วงการเหมือนวงกลม ฟิล์ม ได้แฟนคลับหล่อใจ (ข่าวสด)
เจอมรสุมข่าวซัดจนเซไปพักหนึ่ง แต่แล้วนักร้องหนุ่ม "ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" ก็กลับมาผงาดได้อีกครั้ง โดยล่าสุดร่ายลีลายียวนในละคร "มนต์รักข้าวต้มมัด" ทางช่อง 3 คู่กับนางเอกสาว "แพท-ณปภา ตันตระกูล" ซะจนชาวบ้านชาวช่องติดกันงอม กว่าจะสร้างกำลังใจก้าวมาสู่จุดเดิม เขาได้ฟูมฟักใจอย่างไร และอะไรเป็นแรงผลักดันให้เขาฝ่าฟันอุปสรรค วันนี้นักร้องหนุ่มได้มานั่งคุยชนิดเปิดให้เห็นหัวใจที่ทั้งแข็งแกร่งและอ่อนโยนในคราเดียวกัน
เคยรู้สึกอึดอัดกับข่าวต่างๆ บ้างหรือเปล่า?
ฟิล์ม : ไม่เคยรู้สึกอึดอัดครับ มีแต่ยินดี มาสัมภาษณ์ผมเถอะ เพราะเราเกิดได้ก็เพราะทุกๆ คนที่ทำให้เรามีวันนี้ มีข่าวที่ทำให้ทุกคนรู้จักชีวิตเรา มีข่าวแซวหยอกล้อกันบ้าง กัดๆ บ้าง ลงชมบ้างคละๆ ไป มันสมดุลกันอยู่แล้ว ไม่มีใครหรอกครับที่จะทำลายเรา เพราะเราก็ไม่ได้ไปทำร้ายเขาอยู่วงการมา 6-7 ปี ข่าวไหนที่ทำให้รู้สึกท้อแท้
ฟิล์ม : ไม่มีท้อแท้นะครับ แต่เสียใจมันมีอยู่แล้ว เสียใจตรงที่ว่าข่าวที่ออกไปแล้วเราไม่มีโอกาสได้พูดและคนเขาคิดว่าเราเป็นแบบที่ข่าวออกมา แต่ไม่ได้ซีเรียสหรือคิดมากอะไรเลย แค่นอยๆ ว่าทำไมหนอเขาไม่ฟังเราเลยมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ฟิล์มจะไปได้ไกลและดังกว่านี้ ถ้าไม่เจอข่าวสกัดดาวรุ่ง กรณีเสี่ยอู๊ด?
ฟิล์ม : ฟิล์มว่าตรงนี้เป็นเรื่องธรรมดา คนเรากว่าจะผ่านชีวิตไปได้ต้องมีอุปสรรคเสมอ มันเป็นบทพิสูจน์ของคนๆ หนึ่ง ทุกคนต้องเจอหมด ตัวผมรู้สึกโอเคนะที่ได้เจอเร็วกว่าคนอื่น และผมเจอตั้งแต่ยังเด็ก ผมจะได้โตขึ้นมาแล้วแกร่งและเข้มแข็ง คือผมเจออะไรมาเยอะเพราะผมไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่สบาย ผมคิดว่าผมผ่านมันมาได้ถึงวันนี้มันก็เป็นวันของผมแล้ว มันเหมือนคนเดินเรือที่ผ่านคลื่นลมและคลื่นทะเล มาถึงฝั่งก็โอเคครับช่วงที่เกิดข่าว ใช้หลักอะไรในการประคองชีวิตไม่ให้เซไปกับคลื่นมรสุม?
ฟิล์ม : จริงๆ ทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ฟิล์มโชคดีที่มีครอบครัวที่ดี มีเฮียฮ้อ (สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) และซ้อ ทีมงานอาร์เอสทุกๆ คน พี่ๆ สื่อมวลชนทุกๆ คนดีกับผมหมด และกำลังใจที่สำคัญที่สุดคือแฟนคลับ ซึ่งเหนียวแน่นมากกว่าเดิม มาทุกวันนี้เยอะมาก มากขึ้นเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่าทำไมฟิล์มถึงโชคดีขนาดนี้ จะมีสักกี่คนที่โชคดีเหมือนเรา คือคนรักเราเยอะขึ้นๆ และมีอะไรพวกเขาก็ไม่เคยเชื่อคนอื่นเลย เชื่อแต่เรา ผมคิดว่าพวกเขาคือครอบครัวผม เป็นฟิล์มแฟมิลี่มีแฟนคลับคนไหนบ้างที่ทำให้ฟิล์มประทับใจ?
