x close

อ้อม-พิยดา ไม่ใช่ นางเอ๊ก...นางเอก

อ้อม พิยดา


อ้อม-พิยดา ไม่ใช่ นางเอ๊ก...นางเอก (เดลินิวส์)

          เคยรับบทบาทเป็นนางเอกมาตลอด 11 ปี แต่ล่าสุดเธอยอมสลัดคราบนางเอกผู้แสนดีมาร้ายแบบสุดตัว ซึ่งคาแรกเตอร์ร้ายชนิดที่ตัวเองเล่นเองยังเกลียดเองเลย นับประสาอะไรกับแฟนละคร แน่นอนว่าต้องอินไปกับบทบาทที่เธอแสดงชัวร์ๆ

          ในทางกลับกันในมุมของนักแสดงเอง นับว่าเป็นความท้าทายอีกครั้งของสาวผู้นี้ อย่างไรซะก็ไม่ได้ทำให้เสียยี่ห้อคุณพ่อมือกำกับอย่าง เปี๊ยก-พิศาล หลังจากคุณพ่อและคุณลูกต้องมาประชันบทบาทกันในละครเรื่อง "อาทิตย์ชิงดวง" ที่ได้อวสานไปเรียบร้อยแล้ว แถมระยะหลังๆ สาวอ้อมยังเจอมรสุมข่าวเรื่องรักต่อเนื่อง และถูกจับตามองรักครั้งนี้ของ อ้อม-พิยดา มากเป็นพิเศษ ถึงขั้นปล่อยข่าวเตรียมสละโสดกับ อาท-ศรา จุฑารัตนกุล อีกต่างหาก วันนี้เลยขอโฟกัสดาวจรัสแสงคนต่อไปของ "ดาวต่างมุม" ... อ้อม-พิยดา อัครเศรณี

หลังจากที่พลิกบทในละครไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

          อ้อม : เรตติ้งดีนะ แต่ในมุมตัวเองไม่ดี

อ้าว! ทำไมล่ะ?

          อ้อม : บางคนก็คิดว่าเราร้ายไปเลย แต่มันก็ดีในส่วนของการทำงาน ซึ่งถือว่าตัวเองประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ที่เขารักเรามาตลอด อุ๊ย! เอาใจช่วย แต่พอครึ่งเรื่องมา เอ๊ะ! ทำไมล่ะ ทำไมเป็นอย่างนี้ ช่วงหลังๆ ละครยังไม่จบ คนดู ก็จะบอก ไม่เอาเกลียดแล้ว! แฟนๆ ก็จะรับไม่ได้ ดูแล้วรับไม่ได้ก็มีนะ

แฟนคลับจริงๆ ของอ้อมเข้าใจรึเปล่า?

          อ้อม : ถ้าแฟนคลับจริงๆ เช่น แม่ของอ้อมก็จะบอกว่า ชอบมาก ลูกเล่นดี แต่ก็แล้วแต่ความคิดคนนะคะ บางคนก็รับไม่ได้ รับที่เราเป็นแบบนี้ไม่ได้ คิดว่าไม่ใช่เราเลย... ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจเล่นเนี่ย ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาเลยค่ะ เพราะไม่ได้คิดจะเล่นถึงขนาดนี้ ต้องไปถามคุณถกลเกียรติอ่ะค่ะ (ยิ้ม) คือ ตอนแรกที่อ่านและรับเล่น ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเล่นร้ายอย่างนี้ ตอนนั้นก็กลุ้มใจแล้วนะ แต่ยังไม่ขนาดนี้ค่ะ อ่านบททีแรกยังคิดจะเล่นดีหรือไม่ด้วยซ้ำ แต่พอได้เล่น มันก็เป็นอย่างที่เห็นเนี่ยแหละค่ะ

บทร้ายๆ แบบนี้ ต้องปรับตัวเยอะมั้ย?

          อ้อม : ไม่ค่ะ พอเล่นไปสักพักก็จะพอเล่นได้ พี่นกและพี่ผู้กำกับฯบอกว่านักแสดงทุกคนจะมีช่วงที่ต้องเปลี่ยนบทบาท พอเราเล่นได้แล้ว มันก็ทำได้หมด เวลาทำงาน เวลาคิด มันสนุกเวลาเล่น แต่อ้อมไม่ชอบตัวละครตัวนี้เลย แต่สำหรับการแสดงนั้นอ้อมได้มีโอกาสเรียนรู้มากขึ้นนะ ได้เล่นเป็นช่วงที่สนุก แต่พอเราได้คิด หรืออ่านบท กลับจะคิดว่าโอ๊ยๆ ทำไมต้องขนาดนี้ด้วยนะ...อ้อมไม่ชอบการคิดของตัวละครตัวนี้เลย ด้วยความที่เราเองมีพื้นฐานความคิดอ่านเป็นคนปกติ ก็จะรู้ว่าดีชั่วคืออะไร ซึ่งเวลาเล่นก็จะต่อต้านตรงจุดนี้เท่านั้นเอง

พอก้าวมารับบทร้ายแล้ว กลัวคนจะติดภาพ จากเดิมที่เล่นแต่บทคุณหนูใสๆ นางเอกแสนดีมาตลอด?

