x close

กฎเหล็ก ก.พ. สั่งข้าราชการไร้น้ำยา ออกจากราชการ

ข้าราชการ



ประกาศกฎเหล็ก ก.พ.สั่ง "ขรก.ไร้น้ำยา" ออกจาก ราชการ-เปิดโอกาสปรับปรุงตัวก่อน อุทธรณ์ใน30 วัน (มติชนออนไลน์)

          ประกาศใช้กฎ ก.พ.สั่งให้ข้าราชการไร้ประสิทธิภาพออกจากราชการ ประเมินไม่ผ่าน ให้โอกาสปรับปรุงตัวเอง แต่ถ้าไม่ถึงเป้าหมาย ให้ออกได้ทันที แต่ยังมีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ค.พ.ภายใน 30 วัน

          ผู้สื่อข่าว "มติชนออนไลน์" รายงานเมื่อวันที่ 19 มีนาคมว่า มีการประกาศใช้กฎ ก.พ.ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญออกจากราชการ กรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล พ.ศ. 2552 ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การสั่งให้ข้าราชการพลเรือน ซึ่งไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลออกจากราชการ โดยจะต้องให้โอกาสข้าราชการที่ไร้ประสิทธิภาพได้รับการพัฒนาปรับปรุงตนเองก่อน ถ้าถึงที่สุดถูกสั่งให้ออกจากราชการแล้ว มีสิทธิ์อุทธรณ์คณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ภายใน 30 วัน

 สำหรับรายละเอียดของกฎ ก.พ.ดังกล่าวมี ดังนี้

           1. การสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเหตุทดแทน กรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการนั้น ให้ส่วนราชการพิจารณาจากผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการผู้นั้นเป็นหลัก และให้ส่วนราชการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.พ. นี้

           2.เมื่อผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดตามมาตรา 76 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 แล้วเห็นว่าข้าราชการผู้ใดมีผลการปฏิบัติราชการในระดับที่ต้องให้ได้รับการพัฒนาปรับปรุงตนเอง ก็ให้แจ้งผู้นั้นทราบเกี่ยวกับผลการประเมิน พร้อมทั้งกำหนดให้ผู้นั้นเข้ารับการพัฒนาปรับปรุงตนเองโดยให้ลงลายมือชื่อรับทราบไว้เป็นหลักฐาน

          ทั้งนี้ ในการพัฒนาปรับปรุงตนเองให้ผู้บังคับบัญชาจัดให้ข้าราชการผู้นั้นทำคำมั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง โดยกำหนดเป้าหมายในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการให้ชัดเจน เพื่อใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติราชการครั้งต่อไป

          การประเมินผลการปฏิบัติราชการ และการพัฒนาปรับปรุงตนเองของข้าราชการดังกล่าวให้มีระยะเวลาไม่เกินสามรอบการประเมิน

          ในกรณีที่ผู้ถูกประเมินเห็นว่า การประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้บังคับบัญชา มีความไม่เป็นธรรมอาจทำคำคัดค้านยื่นต่อผู้บังคับบัญชารวมไว้กับผลการประเมินเพื่อเป็นหลักฐานได้

           3. เมื่อผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตามคำมั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองแล้ว ปรากฏว่า ผู้นั้นไม่ผ่านการประเมินในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการตามคำมั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง ให้รายงานผลการประเมินดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุ เมื่อได้รับรายงานตามวรรคหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุอาจดำเนินการ ดังนี้

          (1) กรณีข้าราชการผู้รับการประเมินประสงค์จะออกจากราชการ ก็ให้สั่งให้ออกจากราชการหรือ

          (2) สั่งให้ข้าราชการผู้นั้นเข้ารับการพัฒนาปรับปรุงตนเองอีกครั้งหนึ่ง โดยทำคำมั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองเป็นครั้งที่สอง หรือ

          (3) สั่งให้ข้าราชการผู้นั้นออกจากราชการ

          เมื่อผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุมีคำสั่งตาม (1) หรือ (3) แล้วแต่กรณีให้รายงาน อ.ก.พ. กระทรวง ในกรณีที่ อ.ก.พ. กระทรวงเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมและมีมติเป็นประการใด ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุ ปฏิบัติให้เป็นไปตามที่ อ.ก.พ. กระทรวงมีมติ

           4.เมื่อ อ.ก.พ. กระทรวงมีมติเป็นประการใดแล้ว และผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมีคำสั่งหรือปฏิบัติตามที่ อ.ก.พ. กระทรวงมีมติแล้ว ให้แจ้งคำสั่งหรือการปฏิบัติดังกล่าวให้ข้าราชการผู้นั้นทราบ

           5. ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการตาม กฎ ก.พ. นี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม (ก.พ.ค.)ภายใน 30 วันนับแต่วันทราบ หรือวันที่ถือว่าทราบคำสั่งให้ออกจากราชการ

           6.ในกรณีที่มีการดำเนินการเพื่อสั่งให้ข้าราชการออกจากราชการตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญออกจากราชการ กรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล พ.ศ. 2547  ก่อนวันที่กฎ ก.พ. นี้ใช้บังคับ การพิจารณาสั่งให้ข้าราชการผู้นั้นออกจากราชการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการตาม กฎ ก.พ. ฉบับดังกล่าวต่อไป


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ocsc.go.th

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กฎเหล็ก ก.พ. สั่งข้าราชการไร้น้ำยา ออกจากราชการ อัปเดตล่าสุด 20 มีนาคม 2552 เวลา 15:19:26 25,254 อ่าน
TOP