ฟิล์ม : แทบทุกคนนะ เราประทับใจหมด เพราะแต่ละกลุ่มเขาคือฟิล์มแฟมิลี่ ยิ่งวันเกิดทุกปีจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ประทับใจจนน้ำตาจะไหล จะมีอะไรแปลกๆ มาให้ บางกลุ่มไปวาดภาพที่ใหญ่กว่าบ้านฟิล์ม แล้วเขาขอพ่อฟิล์มไปห้อยจากดาดฟ้าแล้วปล่อยลงมาคลุมตึก 6 ชั้นจนมิด (หัวเราะ) เขาวาดได้อย่างไร และคนวาดก็วาดแค่คนเดียว ไปเช่าสนามฟุตบอลเพื่อวาดภาพนี้ แล้วแบกมา 10-20 คนเพื่อมาห้อยที่บ้าน แฟนคลับทุกคนเหมือนเป็นน้ำหล่อเลี้ยงเราให้มีกำลังใจ ผมรักเขามากทุกคนเลย แต่ผมก็พยายามบอกแฟนคลับตลอดว่าอย่าซื้อของให้ผม บางคนที่ยังเด็กหน่อยไม่เข้าใจก็จะพูดว่าหยิ่งเหรอ ก็อยากบอกน้องๆ ว่าพี่ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย ที่พูดคำนี้ออกมาอยากให้ทุกคนเก็บเงินไว้ ไม่ต้องซื้อของอะไรให้ฟิล์ม แค่มาหาก็ดีใจ ไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรแล้ว ให้ผมแล้วและตัวเองลำบากก็อย่าทำ ต้องไปกู้ยืมเงินคนอื่นเพื่อมาให้เรา ไม่ต้อง คุณเก็บเงินตรงนั้นแล้วรอฟิล์มประกาศว่าจะทำบุญวัดไหนแล้วไปทำบุญกันดีกว่าแค่นี้ก็พอแล้วจากวันแรกที่เป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งเคยคิดหรือเปล่าว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้?
ฟิล์ม : ไม่เคยคิดเลยครับ มันเหมือนฝันตลอด แม้กระทั่งผมก้าวมาจากบ้านแล้วมาเจอแฟนๆ ก็จะคิดว่าเหมือนฝัน เราโชคดีนะเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งแต่วันนี้ทำไมมาถึงขนาดนี้นะชีวิตของฟิล์มดูเหมือนไม่ค่อยนิ่ง มักมีมีคลื่นลม?
ฟิล์ม : มันเป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์ มนุษย์คือมนุษย์ มันต้องมีอะไรบ้าง แล้วยิ่งคนที่เป็นดาราอยู่ในที่สว่าง เราก็ยิ่งเจอหนัก เพราะฉะนั้นเราก็ต้องระวังตัวเองเป็นอย่างมากชีวิตฟิล์มเหมือนเป็นแมวเก้าชีวิต ช่วงหนึ่งที่พีกมากแล้วเจอกระแสข่าวทำให้เงียบไป มาตอนนี้เริ่มดังขึ้นมาใหม่?
ฟิล์ม : ผมเปรียบชีวิตของนักแสดงและชีวิตของวงการบันเทิงคือวงกลม วันหนึ่งวนขึ้นมาบนสุดคุณต้องวนกลับไปตกเหมือนเดิม ตรงนั้นคุณต้องทำให้ได้ ทำอย่างไรที่จะอยู่หรือประคองไว้ได้ แล้ววันหนึ่งคุณก็จะวนขึ้นมาใหม่ แล้วคุณจะทำอย่างไรให้มันค้างอยู่ตรงนั้นให้นานๆ และวันหนึ่งคุณต้องวนลงมาอีก ตอนที่วนลงมาคุณจะดูแลตัวเองอย่างไรให้มันพร้อมที่จะขึ้น เป็นเรื่องปกติครับณ วันนี้มองน้องๆ นักแสดงรุ่นใหม่อย่างไรบ้าง?
