x close

The Story of Venus Butterfly

Venus Butterfly



          การกระพือปีกสู่ดนตรีร็อกของผีเสื้อกลุ่มหนึ่ง ก็กำลังจะสร้างความโกลาหลให้กับโลกเก่าใบเดิมๆ ของทุกคนได้ปั่นป่วน ไปจนถ้วนทั่วด้วยปรากฏการณ์แห่งความแสบซ่า ร้อนแรง ผสานความอ่อนหวาน และเซ็กซี่ของพวกเธอ..... Venus Butterfly

 Moral of the Story

          ทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นเมื่อราว 8 ปีก่อน ...เมื่อผีเสื้อสาวคนแรก "โหน่ง–พิมลักษณ์ กมลเพชร" ที่ได้สร้างชื่อกระทั่งติดหูติดตาในฐานะนักร้องเพลงป๊อป พร้อมทั้งมีเพลงฮิตหลายเพลง ทว่านั่นเป็นเพียงย่างก้าวแรกของความฝันเท่านั้น โหน่งยังมีอีกหนึ่งความฝันที่เก็บเอาไว้อยู่ในใจ...นั่นคือ ความฝันที่จะ Rock ให้โลกสะเทือน!

          ความฝันนี้ของโหน่งก็เริ่มแจ่มชัด เมื่อตอนที่เธอเรียนอยู่ปี 4 ที่มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อเธอได้รับการชักชวนให้แสดงในคอนเสิร์ตการกุศลของสถาบันกับ "เคที่ - แครีน่า กลอส" นางเอกสาวผู้มีชื่อเสียง จนกระทั่งเกิดการฟอร์มวงดนตรีหญิงล้วนตามติดมาโดยอัตโนมัติ จึงทำให้ ตาล-จิตประภา ไมตรีจิตต์ ที่รู้จักเหน่งซึ่งเป็นพี่สาวของโหน่ง ถูกดึงตัวเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกด้วยในตำแหน่งมือกลอง

          และจากการแสดงสุดมันส์ครั้งนั้นเอง ก็ทำให้โหน่งปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า "ชั้นจะต้องทำวง!"

          ใน 1 สัปดาห์ ไอเดียนี้ถูกถ่ายทอดต่อสู่ เคที่, ตาล และ เหน่ง-นิจกานต์ กมลเพชร พี่สาวที่ไปไหนไปกันของโหน่ง อย่างรวดเร็ว และวง Venus Butterfly ก็เกิดขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา!!

          ถึงแม้ว่าสมาชิกทุกคนแทบจะไม่มีใครเล่นดนตรีกันเป็นเลยก็ตาม! (แม้ตาลจะมีพื้นฐานด้านกีตาร์ แต่เธอก็เพิ่งมาจับไม้กลองจริงๆ ก็ตอนที่เล่นคอนเสิร์ตการกุศลครั้งนั้นเอง!!) แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรมาหยุดแก๊งค์ผีเสื้อสาวกลุ่มนี้ได้แล้ว!!!


 Little Girls

          หลังจากนั้น เสียงดนตรีของพวกเธอกระหึ่มไปด้วยดนตรีร็อกที่ถ่ายทอดดังมาจากหัวใจของทุกคนในวง ที่แม้ฝีมือจะยังไม่ถึงขั้นขึ้นหิ้ง ทว่าความสนุก มันส์ เซ็กซี่ และ "ท่าดีลีลาได้" ของพวกเธอก็ตรึงตาและเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากผู้ชมได้มานักต่อนัก

"Venus Butterfly" คือผู้หญิง 5 คนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ประกอบไปด้วย 

           1.โหน่ง - พิมลักษณ์ กมลเพชร ร้องนำ ฉายาของเธอคือ aka  - Pimpin' Butterfly
           2.เหน่ง - นิจกานต์ กมลเพชร คีย์บอร์ด ฉายาของเธอคือ aka  -  Social Butterfly
           3.เคที่ - คทรีน่า กลอส  เบส ฉายาของเธอคือ aka  - Naughty Butterfly
           4.ตาล - จิตประภา ไมตรีจิตต์ กลอง ฉายาของเธอคือ aka - Beat Butterfly
           5.อ๋อม - สริตา เสรีพุกกะณะ  กีตาร์ ฉายาของเธอคือ aka  - Baby Butterfly

          แต่ละคนต่างมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันอย่างชัดเจน และลงตัว แต่สิ่งที่พวกเธอทั้ง 5 คิดเหมือนกัน คือ เธอ...มีเป้าหมายและแนวทางที่เหมือนๆ กัน เธอ....รู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต เธอ...รู้ว่าเราทำวงนี้เพื่ออะไร

