก็เข้าใจว่าคงได้ทำบุญไปเรียบร้อยแล้ว

ก็เหลือเรื่อง “ดวง” ว่าช่วงนี้เป็นเช่นไร ? 

         ทั้งนี้ ทีม "วิถีชีวิต" ลองขอให้ อ.เก่งกาจ จงใจพระ อีกหนึ่งหมอดูดัง ช่วยตรวจดวงน้องสอง ทาง อ.เก่งกาจก็บอกว่า... น้องสองซึ่งเกิดวันที่ 16 ต.ค.2533 ถือว่ามีพื้นดวงดี เพียงแต่ช่วงนี้มีดาวมฤตยู ดาวเนปจูน ยกมาเล็งกับดาวจันทร์ และดาวจันทร์ก็ถูกดาวเสาร์ทับอีกที อีกทั้งตอนนี้อายุย่างเข้า 19 ปี ก็เป็นช่วงอายุไม่ดี เป็นอายุที่อยู่ในภพซึ่งต้องระวัง ต้องระวังอุบัติเหตุเกี่ยวกับยานพาหนะและสุขภาพ นอกจากนี้ บ้านหลังใหม่ซึ่งเลขที่บ้านคือ 99/156 พอเอาเลขบ้านมารวมกันตามหลักเลขศาสตร์ ก็พบว่าต้องระวังเรื่องความขัดแย้งด้วย

         แต่ไม่ต้องห่วงอะไรมาก เพราะ อ.เก่งกาจบอกว่า... "หลังผ่านช่วงนี้ไปก็จะดีขึ้น ซึ่งการดูดวงเป็นเพียงแค่การบอกเหตุ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวเอง ในช่วงนี้รู้ว่าตัวเองอยู่ในช่วงที่ไม่ดี จะทำอะไรน้องสองก็ควรระมัดระวังตัว อย่าใจร้อนวู่วาม ที่สำคัญหมั่นไปทำบุญทำทาน ก็จะดี"
 



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

โดย ศิริโรจน์ ศิริแพทย์/บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยังอายๆเขินๆ ชีวิตวันนี้ น้องสอง-บุตรี เผือดผ่อง อัปเดตล่าสุด 17 มีนาคม 2552 เวลา 16:05:00 10,142 อ่าน
TOP