ฟิล์ม : ก็น่ารักดีนะครับและมีความพยายาม เราก็ย้อนกลับไปดูตัวเราเองในอดีตเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว ก็เหมือนกับเรานะที่พยายามทุกอย่างเพื่อจะมีวันนี้ ผมก็อยากให้ทุกคนอย่าเหลิง อย่าลืมตัว หรืออย่ารำคาญเวลาพี่ๆ สื่อมวลชนมาสัมภาษณ์ อย่าคิดว่าตัวเองดังแล้วต้องมากองถ่ายทีหลังแล้วเลิกก่อน นิสัยแบบนี้อย่าทำเลย มันไม่ใช่ คุณต้องทำเหมือนคุณมาวันแรกที่คุณยอมทำทุกอย่าง ไม่ใช่มีชื่อเสียงแล้วค่าตัวเท่านี้ก็ไม่ได้ มาก่อนก็ไม่ได้ ต้องมาสายกว่าคนอื่น แล้วต้องเลิกก่อนคนอื่น คุณต้องเป็นคนๆ นั้น คุณเกิดได้เพราะคุณเป็นคนๆ นั้นวางอนาคตอย่างไรบ้าง?
ฟิล์ม : ก็อยู่ในวงการบันเทิงและดูแลทุกๆ คนไปตลอด นานๆ และอยากทำอะไรเพื่อสังคมนานๆ โครงการที่ผมช่วยสร้างบ้านทั่วโลกก็จะทำตลอด สิ่งอะไรที่ฟิล์มทำได้และช่วยได้อยากช่วยหมด อยู่ไปเรื่อยๆ จนไม่มีใครต้องการครับ
แต่คงไม่มีวันนั้น วันที่ไม่มีใครต้องการหนุ่มคนที่ชื่อ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ"
ถึงเวลาช่วยเหลือสังคม
"ลงตัวมากเลยครับ แฮปปี้มีความสุขแทบจะทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นงานแสดง ธุรกิจ ครอบครัว และเพื่อนๆ" หนุ่มหล่อสไตล์เกาหลี "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" บอกกล่าวถึงชีวิตในช่วงนี้ และกล่าวอีกว่า "ชีวิตช่วงนี้ไม่ได้ลำบากอะไร ฟิล์มก็ทำงานหาเลี้ยงคุณพ่อคุณแม่ทุกอย่าง ตอนนี้ก็เหมือนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของทั้งตระกูลครับ (หัวเราะ)"
เหนื่อยเกินไปหรือเปล่าสำหรับเด็กหนุ่มวัย 25 ปี ที่ต้องแบกภาระต่างๆ เพียงคนเดียว หนุ่มฟิล์มพยักหน้า "ถ้าคิดในอีกมุมหนึ่งก็เหนื่อยนะ 6 ปีที่ผ่านมาผมไม่ได้พักเลยแม้แต่วันเดียว ช่วงแรกมีท้อและเหนื่อยบ้าง แต่เดี๋ยวนี้ชินและแฮปปี้ดีแล้ว เราคิดว่าเราโชคดีที่ได้ตอบแทนพระคุณของวงศ์ตระกูลได้เร็วกว่าเด็กคนอื่น มันน่าภูมิใจนะ ที่ทุกอย่างเราสร้างมาจากติดลบและกลายมาเป็นวันนี้ ได้ขนาดนี้ การทำงานที่ผ่านมา "อาร์เอส" ต้นสังกัด ให้ฟิล์มได้สัมผัสงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหนัง ละคร เพลง พิธีกร พากย์เสียง พรีเซ็นเตอร์โฆษณา เดินแบบถ่ายแบบ เรียกว่าครบวงจร"
แต่มาปีนี้ดูเหมือนว่าแฟนๆ จะได้เห็นหน้าเขาทางจอทีวีมากขึ้น ซึ่งฟิล์มยอมรับว่า "ปีนี้รับงานละครค่อนข้างเยอะ เพราะที่ผ่านมาทำงานมาหลายอย่างแล้ว ปีนี้ก็อยากคืนกำไรให้แฟนๆ บ้าง ผมรับเรื่องต่อเรื่องเลย ตั้งแต่ เสน่ห์นางงิ้ว, มนต์รักข้าวต้มมัด, DADDY DUO คุณพ่อจอมเฟี้ยว"
ถึงจะรับงานแสดงมาก แต่พระเอกตี๋ก็ยืนยันไม่ทิ้งงานเพลง โดยล่าสุดได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลงใหม่ "ไม่ได้จีบ" ในอัลบั้ม FILM FORWARD ให้แฟนๆ ได้ฟังตามคลื่นวิทยุแล้ว