          จากความสนุก ไม่ได้คิดว่าจะออกอัลบั้ม แค่เริ่มจากการแจมกันในงานคอนเสิร์ตการกุศลครั้งนั้น แล้วสนุก จึงลองมาทำวง ลองแต่งเพลงกัน มีเล่นโชว์บ้างครั้งคราว จากการที่เราไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าว่า เธอ ! เธอ ! เธอ ! เธอ ! และ เธอ !  ต้องเดินทางอย่างนี้ มันแค่บังเอิญเกิดขึ้น กลายมาเป็นไลฟ์สไตล์ของพวกเขาจากวันนั้น จนเป็น วีนัส บัตเตอร์ ฟาย ในวันนี้ …

          จากครั้งแรก สู่ครั้งที่สอง..ที่สาม จากปากต่อปาก 5 สาวในนาม Venus Butterfly ก็ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงติดปากมากขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เวลาที่ปีกผีเสื้อของ Venus Butterfly จะได้กระพือโบกสะบัดให้สุดเหวี่ยงครั้งใหญ่ต่อหน้าหนุ่มๆ (และสาวๆ) ในที่ใหญ่ๆ กว้างๆ อย่างที่ฝันเอาไว้เสียที


 No Rules

          จากจุดเริ่มต้นด้วยต้นแบบจาก Josie & The Pussy Cats วงดนตรีหญิงล้วนในหนังการ์ตูนเรื่องฮิตที่โลดแล่นสู่สายตาและประทับอยู่ในความทรงจำของคนจำนวนมากทั่วโลก 

          ในเดือนธันวาคม 2547 Venus Butterfly ก็ได้ก้าวไปสู่สายตาของผู้คนเรือนหมื่นได้จริงๆ ทั้งจากงาน Fat Festival, Bay Beat Festival ที่ประเทศสิงคโปร์) (โดยพวกเธอเป็นวงร็อกไทยวงแรกสำหรับเทศกาลนี้ด้วย Wow!) และคอนเสิร์ต B Day ของค่าย Bakery Music ในฐานะหนึ่งเดียวของเวทีนั้น ที่ไม่มีผลงานออกมากับค่ายมาก่อน ทว่าด้วยความสดใส และมั่นใจของทุกคน บวกกับแฟชั่นการแต่งตัวบนเวทีอันจัดจ้านจับตา อันเป็นผลจากการประชุมเป็นชั่วโมงๆ และเลือกซื้อเลือกใส่กันอย่างจริงจังไม่แพ้การเล่นดนตรี ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเธอเป็นหนึ่งในจุดเด่นสำคัญจากคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนั้นสำหรับผู้ชม (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) 
 
          หลายเดือนหลังจากนั้นผลงานชิ้นแรกของ Venus Butterfly คือ เพลง "ก่อนที่เราจะต้องจากไป" ก็ได้ฤกษ์คลอดออกมาให้โลกได้พิสูจน์ว่านอกจากสวยแล้ว ยังต้องพ่วง "ความสามารถ" ต่อท้ายลงไปด้วย

          ก่อนที่จะตามด้วยเพลง "Season Change ฤดูที่แตกต่าง" เพลงเก่งของบอย โกสิยพงษ์ ที่ 5 สาวนำมาสวมชุดใหม่ ด้วยอาภรณ์ดนตรีร็อกของพวกเธอ ที่พุ่งพรวดขึ้นไปถึงอันดับที่ 1 ของคลื่น 104.5 Fat Radio 

          ไม่นานนัก Venus Butterfly ก็ไม่ใช่สาวแปลกหน้าสำหรับสื่อต่างๆ โดยเฉพาะนิตยสารอีกต่อไป เรียกว่าทั้งหัวนอกหัวใน ทั้งหัวใหญ่หัวเล็ก พวกเธอได้ไปอวดสวยและโชว์ความคิดที่มั่นอกมั่นใจในตัวเองมาแล้วทั้งนั้น และล่าสุดได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดงคอนเสิร์ตในงานเฉลิมฉลองการเสด็จขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์องค์ที่ 5 :  สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และงานฉลองครบรอบ 100 ปี ของราชวงศ์ภูฎาน (Citizens’ Initiative for Coronation and Centenary Celebrations in Bhutan: CICCC ) เมื่อวันที่ 21 และ 22 พฤศจิกายน 2551 ตั้งแต่ยังไม่คลอดผลงานอีกด้วยจากนั้น แก๊งผีเสื้อสาวประกาศไว้ว่า
"ซักวันพวกฉันจะครองโลก!"


