x close

นายกฯ แถลงซ้ำ ขอม็อบยุติ-ทหารพร้อมปฏิบัติ!

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

พรก.ฉุกเฉิน


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 12 เมษายน ว่า การก่อความวุ่นวาย จลาจล ดังนั้น ขณะนี้ผมพร้อมที่จะเข้าปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ท่านรองนายกรัฐมนตรี สุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นผู้กำกับการปฏิบัติงาน ก็ได้ให้ทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว

          "ผมขอให้พี่น้องประชาชนอยู่ในความสงบ มีความมั่นใจว่ารัฐบาลนั้น กำลังดำเนินการทุกวิถีทางที่จะรักษากฎหมาย และทำให้บ้านเมืองกลับไปสู่ความเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันก็ขอบอกไปยังผู้ชุมนุมว่า ผมย้ำตลอดและยังย้ำอยู่ว่า หากการชุมนุมเป็นเรื่องของการเรียกร้องในสิ่งที่ท่านพึงจะเรียกร้องนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลพร้อมที่จะพูดคุยและตอบสนอง แต่ว่าท่านผู้ชุมนุมไม่มีสิทธิ์ในการที่จะทำอะไรที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น เพราะฉะนั้นขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว และรัฐบาลมีความจำเป็น ถ้าหากการกระทำดังกล่าวยังดำเนินต่อไป ที่จะต้องใช้มาตรการตามพระราชกำหนดในการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ผมขอย้ำกับพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่งว่า ทั้งหมดที่เราทำอยู่นี้ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เพื่อประโยชน์ของระยะยาว เพื่อให้บ้านเมืองสามารถเดินไปได้อย่างที่ควรจะเป็น และเราจะตัดสินใจและดำเนินการทุกวิถีทาง โดยยึดประโยชน์ตรงนี้เท่านั้น ขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ ในการทำให้บ้านเมืองของเราสามารถฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง
 
          หลังจากเมื่อเวลา 14.20 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้อาศัยความอำนาจในมาตรา 5 และมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหาราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พรก.ฉุกเฉิน) อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา29 ประกอบกับมาตรา 32 ,33,34,36,38,41,43,45และมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่...

           กรุงเทพมหานคร 

           อ.เมือง จ.นนทบุรี 

           อ.บางพลี อ.พระประแดง  อ.บางบ่อ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 

           อ.ธัญบุรี อ.ลาดหลุมแก้ว อ.สามโคก อ.ลำลุกกา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 

           อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

           จ.พระนครศรีอยุธยา อ.วังน้อย อ.บางปะอิน อ.บางไทน อ.ลาดบัวหลวง
 

          พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้ยืนยันด้วยว่า จะไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา แต่ต้องการให้ประเทศอยู่ในความสงบ ไม่ให้ใครมาล่วงละเมิดกฏหมายและใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ได้มีการแต่งตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากนี้ ยังออกข้อกำหนดห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือกระทำการอันยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย รวมทั้งห้ามเผยแพร่สื่อใดที่อาจยั่วยุหรือบิดเบือนความสงบในสังคม ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรืออาคารตามที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในสถานการณ์กำหนด และยังให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการจับกุมตัวบุคคลหรือยึดอาวุธตามความจำเป็น รวมทั้งห้ามผู้ใดออกนอกราชอาณาจักรและสามารถออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารดูแลสถานการณ์ได้           

          ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 12 เมษายน  พ.ศ. 2552





          อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นการออกแถลงการณ์ ที่กระทรวงมหาดไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมกระทรวงมหาดไทย จนไม่สามารถเดินทางออกมาได้ แม้มีการประกาศพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 แล้วก็ตาม ขณะที่ทหารและตำรวจ ที่ตรึงกำลังที่กระทรวงมหาดไทย ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ และปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงถืออาวุธ เดินตามหานายกฯ และปลุกระดมตลอดเวลา
 
          โดยได้มีเสียงปืนดังขึ้น ที่บริเวณด้านนอกกระทรวงมหาดไทย ขณะที่รถเบนซ์ ซึ่งเป็นรถประจำตัวของนายกรัฐมนตรี ถูกทุบทำลายเสียหาย และล่าสุดมีรายงานว่า นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพหลบกลุ่มเสื้อแดงออกจากกระทรวงมหาดไทยได้หวุดหวิด เบื้องต้นพบเหตุการณ์ชุลมุนมีคนบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