          อ้อม : อ้อมว่าคนเราทุกคนเมื่อโตขึ้น มันต้องมีการเปลี่ยนแปลง จะหยุดอยู่กับที่ หรือทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ คงไม่ได้ คือ ก่อนหน้านี้ด้วยความที่อ้อมทำงานเยอะติดๆ กันมานาน ไม่ได้หยุด พอได้เปลี่ยนบทบาท ก็เลยรู้สึกสนุกดี มีไฟกลับมาทำงาน เหมือนเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยนะ แล้วก็เปลี่ยนเร็วมาก ทุกคนมั่นใจว่าเราทำได้ เธอทำได้ บางทีคนอื่นก็มั่นใจในตัวเรามากเกินไป แต่เรายังไม่ทันมั่นใจในตัวเองเลย อย่างนักแสดงด้วยกันก็จะเข้าใจในความ รู้สึกของอ้อม บางคนอาจเปลี่ยนลูกเล่นนิดหนึ่ง แต่บทนี้มันเปลี่ยนเร็วไปเลยจริงๆ

จากนี้ไปละครเรื่องไหนจะเล่นร้ายอีกมั้ย?

          อ้อม : คือเรื่องนี้ ความจริงแล้ว มันใช้พลังเยอะเหมือนกันนะ รู้สึกหดหู่ สมองจดจ่ออยู่กับมันประมาณ 3-4 เดือน ต่อไปเลยขอเป็นคนปกติก่อนนะ เพราะบทนี้ เขาเหมือนไม่ใช่คน ร้ายขั้นเทพไปแล้ว

นอกจากละครมีผลงานอะไรอีกบ้าง?

          อ้อม : เป็นพิธีกร 3 รายการค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีลงขันทำธุรกิจ มีร้านเค้ก ที่ทองหล่อ 13 และมีร้านทำผม วาซาบิ หุ้นกับเพื่อนหมด สบายใจค่ะ เพราะเราเลือกทำงานกับคนที่เราสบายใจ กับคนที่เราไม่สบายใจ ไม่เคยทำด้วยอยู่แล้ว เพราะมักจะมีปัญหาจุกจิก เรื่องเงินทองมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ อะไรที่พอจะมีปัญหา เราก็จะคุยกันมากกว่า

คราวนี้มาทำความรู้จักตัวตนของสาวอ้อมกันเลย จริงๆ แล้ว อ้อมเป็นคนนิสัยยังไง?

          อ้อม : เป็นคนอะไรก็ได้ ง่ายๆ สบายๆ ค่ะ มีอารมณ์ร้อน เป็นตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้เย็นลงเยอะแล้ว เพราะไปวิปัสสนา อ้อมเป็นคนตรงมาก เมื่อก่อนจะโผงผางมาก เอายังไงว่ามาเลย ทำให้บางคนก็รับไม่ได้ แต่ตอนนี้เบาลงแล้วค่ะ อ้อมคิดว่า ชีวิตก็แค่นี้แหละ จะเอาอะไรกันนักหนา เหมือนเนื้อคู่ 11 ฉากตอนจบค่ะ

ดูเหมือนอ้อมใช้ชีวิตแบบมีกรอบ เข้าถึงยากรึเปล่า?

          อ้อม : ไม่นะ อ้อมก็เป็นปกติ ทำอะไรแบบชีวิตคนปกติที่เขาทำกัน เราไม่ได้เป็นนางฟ้า เทวดา เจ้าหญิงอะไรสักหน่อย ฉะนั้นก็อยู่บทรากฐานที่วางไว้ อ้อมก็เป็นปุถุชนทั่วไป เพียงแต่เราต้องทำงานตรงนี้ เลยมีส่วนที่ทำให้เราต้องคอยดูนิดหนึ่ง ว่าอันไหนที่มันไม่สุภาพ คอยระวังตัวอยู่ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับคนที่ใช้ชีวิตปกติ เราก็ถือว่าไม่ได้ทำอะไรเกินเลยกว่าคนทั่วไปทำกันนะคะ แบบว่าไม่ได้ต้องทำตัวเป็นดารา ถ้าใครรู้จักอ้อมจริงๆ จะรู้ว่าอ้อมไม่ได้เป็นดาร๊า...ดารา...เหมือนบางคนเลย ปกติเวลาออกจากบ้าน ก็ต้องเข้าใจว่าเราเป็นคนของประชาชน ต้องเจอสาธารณชน เราต้องรู้ว่าเรามีหน้าที่อะไร แต่ก็ต้องอยู่ในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ต้องสวยตลอดเวลา ถ้าหลายๆ คนรู้จัก จึงรู้ว่าอ้อมง่ายๆ คุยง่าย

เคยหลุดกรอบบ้างมั้ย?