 Bad Bad Girls

          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว ว่าเสน่ห์ของผู้หญิงของ Venus Butterfly จะเป็นด่านหน้าไว้เรียกความประทับใจแรกได้ไม่อย่างไม่ยากเย็น แต่ทั้ง 5 ผีเสื้อสาวสุดซ่าก็รู้ดีว่า ด่านถัดไปที่เป็นตัวดึงความสนใจของแฟนๆ เอาไว้นานๆ ได้อย่างแท้จริงก็คือ ฝีมือการเล่นดนตรี และบทเพลงที่ดี
 
          นอกจากการแสดงชั่วครั้งชั่วคราวตามแต่จะได้รับการชักชวน จึงมีการนัดซ้อมอย่างจริงจัง 3-4 วันในหนึ่งสัปดาห์ ครั้งละ 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป กระทั่งได้ อ๋อม-สริตา เสรีพุกกะณะ มือกีตาร์สาวน้องเล็กคนสุดท้องของวงมาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย ภาพของ Venus Butterfly ก็ครบสมบูรณ์ จากสาวมือใหม่หัดเล่น ก็ค่อยๆ เพิ่มความชำนาญมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากความมุ่งมั่นที่จะทำงานและควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเองแล้ว ตามความเชื่อหนึ่งของวงที่ว่า “We know what we want! (เรารู้ว่าเราต้องการอะไร!)"


 Process 

          พวกเธอกล่าวไว้ว่า.."การแต่งเพลงเองมันเป็นอุดมคติของเราตั้งแต่แรกแล้ว เพราะว่าถ้าเราออกอัลบั้ม เราไม่อยากให้ใครแต่งให้ และเราก็จะไม่ออกอัลบั้ม ถ้ามีคนอื่นแต่งให้ เราไม่อยากใช้ลุคออกอัลบั้ม เราต้องการเป็นศิลปินที่น่าเชื่อถือระดับสากล แล้วเราก็เชื่อว่า ทุกคนในวงนี้มีฝีมือเรื่องการแต่งเพลง และเราก็ต้องพิสูจน์ตัวเองกับทั้งโลกให้ได้ว่าเราเล่นเองจริงๆ แล้วก็แต่งเองด้วย!"

          จากหนึ่งเพลง สองเพลง จนครบทั้งอัลบั้มในภาษาอังกฤษล้วน ด้วยเป็นภาษาที่หลายคนในวงถนัดที่สุด และตอนนี้ก็ได้เซ็นสัญญาออกอัลบั้มที่อเมริกาเป็นที่เรียบร้อย แต่ตอนนี้ได้เวลาของอัลบั้มภาคภาษาไทยกันแล้ว แต่เนื่องจากภาษาไทยไม่แข็งแรงอย่างที่ว่า 5 สาวเลยได้นักแต่งเนื้อเพลงเก่งๆ มาร่วมงานหลายต่อหลายคน อาทิ ตรัย ภูมิรัตน, โตน Sofa, หนึ่ง ณรงค์วิทย์ Sleepless Society, ฯลฯ โดยมี ก้อ-ณฐพล ศรีจอมขวัญ โปรดิวเซอร์เจ้าเก่าตั้งแต่ยุค ‘ก่อนที่เราจะต้องจากไป’ มาช่วยโปรดิวซ์ให้เหมือนเคย และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะดึงความสามารถของผีเสื้อทั้ง 5 ออกมาอย่างลงตัวที่สุด"

          ผลลัพธ์คือ อัลบั้ม "Venus Butterfly The First" งานเพลงที่ใช้เวลาทำงานนานเกือบ 8 ปี!


 We Will Rock Your World!

          และแล้วความฝัน ความรัก และความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายบนเส้นทางดนตรี พร้อมทั้งบ่มเคี่ยวความแก่นเซี้ยวในแบบฉบับของ Venus Butterfly ก็ค่อยๆ เข้าที่จนกลมกล่อม ด้วยดนตรีจากงานเพลงชุดแรกของพวกเธอ - "Venus Butterfly The First" 

          Venus Butterfly ไม่ได้ทำเพลงอย่างเดียวเสร็จแล้วจบหน้าที่ตรงนั้น หน้าที่ของพวกเธอต่อไปหลังจากอัลบั้มนี้แล้วก็คือ การแสดงโชว์ให้ดี แล้วก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิมไปเรื่อยๆ และนำเสนอทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเธอทำมาตลอด 8 ปีให้ออกมาตรงตามที่พวกเธอทั้ง 5 ต้องการแบบเต็มร้อย 

          คุณล่ะพร้อมหรือยัง สำหรับการรับมือกับแก๊งผีเสื้อสาวที่รักดนตรีเท่าๆ กับรักแฟชั่นอย่าง Venus Butterfly แก๊งค์นี้ มีนาคม 2552 นี้แน่นอน!


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
The Story of Venus Butterfly อัปเดตล่าสุด 24 มีนาคม 2552 เวลา 10:07:17 12,027 อ่าน
TOP