          ทางด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงอย่างเคร่งครัด ส่วนจะเป็นรูปแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่จะไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวอย่างแน่นอน 

          ในขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า หลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตำรวจและทหารจะปฏิบัติตามพ.ร.ก.อย่างเคร่งครัด โดยในส่วนของทหารจะมีหน้าที่รักษาสถานที่สำคัญ โดยมาตรการจะเข้มข้นขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการปะทะ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยนำกำลังพลพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งตามสถานที่ราชการ แหล่งชุมชนและสี่แยกจราจรที่สำคัญ 


อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ



          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ถึงเหตุที่ต้องเลื่อนการประชุมผู้นำอาเซียนและคู่เจรจาออกไปว่า เชื่อว่าประชาชนรู้สึกผิดหวังและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะการจัดประชุมครั้งนี้มีความสำคัญมาก หากประสบผลสำเร็จก็จะสร้างความเชื่อมั่นและสามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้หลายด้าน แต่รัฐบาลหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่จะทำให้เกิดความรุนแรงจึงจำเป็นต้องเลื่อนการประชุมอาเซียนออกไป ซึ่งผู้นำอาเซียนก็ได้เข้าใจและขอบคุณที่รัฐบาลที่ตัดสินใจเช่นนี้

          "แต่การเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 11 เมษายนนั้น ไม่ใช่เพื่อประชาธิปไตย เพราะมีการทำผิดกฎหมายที่ขัดขวางการประชุมโดยเอาผลประโยชน์ของชาติมาเป็นตัวประกัน หวังเพียงเพื่อชนะกันเท่านั้น" นายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่สามารถที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ จึงขออภัยประชาชนที่จำเป็นต้องตัดสินใจเลื่อนการประชุมผู้นำอาเซียนออกไป แต่ยืนยันว่าได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว พร้อมกันนี้ตนได้ขอโทษขออภัยผู้นำอาเซียนด้วยตัวเอง ซึ่งผู้นำเหล่านั้นก็เข้าใจ

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า และเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงทั้งคืน โดยได้ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงตกลงจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีกแล้ว และใน 3-4 วันข้างหน้า จะต้องเห็นการเปลี่ยนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งได้ออกมาหมายจับไปแล้ว 1 คน และวันนี้(12 เมษายน) ฝ่ายกฎหมายจะเร่งขอออกหมายจับจากศาลให้เร็วที่สุด พร้อมเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมยุติการทำผิดกฎหมาย

          นากยรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า เรื่องการบริหารจัดการด้านการเมืองจะดำเนต่อไป เพราะตนเองมาเป็นนายกรัฐบาลตามกระบวนการกฎหมาย เพราะเป็นคนให้คำมั่นว่าจะปกป้องสถาบันหลักของชาติ และนำพาประชาชนฝ่าวิกฤติการเมืองและเศรษฐกิจไปให้ได้ เพราะในการทำงาน ไม่เคยเอาประโยชน์ส่วนตนมาเกี่ยวข้องโดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
 
         ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ทุกช่องอีกครั้ง เพื่อประกาศยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยระบุว่า ภารกิจของตนคือการดูแลการเดินทางกลับประเทศของผู้นำประเทศต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะนี้ภารกิจได้ลุล่วงแล้ว รัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ดังกล่าวอีกต่อไป จึงขอประกาศยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในท้องที่เมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี 

          "ผมขอเรียนว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ คือความสูญเสียของชาติ ใครก็ตามที่ประกาศชัยชนะกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผมถือว่าใครคนนั้นคือศัตรูของประเทศไทย ผมจะไม่ยอมให้ใครที่คิดร้ายต่อประเทศ มามีอิทธิพลหรือมีอำนาจหนือประชาชนชาวไทย ผมจะใช้อำนาจที่มี เพื่อนำความสงบเรียบร้อยกลับมาสู่ประชาชนชาวไทย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
       


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นายกฯ แถลงซ้ำ ขอม็อบยุติ-ทหารพร้อมปฏิบัติ! อัปเดตล่าสุด 12 เมษายน 2552 เวลา 18:35:59 43,344 อ่าน
TOP