          อ้อม : ไม่เคยเลย พ่อแม่ก็ไม่เคยดุ เราก็จะรู้ด้วยตัวเองค่ะ ลูกๆ 4 คนที่บ้านอ้อม ไม่มีใครหลุดกรอบ อาจจะมีล้ม ซึ่งก็ต้องเจอกันบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับออกนอกกรอบ เพราะตอนนี้โตๆ กันแล้ว รู้ว่ากรอบคืออะไร

เรื่องชีวิตคู่ที่บ้านมีกรอบให้รึเปล่า?

          อ้อม : ก็มีเหมือนกันค่ะ ยิ่งเรื่องนี้ ยิ่งเรื่องของใครเรื่องของมัน เกิดเลือกผิดมาแล้วมาว่าพ่อว่าแม่ก็ไม่ได้ ถ้าพ่อแม่เลือกให้ พอถึงเวลาแล้วเกิดผิดพลาด เราอาจจะว่าเขา เขาก็จะเสียใจ เพราะเขารักเรา เขาไม่อยากให้เรารู้สึกไม่ดีกับเขา แต่ทุกอย่างก็ต้องอยู่ในกรอบด้วย

เวลาอ้อมมีเพื่อนผู้ชาย ต้องพาเข้าไปให้เขาดูทุกครั้งมั้ย?

          อ้อม : ถ้าเกิดจะคบกันเป็นแฟนจริง  ก็ต้องรู้จัก แต่ถ้าไม่ได้คบกันเป็นแฟน แค่เพื่อนธรรมดาก็จะรู้จักแต่เป็นอีกแบบหนึ่ง อ้อมมีทั้งเพื่อนผู้หญิง เพื่อนผู้ชาย คบเพื่อนทุกคนก็จะอยู่ในสายตาพ่อแม่ตลอด

อย่างที่มีภาพคู่หลุดมากับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ต้องมานั่งเคลียร์กับที่บ้านบ้างมั้ย?

          อ้อม : ไม่ต้องเลยค่ะ เขารู้อยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้ทำอะไรที่อยู่นอกสายตา แก้ไขแค่ศึกนอกเท่านั้นเอง แต่ศึกนอกเราก็ควบคุมมันไม่ได้อยู่แล้ว ไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้ แต่ก็รู้สึกตกใจนะ เราก็จะเครียดกับคนรอบข้าง คนที่เป็นห่วงเราทั้งหลายอย่างเช่น ผู้จัดการ พี่ๆ พีอาร์ อ้อมจะอธิบายให้เขาฟังว่า พี่ใจเย็นๆ อ้อมไม่ได้ไปฆ่าใครนะ อ้อมก็เป็นคนปกติ แต่เป็นเพราะเขาห่วงภาพลักษณ์เรา รักเรา กลัวทุกอย่างแทนเรา

แล้วอ้อมกลัวภาพลักษณ์ตัวเองจะเสียบ้างมั้ย เพราะเราเป็นคนของประชาชน?

          อ้อม :  อ้อมว่าเรื่องของอ้อมเป็นเรื่องปกติ จริงๆ แล้วไม่มีอะไร เหมือนแค่เราไปรู้จักใครคนหนึ่ง แต่ไม่ได้รู้สึกถึงกับเป็นแฟนจริงๆ เท่านั้นเอง แล้วมีรูปหลุดออกมา

ที่ผ่านมา อาจเพราะตัวเองยังไม่มั่นใจในตัว ซันนี่ รึเปล่า?

          อ้อม : ก็อาจจะใช่ มันคือการรู้จักคนๆ หนึ่ง เราก็สนิท ไปทานข้าว ไปดูหนัง ปรึกษากัน แต่ช่วงนั้นเราไม่ต้องบอกใครไม่ใช่เหรอ เพราะอ้อมก็ไม่ใช่คนที่จะเปิดเผยขนาดนั้น โอเค เราเป็นเพื่อนกัน แล้วเราก็มีคนที่ให้ปรึกษาหลายคน อ้อมเลยคิดว่ามันเป็นเรื่องชีวิตสามัญปกติไม่ใช่เหรอ เพียงแต่อ้อมทำงานตรงนี้เท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่นักแสดง อ้อมก็ไม่ได้บอกเพื่อนอยู่แล้ว เพราะเราก็เป็นคนแบบนี้ อ้อมว่าบางอย่างมันจะมีขอบเขตในการที่เราจะบอกคนอื่น กับเพื่อนเรา อ้อมก็บอกหมด ไม่ว่าไปกินข้าว ปวดท้อง แต่ถ้าเป็นคนอื่น มันก็จะตลกนะที่จะเที่ยวไปบอกเค้า อ้อมมองว่ามันเป็นสิทธิของเรา แม้เราจะทำงานตรงนี้ก็ตาม แต่ถ้าถามว่าตอนนั้นมีคบใครมั้ย อ๋อ! ไม่มีค่ะ ก็คือไม่มี ถ้าถามว่าตอนนี้มีคบใครมั้ย มีค่ะ ก็แปลว่ามีจริงๆ ค่ะ