นอกจากงานบันเทิง ฟิล์มยังทำงานเพื่อสังคม เป็นทูต HABITAT FOR HUMANITY THAILAND (มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศไทย) ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณสุขที่ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย เขาได้สร้างบ้านและช่วยเหลือสังคม ซึ่งการเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ เขาได้เป็นร่วมกับแบร๊ด พิตต์, บองโจวี่, ริกกี้ มาร์ติน
โดยฟิล์มเล่าถึงที่มาว่า "โครงการนี้ผมไปสมัครเอง เห็นรูปแบร๊ด พิตต์ ถือฆ้อนตอกตะปู ก็อยากรู้ว่าเป็นโครงการอะไร ก็หาข้อมูลในเน็ต ทราบว่าเป็นโครงการนี้ ก็ให้ทางอาร์เอสช่วยหาโครงการนี้ให้หน่อย เพราะอยากทำ มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องช่วยเหลือสังคมบ้าง เพราะสังคมให้อะไรกับเราเยอะมาก ให้ความเป็นฟิล์มมาทุกวันนี้ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มากกว่าที่ฝันไว้ ซึ่งผมทำมา 2-3 ปีแล้วครับ"
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมแฟนๆ ถึงได้รักเขานักขอสาวเก่งฉลาด-ไม่ต้องสวยเลิศเลอ
เพราะได้ไปเกาหลีบ่อยๆ ทำเอาหนุ่ม "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ประทับใจในบ้านเมือง วัฒนธรรม ภาษา รวมถึงสาวเกาหลี โดยหนุ่มฟิล์มชมเปาะว่าสาวแดนกิมจิน่ารัก แต่ก็ยังไม่วายโปรยยาหอมให้สาวไทยชื่นหัวใจ "แต่ยังไงก็สู้สาวไทยไม่ได้" ฟิล์มว่าและกล่าว "เพราะวัฒนธรรมการดูแลเทกแคร์ของผู้หญิงไทยจะดีที่สุดในโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าสาวเกาหลีไม่ดูแลผู้ชายนะ เขาก็ดูแล แต่จะออกแนวฝรั่งๆ ทุกคนเท่าเทียม แต่บ้านเมืองเราส่วนใหญ่ผู้ชายจะเป็นช้างเท้าหน้า"
ยิงคำถามตรงถึงสาวเมืองโสม "ลีดาเฮ" ที่มีข่าวกิ๊กกั๊กกัน นักร้องหนุ่มกล่าวแจง "ลีดาเฮถือเป็นเพื่อนคนหนึ่ง พอดีเขาเป็นดาราเหมือนฟิล์มก็เลยกลายเป็นประเด็น เราสนิทกันตั้งแต่งานสัมพันธ์ไทย-เกาหลี ก็คุยกันมาตลอด เขายังไม่ถือว่าเป็นคนพิเศษครับ ถือเป็นเพื่อนที่ผมสนิทคนหนึ่ง"
แต่ข่าวที่ออกมาตรงกันข้าม บอกฟิล์มเดินหน้าจีบ เจ้าตัวค้าน "ไม่หรอกครับ เราคุยกันในฐานะเพื่อน ส่วนใหญ่ที่คุยจะคุยแต่เรื่องงาน เพราะผมจะเอาลีดาเฮมาเล่นมิวสิควิดีโอเพลง "เรื่องของคนถูกทิ้ง" ที่เลือกเขาเพราะทางผู้ใหญ่เห็นว่าเป็นข่าวและมีกระแสขึ้นมาก็อยากให้ร่วมงานกัน เลยให้ผมติดต่อไป ยืนยันว่าไม่มีการจีบหรือเสียค่าโทรศัพท์เป็นหมื่นๆ โทร.ไปจีบ แค่คุยตามประสาเพื่อน ลีดาเฮเขาน่ารัก นิสัยดี ขยัน รักพ่อแม่คล้ายๆ ฟิล์ม เท่าที่สัมผัสเขาเป็นคนเก่ง มั่นใจในตัวเอง ไม่มีวีนหรือเหวี่ยง ไม่ถือตัว เป็นกันเองมากๆ"
