เสื้อแดง ข่าวเสื้อแดง ม็อบเสื้อแดง เกาะติดสถานการณ์

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก, มติชนออนไลน์, ไอเอ็นเอ็น และประชาไท

          เวลา 21.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วีดีโอลิงก์ปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมเดินทางไปขวางการประชุมอาเซียนฯ ที่พัทยา พร้อมประกาศไม่กลัว ก่อนท้ารัฐบาลให้รีบออกหมายจับแกนนำ เพราะคนเสื้อแดงจะได้แห่มากันอีก บอกคนเสื่้อแดงเจ็บผมก็เจ็บ

          เมื่อเวลา 20.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดการจราจรบริเวณแยกสุทธิสารทั้ง 2 จุด ได้เคลื่อนย้ายรถยนต์ และรถแท็กซี่ออกจากบริเวณดังกล่าวเพื่อเปิดการจราจรแล้ว โดยทั้งหมดจะเดินทางไปรวมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป โดยก่อนหน้านี้ช่วง 19.30 น.ที่ผ่านมา การจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้เปิดให้สัญจรได้ทุกด้านแล้วเช่นกัน หลังกลุ่มเสื้อแดงยอมถอนตัวกลับไปทำเนียบรัฐบาล

          เมื่อเวลา 15.45 น. นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช.ได้ประกาศให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่ปิดถนนตามพื้นที่ต่างๆ อย่างเช่นถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้มาร่วมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อคอยติดตามผลการปิดล้อมการประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยา จ.ชลบุรี เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์แล้ว

           เมื่อเวลา 13.00 น. นายจตุพร พรหมพันธ์ พร้อมด้วย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ได้เดินมาขึ้นเวทีปราศรัยที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดย นายจตุพร ประกาศ ว่า บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ถือเป็นจุดที่ไม่สำคัญแล้ว เพราะรัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ การชุมนุมในบริเวณนี้ จึงไม่มีความจำเป็น ดังนั้น ภายในเวลา 17.00 น. อาจจะมีการสลายการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อไปสมทบที่ทำเนียบฯ นอกจากนี้ อาจจะมีการจัดชุดเคลื่อนที่ไปชุมนุมในสถานที่ต่างๆ โดยยอมรับว่า ในช่วงสงกรานต์อาจมีมวลชนเสื้อแดง เดินทางกลับภูมิลำเนาบ้าง แต่มั่นใจว่า จะมีกำลังเพียงพอที่จะรักษาฐานที่มั่นที่ทำเนียบรัฐบาล

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงกรานต์ อาจมีชุดเสื้อแดงติดตามนายอภิสิทธิ์ ไปในทุกๆ ที่ ถ้าเราไม่ได้กลับบ้าน นายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้กลับเช่นกัน

          นายจตุพร กล่าวถึงกรณีที่โรงพยาบาลราชวิถี ระบุว่า ออกซิเจนใกล้หมดว่า เป็นเพียงละครของกระทรวงสาธารณสุข เพราะรถพยาบาลและรถของโรงพยาบาล สามารถเข้าออกโรงพยาบาลได้ตลอด ดังนั้น คนเป็นหมอไม่ควรจะตกเป็นเครื่องมือของคนในกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนบรรยากาศภายในสนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ ตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง มีพลเรือเอก ศุภกร บุรณดิลก ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนกองทัพเรือ กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่กองทัพเรือ เจ้าหน้าตำรวจสันติบาล ตำรวจในพื้นที่นายอำเภอบ้านฉาง มาคอยให้การต้อนรับการเดินทางเข้ามาประเทศไทยของคณะผู้นำ 16 ประเทศ ซึ่งสมเด็จฮุนเซน ผู้นำจากประเทศกัมพูชา ได้เดินทางเข้ามาถึงสนามบินอู่ตะเภาเป็นประเทศแรก ตามมาด้วยผู้นำประเทศเวียดนาม และแผนการเดินทางของผู้นำทุกประเทศ ที่ทยอยเดินทางมามี ประเทศพม่า, ประเทศสิงคโปร์, ประเทศเกาหลี, ประเทศลาว, ประเทศมาเลเซีย, ประเทศบรูไน, ประเทศฟิลิปปินส์, ประเทศอินเดีย, ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น