แล้วจุดไหนถึงจะพูดได้ว่ามั่นใจจะคบคนนี้แล้วนะ?

          อ้อม : ก็จะรู้ได้ด้วยตัวเราเอง บอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะเราโตขึ้นด้วยมั้ง

กับ พี่อาท-ศรา คบกันนานรึยัง?

          อ้อม : เกือบ 1 ปี แต่รู้จักกันนานแล้วค่ะ คงดูกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบค่ะ

ผู้ชายที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวของอ้อมได้?

          อ้อม : ก็ต้องเป็นคนที่เราคุ้นใจ ต้องดูแลตัวของตัวเองได้ คุยกันรู้เรื่อง ทำให้เรายิ้มได้ หัวเราะได้ กับพี่อาทวิถีชีวิตเหมือนกันค่ะ คล้ายกันมาก

อย่างงี้ต้องพาไปให้ที่บ้านรู้จักมั้ย?

          อ้อม : ที่บ้านก็รู้จักกันอยู่แล้วค่ะ รู้จักกันหมดเลยตั้งแต่เรียนแล้ว ที่บ้านจะรู้กันหมดเลย ใครคนไหน มีแฟนคนไหน รู้หมด

แล้วจะศึกษาดูใจกันไปอีกนานแค่ไหน ถึงจะสละโสดได้ล่ะ?

          อ้อม : ก็ไปเรื่อยๆ อ่ะค่ะ ปล่อยไปตามธรรมชาติ จนพอถึงเวลาแล้วมันก็จะรู้เอง เพราะมันก็เป็นเรื่องความรู้สึกของคนสองคนว่ารู้สึกยังไง จะบอกคนอื่นก็ลำบากนะ

อนาคตคิดว่าจะอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปเรื่อยๆ รึเปล่า?

          อ้อม : ทำไปเรื่อยๆ แล้วที่ดูๆ ไว้ ก็อยากรับจ้างทำรายการค่ะ เป็นคนเบื้องหลัง

แล้วที่บ้านว่าอย่างไรบ้าง?

          อ้อม : ที่บ้านจะบอกว่าทำอะไรก็ทำไปเถอะ มีความสุข ลูกทำไป เพราะเขาจะเห็นพฤติกรรมของเราอยู่แล้ว เรียกว่าอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เป็นห่วงเป็นใยตามปกติ แต่พอโตแล้วก็ให้ตัดสินใจเอง แต่ถ้าเกิดเริ่มผิดทาง พ่อก็จะบอกว่า มันเริ่มอย่างนี้นะ แต่ถ้าลงกรอบใหญ่ เขาจะมีชีวิตกรอบใหญ่ให้ ถ้ามันไม่อยู่กรอบใหญ่ จะล้มลุกคลุกคลานเขาก็ให้เป็นอย่างนั้น เพราะว่าถ้าสมมุติมีเส้นทางไว้ให้ สมมุติทางโรยด้วยกลีบกุหลาบที่เขาวางไว้ให้ แต่เราไม่ชอบ วันหนึ่งเมื่อเราเดินไปสุดทาง ถึงเราจะประสบความสำเร็จ แต่มันไม่มีสิ่งที่เรารักและอยากจะทำ เขาไม่อยากให้ลูกรู้สึกเหมือนพ่อแม่รังแกฉัน เขาเลยจะมีกรอบใหญ่ให้ ไม่ว่าใครจะเดินทางโรยด้วยกลีบกุหลาบ หิน หรือไม่ได้อยู่ในกรอบที่เขาวางไว้ เขาก็แฮปปี้กับลูกเขานะ

          นี่คือวิถีชีวิตแบบ "นางเอก" ที่ไม่ใช่ นางเอ๊ก...นางเอก... ของ อ้อม-พิยดา


เรื่อง คนกลาง
ภาพ สุรเชษฏ์ วัชรวิศิษฏ์


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อ้อม-พิยดา ไม่ใช่ นางเอ๊ก...นางเอก โพสต์เมื่อ 29 มีนาคม 2552 เวลา 12:02:36 14,611 อ่าน
TOP