สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ภายหลังรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.36 น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงปิดถนนบริเวณแยกยมราช ทำให้ต้องปิดการจราจรถนนพิษณุโลก ช่วงแยกยมราชถึงแยกนางเลิ้ง รวมทั้งบริเวณแยกศรีอยุธยา มีกลุ่มเสื้อแดงรุมล้อมรถเกราะของทหาร ผู้ใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบแยกศรีอยุธยา ได้แก่..ถนนศรีอยุธยา ถนนพระรามที่ 6 ส่วนบริเวณแยกประตูน้ำ มีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมาปิดเช่นกัน ผู้ใช้เส้นทางถนนเพชรบุรีจากแยกอุรุพงษ์ มุ่งหน้าแยกประตูน้ำให้ใช้สะพานข้ามแยกประตูน้ำ
บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการปิดการจราจรถนนพระรามที่ 1 ช่วง แยกราชประสงค์ ถึงแยกเฉลิมเผ่า ทั้ง 2 ฝั่ง ผู้ใช้เส้นทางถนนเพลินจิตไม่สามารถตรงผ่านแยกราชประสงค์ไปแยกปทุมวันได้ รวมทั้งถนนพิษณุโลก จาก แยกสนามม้านางเลิ้ง ถึงแยกวังแดง ทั้ง 2 ฝั่ง
ขณะที่พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ทางตำรวจและทหาร ควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ ในลักษณะใกล้เคียงกันกับในช่วงที่ผ่านมา เพียงแต่ว่า มาตรการทั้งหลายที่ปฏิบัติมีความเข้มข้น และกระชับมากขึ้น เพราะฉะนั้น จุดสำคัญต่างๆ ที่มีป็นพื้นที่สาธารณะที่คิดว่า ถ้าควบคุมไว้ก่อนจะทำให้เกิดความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินโดยรวม และป้องกันไม่ให้มีคนมาสร้างสถานการณ์ได้ จึงจัดทั้งทหาร ตำรวจ ออกไปปฏิบัติงานร่วมกัน ซึ่งจะป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายในจุดต่างๆ
เมื่อถามว่า คำสั่งล่าสุดขณะนี้ที่ทหารได้รับ ต้องเตรียมพร้อมเรื่องอะไรบ้าง โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เป็นการปฏิบัติภารกิจเตรียมรักษาสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นการปฏิบัติภารกิจควบคู่กัน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นนโยบายของรัฐบาล เพราะถ้าปล่อยให้สถานการร์เป็นลักษณะอย่างนี้ก็จะควบคุมไม่ได้ ความจริงที่ผ่านมา คงสังเกตเห็นว่า เจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจใช้ความอดทน และหลีกเลี่ยงการปะทะ การใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด แต่ว่าถ้าหย่อนจนมากเกินไป สถานการณ์จะเกิดความจริงเกินควบคุม เพราะฉะนั้น วันนี้มาตรการทั้งหลายก็ต้องเข้มข้นขึ้น
"หลังจากที่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปแล้ว จะเห็นเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ออกปฏิบัตภารกิจหลายพื้นที่ มีทั้งเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ ยุทธโธปกรณ์ สานพานลำเลียงคน ก็ขอให้อย่าตกใจ การที่ปฏิบัติทั้งหมดนี้ มิใช่การปฏิรูป หรือปฏิวัติแต่ประการใด แต่เป็นเหตุผลการปฏิบัติ ตามอำนาจหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น โดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้" โฆษกกองทัพบก กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังรัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลซึ่งทำให้ประชาชนสงสัยว่าจะใช้ระบบขนส่งเดินทางได้ตามปกติหรือไม่นั้น ล่าสุดนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ในส่วนของการเดินรถของ บขส. ในวันนี้ยังให้บริการเดินทางประชาชนกลับภูมิลำเนาในเทศกาลสงกรานต์ตามปกติ และยังไม่มีคำสั่งจากรัฐบาลให้ทบทวน หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายการให้บริการแก่ประชาชน ดังนั้น บขส. จะยังคงให้บริการขนส่งผู้โดยสารตามปกติในขณะนี้ จนกว่ารัฐบาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ด้าน นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ในวันนี้การเดินทางโดยรถไฟของประชาชน รฟท. จะยังให้บริการปกติ แม้จะมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากรัฐบาลยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง และ รฟท. เกรงว่า หากมีการหยุดเดินรถ จะกระทบประชาชนที่ใช้บริการเดินทางกลับภูมลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ขณะที่นายสมชัย สวัสดีผล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับยกระดับการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความมั่นใจความปลอดภัยในพื้นที่ท่าอากาศยาน แต่ยังคงให้บริการประชาชนตามปกติ และจะยังคงได้รับความสะดวกในการเดินทาง ขณะนี้ ทอท. จะมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานความปลอดภัยขึ้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่จาก ทอท. ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยศูนย์ดังกล่าว จะตั้งอยู่ที่อาคารสำนักงานของ ทอท. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (เอโอบี) และจะมีการติดตามสถานการณ์ด้านความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างใกล้ชิดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ในส่วนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นั้น นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า รถขสมก. จะต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ อาทิ หน้ากระทรวงมหาดไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, หน้ากระทรวงต่างประเทศ โดยจะมีสายตรวจและนายตรวจกระจายตามจุดต่างๆ ตามแยกสำคัญๆ และจะมีการประสานงานกับพนักงานขับรถ เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีปัญหาม็อบเสื้อแดง ทั้งนี้ จะดูความเหมาะสมว่า หากได้ส่งผู้โดยสารส่วนใหญ่กลับเข้าที่พักได้ จะมีการตัดการเดินรถในบางจุด เพื่อความปลอดภัยของพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งขณะนี้ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่อยู่ในตัวเมืองเดินทางกลับบ้านหมดแล้ว เหลือเฉพาะพื้นที่นอกเมืองจึงจะยังมีรถให้บริการอยู่ ซึ่งผู้โดยสารที่ต้องการสอบถามเส้นทางสามารถสอบถามสายด่วน 184
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