สำหรับการรักษาความปลอดภัยในวันนี้ ทางด้านกองทัพเรือได้จัดการรักษาความปลอดภัยในการประชุมอาเซียนซัมมิค ครั้งที่ 14 ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยจัดเรือหลวงตาปี เรือหลวงสีชัง เรือหลวงสู้ไพรินทร์ เรือตรวจการณ์หมายเลข 225 เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ และมีเรือตำรวจน้ำจำนวน 2 ลำ ไว้สำหรับการเปลี่ยนแผนฉุกเฉิน รับผู้นำจากประเทศต่างๆ ออกนอกพื้นที่เสี่ยงภัยอันตราย อีกทั้งได้จัดเรือสปรีดโบ้ท จำนวนมาก ไว้สำหรับอพยพผู้นำ ประชาชน ลงเรือรบในอ่าวเมืองพัทยา

          ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงพัทยา ผู้ชุมนุมเสื้อแดงประมาณ 300 คน ซึ่งเป็นชุดล่วงหน้าได้ผ่าด่านสกัดของ ตำรวจในพื้นที่ตำรวจตะเวนชายแดน และทหาร เข้าถึงบริเวณทางเข้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีชรี สอร์ท พัทยา สถานที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน โดยปิดทางไม่ให้รถผ่านเข้าออกโรงแรมได้ ทำให้การจราจรหน้าโรงแรมติดขัดเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นผู้ชุมนุมได้ทยอยตามขึ้นมาปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณหน้าโรงแรม กว่า 1,000 คน โดยมีการนำรถ 6 ล้อปราศรัยเคลื่อนที่ นำโดย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ได้ปราศรัยให้ผู้ชุมนุมปิดล้อมบริเวณด้านหน้าโรงแรม โดยจะไม่มีการบุกรุกเข้ามายังโรงแรม

          ขณะเดียวกัน สำนักข่าว AP และยูเอส นิวส์ รายงานสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และทำให้การจราจรในกรุงเทพฯ กลายเป็นอัมพาตหลายจุด เพื่อหวังจะโค่นรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศว่า พวกเขาจะตั้งเวทีประท้วงในบริเวณสถานที่จัดการประชุมสุดยอดของ 16 ชาติ ในภูมิภาคเอเชีย ที่เปิดฉากขึ้นแล้วที่พัทยาในวันนี้

          ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง แถลงว่า ได้ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เจรจากับแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่หน้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา เพื่อขอความร่วมมือเปิดทางให้ผู้นำประเทศอาเซียนและทูตเจรจาเข้าประชุมที่โรงแรมได้ โดยรัฐบาลจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้การประชุมสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งจะใช้ความอดทนอดกลั้นมากที่สุดและจะใช้วิธีละมุนละม่อม หากผู้ชุมนุมไม่ยอมเปิดทางคงจำเป็นต้องทำบางอย่างเพื่อให้เปิดทางได้

          ทั้งนี้ เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พ.ญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวถึงปัญหาจากการปิดถนนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า จากการชุมนุมปิดถนนส่งผลให้การเข้าออกโรงพยาบาลเป็นไปด้วยความยากลำบาก แม้ว่าขณะนี้จะแก้ไขปัญหาการรับส่งผู้ป่วยโดยใช้รถพยาบาลของโรงพยาบาลรับส่งผู้ป่วยจากโรงพยาบาลออกไปยังสถานีรถไฟฟ้าและจุดอื่นๆ โดยรอบ และรับผู้ป่วยที่ต้องการเข้ามารักษาในโรงพยาบาลแล้ว

          ล่าสุดได้รับรายงานว่า ออกซิเจนซึ่งใช้สำหรับผู้ป่วยในการช่วยหายใจในคลังออกซิเจนของโรงพยาบาลใกล้หมด และรถที่จะนำถังออกซิเจนเข้ามาส่งไม่สามารถเข้ามาได้ ซึ่งหากออกซิเจนไม่สามารถเข้ามาส่งได้ อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วย ขณะนี้ได้เจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอเปิดทางขอให้รถนำถังออกซิเจนเข้ามาส่งในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนแล้ว

          อย่างไรก็ตาม เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อยบริเวณถนนพญาไทระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาสับเปลี่ยนกำลังประจำการตามจุดต่างๆ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยประมาณ 1 กองร้อย เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม

แผนที่และข่าว แสดงความเคลื่อนไหวเสื้อแดงทั่วกรุงเทพ
ดู แผนที่และข่าว แสดงความเคลื่อนไหวเสื้อแดงทั่วกรุงเทพ ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า

          แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ขณะที่บรรยากาศโดยทั่วไปของการชุมนุมเริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมมากขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่หนาแน่นมากนัก เช่นเดียวกันกับประชาชนที่สัญจรไปมาซึ่งพบว่ายังทำงานตามปกติ โดยประชาชนส่วนใหญ่จะทำงานบริเวณใกล้ๆ กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

          ด้าน กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) ประกาศแจ้งข่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงนำรถแท็กซี่มาจอดขวางถนนกีดขวางการจราจรบริเวณ ก่อนขึ้นสะพานข้ามแยกสุทธิสาร ถนนวิภาวดีรังสิต โดยรถที่มาจากแยกลาดพร้าวไม่สามารถผ่านบริเวณดังกล่าวได้ โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทาง

          โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ชุมนุมที่นำรถแท็กซี่มาปิดกั้นจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ทำการเคลื่อนรถออกจากพื้นที่หมดแล้ว แต่ได้นำรั้วเหล็กของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มากั้นแทน อย่างไรก็ตาม การดูแลความปลอดภัย มีการ์ดของกลุ่มเสื้อแดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท คอยสังเกตการณ์และรักษาความสงบตลอดการชุมนุม

          ขณะเดียวกัน กลุ่มแท็กซี่ที่นำรถจอดขวางบริเวณแยกโบสถ์แม่พระ ก็ได้ทำการเปิดเส้นทางแล้วเช่นกัน สำหรับสภาพการจราจรถนนที่ปิดการจราจรอยู่ ยังคงเป็นโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิทั้งสี่ด้าน ถนนวิภาวดีฯช่วงมิตรไมตรีถึงแยกดินแดง และสุขุมวิท 71 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น และวันนี้หากผู้ชุมนุมจะไปปิดจราจรเพิ่มเจ้าหน้าที่จะเร่งไปดำเนินการไม่ให้มีการปิดการจราจรเพิ่มขึ้นอีก เพราะทำให้ประชาชนเดือดร้อน หากไม่แน่ใจเส้นทางโทรถามได้ที่สายด่วน สอบถาม 1197 สายด่วนจราจร

          สำหรับความเคลื่อนไหวในช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มคนขับรถแท็กซี่และกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ รวมตัวกันปิดถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าบริเวณแยกสุทธิสาร ปากทางเข้ามหาวิทยาลัยหอการค้า และปากซอยมิตรไมตรี ซึ่งสามารถทะลุไปห้วยขวางได้ นอกจากนี้ ยังมีการปิดการจราจรบริเวณแยกโบสถ์แม่พระฟาติมา และทางขึ้นโทลล์เวย์ขาออกถนนวิภาวดีรังสิต ตรวจค้นรถทุกคันที่วิ่งผ่าน โดยอ้างว่าเหตุที่ต้องดาวกระจายจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาปิดถนนโดยรอบ เพื่อป้องกันมือที่ 3 เข้าไปสร้างสถานการณ์ และป้องกันตำรวจทหารเข้าไปสลายการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทั้งนี้ ในช่วงเช้า เส้นทางการจราจรในพื้นที่ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงชุมนุมในช่วงเวลานี้

          สถานีตำรวจนครบาลวิภาวดีแจ้งเส้นทางการจราจรในพื้นที่ ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงชุมนุมในช่วงเวลานี้และได้มีการปิดการจราจรมีดังนี้ หน้าสถานีดับเพลิงสุทธิสาร (ใกล้แยกสุทธิสาร), บริเวณปากซอยมิตรไมตรี, บริเวณช่วงทางลงยำระดับอุตราภิมุข (ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์) ช่วงโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี แจ้งผู้ใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงการจราจรในจุดดังกล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มเสื้อแดงได้มีการปิดการจราจรมีดังนี้...