สาธยายมาซะขนาดนี้ เอาเป็นว่าใช่สเป๊กไหมล่ะ ฟิล์มอมยิ้มก่อนไขความในใจ "ใช่สเป๊กหรือเปล่าตรงนี้ยังไม่แน่ใจ เพราะเราเพิ่งคุยกันเอง อยากคงความเป็นเพื่อนอย่างนี้ไปตลอด เพราะไม่รู้ว่าถ้าเราไปจีบเขา เขาจะหายไปจากเราเลยหรือเปล่า (หัวเราะ) เหมือนเริ่มจากเพื่อนแล้วค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผมขอไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธครับ" อย่างนี้ก็มีลุ้นน่ะสิ
พักหลังฟิล์มเนื้อหอม ตกเป็นข่าวกับสาวๆ หนุ่มหน้าตี๋ที่นั่งอยู่ตรงหน้าหัวเราะ "อย่างแรกงงเลยครับ งานเข้า อย่างข่าวกับน้องขวัญ (อุษามณี) เราเป็นพี่น้องกันนานแล้ว ถ้าจะเป็นแฟนก็เป็นนานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆ เป็นข่าว มันคงเป็นการสื่อสารกันผิด เลยกลายเป็นว่าผมให้กระต่าย ให้ดอกไม้ ส่งเมสเซจ จริงๆ ไม่เคยให้อะไรขวัญเลย มีแต่คุยกันธรรมดา"
นอกจากขวัญ ก็ยังมีน้องฝ้าย "คนนี้ก็นานมาก ฝ้ายเป็นเพื่อนผมตั้งแต่ตอนผมอยู่แกรมมี่ มันก็ได้แค่เพื่อนคงพัฒนาไม่ได้" เรื่องความรัก นักร้องหนุ่มยืนยันไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง เพียงแต่ยังไม่พร้อม ขอทำงานสร้างความมั่นคงให้ตัวเองก่อน แล้วก็แง้มสเป๊กสาวที่ชอบว่า "ต้องเก่ง ฉลาด ทำงาน แค่นี้จบ ไม่ต้องมาสวยหรูเลิศเลอครับ" คุณสมบัติที่บอกมานี่ ฟังดูคุ้นๆ แฮะ
"มนต์รักข้าวต้มมัด" เป็นตัวเอง 6 ปีแล้วที่หนุ่ม "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ได้คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิง โดยที่ผ่านมามีผลงานให้แสดงความสามารถนานา ทั้งการเป็นนักร้อง นักแสดง พิธีกร ฯลฯ ถามถึงผลงานที่ชื่นชอบ ฟิล์มกล่าวว่า "ถ้าเป็นงานเพลง ก็จะมีอัลบั้ม "FILM PHENOMENON" ซึ่งเพลงเพราะหมด ทีมงานที่มาทำให้เก่งหมดเลยครับ และก็มีอัลบั้มล่าสุดคือ "FILM FORWARD" ชอบเพราะเฮียฮ้อ (สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) ลงมาทำให้ ดีหมดเลยและอยากให้ทุกคนชอบครับ ส่วนงานแสดงก็มีหนังเรื่อง "รักจัง" ชอบเพราะเป็นหนังเรื่องแรกที่ผมเป็นพระเอกอย่างเต็มตัวและทำให้คนรู้จักผมครับ และก็มีละครที่ออกอากาศอยู่คือ "มนต์รักข้าวต้มมัด" ชอบตรงที่เราได้เล่นเป็นตัวเอง ได้โชว์ความสามารถเยอะมาก"
ชื่อเล่น : ฟิล์มชื่อนามสกุล : รัฐภูมิ โตคงทรัพย์วัน/เดือน/ปีเกิด : 17 พ.ย. 2527บิดา/มารดา : เสริมศักดิ์-โคมมนต์พี่น้อง : แอร์ ภูริทัตการศึกษา : อนุบาล-ประถม จากร.ร.อำนวยพิทยา มัธยม ร.ร.จันทร์หุ่นบำเพ็ญ อุดมศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์
สุวัฒน์ ฉัตรสง่า เรื่อง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
