ฮู เตือนเอเชีย รีบรับมือโรคระบาด (มติชน)
ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลกเตือนรัฐบาลในเอเชียต้องเอาจริงกับการรับมือโรคระบาด อย่าพูดแค่ปาก ระบุการเปลี่ยนสภาพเป็นสังคมเมือง ความเร็ว-สะดวกในการเดินทางทำให้การระบาดเร็วขึ้น และโรคพัฒนาร้ายแรงขึ้น
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายดวน กุบเลอร์ ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก (ฮู) ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับโรคติดต่อเขตร้อนในเอเชียมายาวนานกว่า 30 ปี กล่าวเตือนในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการขององค์การอนามัยโลกที่สิงคโปร์ ระบุว่า ภาวะการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ อาทิ
ไข้เลือดออก หรือโรคชิคุนกุนยา กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง และคร่าชีวิตคนมากขึ้นทั่วโลกในเวลานี้ สืบเนื่องจากสาเหตุสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมเป็นสังคมเมืองมากขึ้น มีการเดินทางไปมาหาสู่กันสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ทำให้โรคระบาดกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งและมีฤทธิ์รุนแรงมากขึ้น ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลของประเทศต่างๆ ก็ได้แต่พูดแต่กลับไม่เอาจริงในการจัดการรับมือกับการระบาดของโรคอย่างจริงจัง
นายกุบเลอร์ ยืนยันว่า ผู้กำหนดนโยบายในประเทศกำลังพัฒนาไม่ได้ตระหนักถึงประเด็นในเรื่องนี้ โดยยกตัวอย่างว่า ถ้าไปถามรัฐมนตรีสาธารณสุขทุกคนในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไข้เลือดออกเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศ แต่ถ้าถามว่าแต่ละประเทศใช้งบประมาณเพื่อการนี้ไปแค่ไหน คำตอบที่ได้คือน้อยมาก
นายกุบเลอร์ ระบุว่า การแพร่ระบาดของไข้เลือดออกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มมากขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา และคร่าชีวิตคนไปมากกว่าการแพร่ระบาดก่อนหน้านี้ถึงสามเท่าตัว โดยมีผู้เสียชีวิตเพราะไข้เลือดออกในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากถึง 3,255 คนในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามการกำหนดขององค์การอนามัยโลกนั้นรวมถึงเอเชียใต้ และเกาหลีเหนืออยู่ด้วย
ทั้งนี้จากสถิติขององค์การอนามัยโลกในปีที่ผ่านมา โรคติดต่อต่างๆ ตั้งแต่มาลาเรียไปจนถึงโรคเอชไอวี/เอดส์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตคิดเป็น 54 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตทั้งโลก ในขณะที่โรคซึ่งไม่ได้เป็นโรคติดต่อ อาทิ โรคหัวใจและมะเร็ง คร่าชีวิตผู้ป่วยคิดเป็น 33 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง (รอยเตอร์)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก beatingbirdflu.com
ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลกเตือนรัฐบาลในเอเชียต้องเอาจริงกับการรับมือโรคระบาด อย่าพูดแค่ปาก ระบุการเปลี่ยนสภาพเป็นสังคมเมือง ความเร็ว-สะดวกในการเดินทางทำให้การระบาดเร็วขึ้น และโรคพัฒนาร้ายแรงขึ้น
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายดวน กุบเลอร์ ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก (ฮู) ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับโรคติดต่อเขตร้อนในเอเชียมายาวนานกว่า 30 ปี กล่าวเตือนในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการขององค์การอนามัยโลกที่สิงคโปร์ ระบุว่า ภาวะการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ อาทิ
ไข้เลือดออก หรือโรคชิคุนกุนยา กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง และคร่าชีวิตคนมากขึ้นทั่วโลกในเวลานี้ สืบเนื่องจากสาเหตุสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมเป็นสังคมเมืองมากขึ้น มีการเดินทางไปมาหาสู่กันสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ทำให้โรคระบาดกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งและมีฤทธิ์รุนแรงมากขึ้น ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลของประเทศต่างๆ ก็ได้แต่พูดแต่กลับไม่เอาจริงในการจัดการรับมือกับการระบาดของโรคอย่างจริงจัง
นายกุบเลอร์ ยืนยันว่า ผู้กำหนดนโยบายในประเทศกำลังพัฒนาไม่ได้ตระหนักถึงประเด็นในเรื่องนี้ โดยยกตัวอย่างว่า ถ้าไปถามรัฐมนตรีสาธารณสุขทุกคนในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไข้เลือดออกเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศ แต่ถ้าถามว่าแต่ละประเทศใช้งบประมาณเพื่อการนี้ไปแค่ไหน คำตอบที่ได้คือน้อยมาก
นายกุบเลอร์ ระบุว่า การแพร่ระบาดของไข้เลือดออกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มมากขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา และคร่าชีวิตคนไปมากกว่าการแพร่ระบาดก่อนหน้านี้ถึงสามเท่าตัว โดยมีผู้เสียชีวิตเพราะไข้เลือดออกในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากถึง 3,255 คนในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามการกำหนดขององค์การอนามัยโลกนั้นรวมถึงเอเชียใต้ และเกาหลีเหนืออยู่ด้วย
ทั้งนี้จากสถิติขององค์การอนามัยโลกในปีที่ผ่านมา โรคติดต่อต่างๆ ตั้งแต่มาลาเรียไปจนถึงโรคเอชไอวี/เอดส์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตคิดเป็น 54 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตทั้งโลก ในขณะที่โรคซึ่งไม่ได้เป็นโรคติดต่อ อาทิ โรคหัวใจและมะเร็ง คร่าชีวิตผู้ป่วยคิดเป็น 33 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง (รอยเตอร์)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก beatingbirdflu.com