บทสัมภาษณ์พิเศษ ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา (ไอเอ็นเอ็น)
จะพูดในเรื่องที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เมื่อสักครู่ท่านสุรยุทธ์ จุลานนท์ ออกมาพูดเหมือนกัน
ปีย์ : ผมก็ฟังอยู่
ตกลงว่ามีเรื่องของการไปพบกันจริง
ปีย์ : จริงครับ ทานข้าวกัน ก็เพื่อนฝูงกัน ก็ตอนนั้น เอายังงี้นะครับ วันที่ 6 พ.ค. ปี 2549 ก่อนปฏิวัติ 5 เดือน ที่เจ้าหัวรับสั่งเรื่องเกี่ยวกับเรื่องศาล เราก็อยากจะรู้เป็นอย่างไร ผมก็เชิญเพื่อนผมว่าที่อยู่ศาลอุทธรณ์ มาแล้วก็มาฟังและก็เชิญคุณพัลลภมาด้วย แล้วก็เชิญสุรยุทธุ์ ก็มา เพราะเราไม่รู้เรื่องเราไม่ได้เรียนทางนี้มา เค้าก็เล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไร ก็เท่านั้น ผมว่าไปใส่ไข่สงสารคุณทักษิณ
ที่นี่อย่างคุณทักษิณพูดออกมานั้น จะบอกได้มัยว่าเหมือนกับว่าจะพูดได้มั้ยว่าไม่ได้ตรงสักเท่าไร
ปีย์ : ไม่ใช่คุณทักษิณพูดไม่ตรง ผมว่าคนให้ข่าวคุณทักษิณไม่ตรง เพราะผมฟังสัมภาษณ์คุณพัลลภมันไม่ตรง
เพราะคุณพัลลภเองก็อ้างว่าทางคุณปีย์ เป็นคนเชิญ
ปีย์ : ครับผมก็เชิญ พูดถูกต้อง
ก็ไปก็ไปเหมือนกันวันนั้น
ปีย์ : ก็ไปก็ไปกินข้าวญี่ปุ่นด้วย และนั่งกินข้าวไปก็ถามเค้าไปเข้าเค้าก็บอกว่ามันได้อย่างนี้มันก็เป็นการเรียนรู้การช่วยชาติจะทำอย่างไรได้บ้าง
เค้าว่าคำพูดที่ลักษณะที่คุณพัลลภพูดออกมาก็เหมือนกับว่าเนื้อหามีการพูดถึงค่อนข้างละเอียดมีการเตรียม
ปีย์ : ไม่มีเตรียมอะไรเราไม่ใช่ทหาร จะไปรุ้เรื่องได้ไง คุณคิดดูละกันแต่ละคนไม่ใช่แล้วคนนึงคือเออถ้ามีนายพลกองทัพบกด้วยสักคน นี่ก็นอกราชการคนเดียว เป็นคนที่เราอยากรู้ว่าเค้า..เค้าคิดอย่างไรก็เท่านั้น
เพราะในช่วงนั้นการเมืองก็อาจจะวุ่นๆ นิดนึง
ปีย์ : วุ่นๆเพราะว่าสถานการณ์อย่างนี้ก็อยากฟังความเห็นเค้าว่าความเห็นเค้าเป็นอย่างไร
แล้วก็มาหารือกัน
ปีย์ : ท่านจะทำอย่างไรกันก็อยากจะรู้ เราไม่ใช่นักกฎหมาย
แล้ววันนั้นได้ข้อสรุปมัยครับกับการที่นั่งทานข้าวกันนั่งคุยกัน
ปีย์ : ไม่ได้ขอสรุปอะไรก็เป็นการรับฟังแบบ บ้านผมก็มากันหมด
ก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไมให้ข่าวกัน 2 ด้าน 3 ด้าน
ปีย์ : ถ้าคุณทักษิณไปก็อีกเรื่อง นี่ผมว่ามันมีอะไรกันหรือเปล่าผมไม่รู้ที่ไปหลอกคุณทักษิณ ผมมองในแง่ดี เพราะว่าคุณทักษิณก็ไม่ใช่คน¬ทำข่าวอะไรแบบสร้างข่าว แกไม่เคยเป็นคนอย่างนั้น
ถ้าอย่างนั้นคุณปีย์มองเรื่องทำนองนี้อย่างไรบ้างที่เกิดขึ้น
ปีย์ : ผมมองเรื่องว่าคนที่เอาข่าวไปให้คุณทักษิณไปเอาให้คุณทักษิณถูกใจหรือเปล่า ซึ่งมันไม่มีอะไร ก็คิดดูเป็นการมาถึงดื่มกาแฟพอมาครบก็ดินเนอร์กันเข้าไปในห้องข้าวไปนั่งคุยกัน คุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ก็เอามาเรื่องว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เค้าก็เล่ากันมา ศาลปกครองเค้าก็เล่า ศาลฎีกาเค้าก็เล่า