          ถนนราชวิถี ขาเข้า-ขาออก

          ถนนพหลโยธิน ขาเข้า

          ถนนพญาไท

          บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มุ่งหน้าวิภาวดีรังสิต

          แยกตึกชัย

          ถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงมิตรไมตรี

          พระราม4 แยกสุขุมวิท71

          แยกนราธิวาสราชนครินทร์-สาทรใต้

          แยกสุทธิสาร บริเวณสะพานข้ามแยกสุทธิสาร ถนนวิภาวดีรังสิต โดยรถที่มาจากแยกลาดพร้าวไม่สามารถผ่านบริเวณดังกล่าวได้ โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทาง

          ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์มาถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพื่อเจรจาใน 3 เรื่อง คือ...

          1. ให้ พล.อ.อนุพงษ์บอกกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ตัดสินใจยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งใหม่

          2. ให้เคลียร์คดีอายัดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท

          3.ใ ห้สถานะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง

          อย่างไรก็ตาม พล.อ.อนุพงษ์ยังไม่ได้ตกลงแต่อย่างใด ขณะเดียวกันแหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.อนุพงษ์ ปฏิเสธว่า ไม่มีการติดต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และไม่เคยมีการยื่นข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักโทษหนีคดี จะมายื่นข้อเสนอแบบนี้ได้อย่างไร ข้อเสนอทุกข้อล้วนแล้วแต่เป็นไปไม่ได้ การยุบสภาเลือกตั้งใหม่เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพ ส่วนการขอเคลียร์คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ก็อยู่ในขั้นตอนของศาล แล้วถ้ายอมทำให้จะตอบคำถามประชาชนได้อย่างไร ส่วนเรื่องการขอสถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองก็เป็นอำนาจการตัดสินใจของรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ

          ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที (ช่อง 11) ว่า ข้อเรียกร้องเดิมทั้ง 3 ข้อของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น สับสนและไม่นำไปสู่การได้ประชาธิปไตยอย่างที่ควรจะเป็น เช่น การตั้งข้อเรียกร้องให้องคมนตรีลาออกนั้น เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่เหมาะสม พยายามขยายวงไปสู่สถาบันและผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง ส่วนข้อเรียกร้องที่ 2 ให้ยุบสภาและลาออกนั้น ขอยืนยันว่าการตัดสินใจของตนจะอยู่บนพื้นฐานประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ การยุบสภาในช่วงนี้คงไม่นำไปสู่การเลือกตั้งที่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ถ้าเรายุบสภาภายใต้บรรยากาศเช่นนี้ สิ่งที่ปรากฏต่อชาวโลกคือภาพลักษณ์ความวุ่นวาย เพราะมีการข่มขู่คุกคามของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเอง ยิ่งหากเกิดความรุนแรงช่วงเลือกตั้ง จะยิ่งซ้ำเติมภาพลักษณ์ของประเทศอย่างรุนแรง การยุบสภาคงไม่เหมาะสมช่วงนี้

          นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้งานแก้ไขเศรษฐกิจกำลังเดินหน้าชัดแจ้ง การจัดประชุมอาเซียนบวกประเทศคู่เจรจา ล้วนแต่เสริมความเชื่อมั่นให้ประเทศเดินต่อไปได้ หากยุบสภา สิ่งเหล่านี้ต้องหยุดชะงัก ในส่วนข้อเสนอให้ลาออก ข้อเรียกร้องนี้สับสน หากลาออก สภาต้องประชุมเลือกนายกฯ ใหม่ วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลยังยืนยันทำงานร่วมกันเหมือนเดิม ถ้าพรรคร่วมเลือกตนกลับมาเป็นนายกฯ ก็จะกลับสู่สถานการณ์เหมือนเดิม ส่วนข้อเรียกร้องที่ 3 ที่ผู้ชุมนุมระบุว่าปรารถนาเห็นระบอบประชาธิปไตยดำเนินต่อไปนั้น ไม่มีอะไรดีกว่าการให้รัฐสภาเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ปรับปรุงกติกากฎหมายรัฐธรรมนูญให้มีความเหมาะสม เชื่อว่าประชาชนเริ่มเข้าใจว่าการผสมผสานข้อเรียกร้องที่ 3 เป็นความพยายามที่จะสร้างความสับสนทางการเมือง

          นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การชุมนุมวันนี้ ผู้ชุมนุมร้อยละ 70 ตัดสินใจเดินทางกลับไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ผู้ชุมนุมเหลือร้อยละ 30 ได้เปลี่ยนแนวทางการชุมนุม สิ่งที่ประกาศบนเวทีเป็นเรื่องผิดกฎหมาย การชักชวนประชาชนให้มาละเมิดกฎหมายโดยอ้างว่าไม่จำเป็นต้องเคารพกฎหมาย โดยอ้างว่าไม่มีรัฐบาล แนวทางข้อเรียกร้องนี้ มีประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วย เพราะทำให้เห็นว่าบ้านเมืองของเราเห็นว่าไม่ต้องมีกฎหมายก็ได้ การกระทำของผู้ชุมนุมช่วงบ่ายที่มีการปิดถนน ปิดการจราจร เป็นการทำผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ตรงนี้ไม่มีนักประชาธิปไตยคนใดสนับสนุนได้ พฤติกรรมเช่นนี้เป็นการกระทำของคนที่ไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลทราบว่าจุดมุ่งหมายของผู้ชุมนุมที่เหลืออยู่คือ ต้องการยั่วยุให้เกิดสถานการณ์เผชิญหน้า รุนแรง หวังผลให้เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ เชิญชวนประชาชนมาร่วมกันก่อจลาจล หยุดยั้งบ้านเมืองไม่ให้เดินต่อในการประชุมอาเซียน แต่ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านของเราและประเทศคู่เจรจา ยังยืนยันจะมาร่วมการประชุม เพราะเขาเข้าใจดีถึงสถานะของรัฐบาลไทยในปัจจุบัน ฉะนั้นที่บอกจะไม่ใช้ความรุนแรงและบังคับใช้กฎหมาย ยังเป็นแนวทางที่เรายึดถืออยู่ และเราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ที่ต้องการให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย

          "การบังคับใช้กฎหมายจะเกิดแน่นอน ขณะนี้รัฐบาลจะเริ่มบังคับใช้กฎหมาย คนที่ถูกชักจูงขอให้ท่านได้ไตร่ตรองและตัดสินใจยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศ ยืนอยู่บนความถูกต้องของบ้านเมืองของสังคม ละเว้นการกระทำเหล่านี้เสีย รัฐบาลจะแยกคนเหล่านี้ออกมา จะเหลือเพียงผู้ดำเนินการที่จงใจกระทำผิดกฎหมาย กระทบกับความมั่นคง ซึ่งรัฐจะดำเนินการ เพราะภาพเสียงต่างๆ บันทึกไว้หมดแล้ว รวมถึงทะเบียนรถและตัวบุคคล ซึ่งจะพิจารณาลงโทษต่อไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว

          นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้ปรึกษา ครม.และเห็นพ้องให้ 1.ประกาศให้วันที่ 10 เมษายน เป็นวันหยุดราชการ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและง่ายต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ในการแยกแยะกลุ่มคนที่ทำผิดกฎหมาย 2.ขอให้ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที รายงานสถานการณ์ข่าวสารเพื่อประชาชนตลอดเวลา ให้เห็นว่ากลุ่มบุคคลดำเนินการอย่าไร เป็นไปตามที่กล่าวอ้างว่ายึดถือประชาธิปไตยหรือไม่ และให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายเด็ดขาดอย่างไร

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าการใช้ความรุนแรง แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนต้องการเพิ่ม ยกระดับความรุนแรง ซึ่งตนได้ประชุมหน่วยมั่นคงจะอาศัยกำลังพล ตำรวจทหาร เจ้าหน้าที่เทศกิจในการดูแลพื้นที่สาธารณะ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายอย่างดีที่สุด ส่วนภาคเอกชนก็ต้องช่วยรัฐบาลสอดส่องดูแล มีมาตรการเข้มงวดกวดขันมากขึ้น ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแล แจ้งข้อมูลเบาะแสต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุร้าย ทั้งนี้เมื่อมีการแยกแยะผู้ชุมนุมแล้ว เรามั่นใจว่ารัฐจะสามารถบังคับใช้กฎหมาย และนำเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติได้

ทักษิณ วีดีโอลิงค์ เสื้อแดง ปลุกม็อบไปพัทยา