แต่ก็ว่าไม่ได้ข้อสรุปอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ปีย์ : เราไม่มีอะไรจะต้องทำ อย่างนี้ไม่ได้ ก็อยู่ที่ว่าตุลาการเขาจะทำอย่างไรก็เล่าให้ฟัง
เพราะว่าตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็พูดกันยันกันคนละอย่าง ซึ่งหลังจากนั้นมาก็ไม่ได้คุยไม่ได้พบปะรกันใช่มั้ย
ปีย์ : จำไม่ได้
ที่นี่ถ้ามีการพูดพาดพิงกัน มีการเอยชื่อคุณปีย์มาด้วยเราจะว่าอย่างไร
ปีย์ : ผมไม่เห็นมีอะไร ซึ่งผมก็ไม่มีอะไรหมายความว่าเป็นเรื่องที่คุณพัลลภกับคุณทักษิณต้องไปเคลียร์กันเอง เพราะมันไม่มีอะไรจริง ผมฟังตอนแรกผมก็แปลกใจ คือมันมีจริงเรื่องกินข้าวกันจริง จริงคุยเรื่องตุลาภิวัฒน์ จริงถ้าคุยกันเรื่องอื่นด้วย คุยเรื่องโดดร่ม คุยเรื่องมันตั้งหลายชั่วโมง แล้วก็ดินเนอร์กู้ดไนท์กันไปมันก็จบ
เพราะว่าทางท่านพัลลภเองเป็นคนเปิดเรื่ององคมนตรีขึ้นมา
ปีย์ : มันก็คือผมกับท่านสุรยุทธุ์เพื่อนกันตั้งนานแล้ว เป็นเพื่อนเก่ากันมันไม่ได้มาในฐานะองคมนตรี มาในฐานะเพื่อน อยากจะดูแลบ้านเมืองว่าถ้าเป็นอย่างนี้บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร
มองภาพอนาคตอย่างไร ในเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ไปแล้ว
ปีย์ : สถานการณ์เป็นอย่างนี้ไปแล้วผมว่ามันแก้ได้ง่ายนิดเดียวคือต้องเอาคนที่รู้เรื่องจริงๆเล่าให้คุณทักษิณฟัง
อย่างนี้ถ้ามีคนติดต่อให้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จะคุยไหม
ปีย์ : ผมไม่ได้มีอะไรผมไม่ได้เล่นการเมืองผมไม่มีอะไรไม่มีตำแหน่งทางการเมืองคุณสุรยุทธุ์เป็นนายกผมก็ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยเค้าเถอะครับผมไม่รู้เจตนาเค้านะ จริงๆผมไม่รู้เจตนาเขานะ ในความคิดของผมเองจากชีวิตเขาเนี้ยคงฟังมาอย่างนั้น จากที่รู้จักเค้านะ แต่ถ้าผมโทรไปหามันไม่เข้าเรื่อง มันพูดไปแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเค้าพูดไปแล้วนี่ใช่มั้ยแล้วให้เค้ากลับมาแก้ตัวก็คงไม่ได้
แล้วทางออกที่ พ.ต.ท.ทักษิณเสนอมามันใช่ทางออกที่จะช่วยแก้ไขวิกฤติได้ไหมในบ้านเมือง
ปีย์ : อยู่ไกลบ้านก็คงจะเป็นทางออกที่ค่อนข้างมองอย่างคนไกลบ้านถ้าคนรอบข้างเป็นอย่างนี้คุณทักษิณคงจะมองไม่ชัด
คุณปีย์เองก็อยู่ในแวดวงสื่อมาก่อนก็ดูตามลักษณะสื่อประเทศเราจะทำอย่างไรต่อไป
ปีย์ : อันนี้มันจะไปทำอย่างไรต่อไปได้ ก็จะต้องปล่อยไปตามวีถีทางของมันผมจะไปบังคับบอกให้เสื้อแดงหยุดหรือเสื้อเหลืองไปคงไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ของผม
สิ่งที่คุยกันวันนี้ก็จะได้นำเสนอไปเป็นข่าว
ปีย์ : มันต้องเข้าใจว่ามันผมมองแล้วว่าไม่มีใครที่ผิด คือเราอยากจะรู้เรื่องนี้แล้วทุกคนก็เป็นเพื่อนกันก็ลองมาคุยกันดูสิว่าทางออกจะทำยังงัย ผมกับคุณสุรยุทธ์ก็เอาละเราไม่ใช่นักกฎหมาย เค้าก็ฝว่าวิธีการเป็นอย่างนั้นเราก็ไปฟังไปซึ่งได้ความรู้ว่ามัยจะเป็นอย่างไรก็เท่านั้น แต่ผมก็ขอยืนยันที่คุณสุรยุทธุ์พูดมา มันตรงหมดทุกอย่าง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก politicalbase.in.th