x close

สงกรานต์สุดกร่อย! จากเหตุการเมืองวุ่น



สงกรานต์สุดกร่อย! จากเหตุการเมืองวุ่น (ไทยรัฐ)

          บรรยากาศงานเทศกาลสงกรานต์หลายพื้นที่สุดกร่อยจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง โดยเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาร่วมเล่นน้ำสงกรานต์คึกคัก โดยนายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร สั่งยกเลิกการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่ภาครัฐเป็นผู้จัดในกรุงเทพมหานครทั้งหมดว่า ตนคงยืนยันจะจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารต่อไป เพราะงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร ไม่ได้มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาร่วมสนับสนุน อีกทั้งทางสมาคมฯ ต้องการรักษาประเพณีไทยให้อยู่กับถนนข้าวสาร

          กระทั่งช่วงบ่ายนายสุรัตน์ได้กล่าวว่า ได้ยกเลิกจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในวันที่ 13 เมษายน ไปก่อน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เพราะไม่วางใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งลูกค้าก็ไม่มีแล้ว และขอให้รอดูวันที่ 14 เม.ย. ว่าเหตุการณ์ปกติแล้วค่อยมาค้าขายกันใหม่ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ขอให้กลับไปในห้องพัก

          ที่ จ.ระยอง เทศบาลนครระยอง ได้จัดงานที่สวน ศรีเมือง มีพิธีสรงน้ำพระและประพรมน้ำพุทธมนต์ พร้อมรดน้ำขอพรผู้สูงอายุในชุมชนต่างๆ และในช่วงบ่ายนายสยุมพร ลิ่มไทย ผวจ.ระยอง เป็นประธานเปิดกรวยถวายพระพร เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในโครงการปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ เพื่อความสงบ สันติ และรู้รักสามัคคี มีชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจชุมชน และประชาชนมาร่วมงานจำนวนมาก จากนั้นนายสยุมพรได้กล่าวเปิดงานประเพณีสงกรานต์จังหวัดระยอง และเปลี่ยนผ้าอังสะพระพุทธอังคีรส พระคู่บ้านคู่เมืองระยอง และร่วมขบวนแห่ประเพณีสงกรานต์

          นอกจากนี้บริเวณถนนบำรุงราษฎร์ ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ย่านสถานบันเทิงเมืองระยอง และเป็นจุดที่สาวพนักงานสถานบันเทิง นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมาเล่นสาดน้ำเป็นจำนวนมากทุกปี ปรากฏว่าบริเวณหน้าร้านซุปเปอร์คลีนคาร์แคร์ นายกิตติพงษ์ ปานงาม อายุ 28 ปี เจ้าของร้านได้ตั้งเวที ว่าจ้างสาวโคโยตี้ แต่งกายเซ็กซี่สวมกางเกงขาสั้นจู๋ออกมาเต้นด้วยท่าทางยั่วยวน เล่นสาดน้ำกับผู้สัญจรไปมา ทำให้เสื้อผ้าเปียกน้ำ รัดรูปเน้นทรวดทรง หนุ่มบางคนถือโอกาสเข้าไปลูบคลำด้วยความคึกคะนอง ทำให้ผู้ที่พาครอบครัวมาเล่นสาดน้ำต้องรีบพาลูกหลานเดินหนี ซึ่งนายกิตติพงษ์เปิดเผยว่าได้จัดเวทีแสดงดังกล่าวมา 3 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเคยมีคนตำหนิ แต่ก็มีเสียงเรียกร้องจำนวนมากให้จัดต่อเพื่อความสนุกสนาน

          ภาคอีสาน จ.นครพนม เริ่มงานเทศกาลสงกรานต์ อย่างคึกคักตั้งแต่เช้า มีนักท่องเที่ยวทั้งไทย ลาว และต่างชาติออกไปทำบุญตักบาตรตามวัดสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร มีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาสรงน้ำองค์พระธาตุพนมมากกว่าทุกปี โดยทางวัดได้จัดทำรอกสลิงขันน้ำให้ประชาชนชักรอกขันน้ำมนต์ขึ้นไปสรงน้ำบนยอดองค์พระธาตุ ขณะที่นายพงศ์ศิริ กุสุม ผวจ.นครพนม ได้เปิดงาน "เทศกาลสงกรานต์นครพนม รื่มรมย์ บุญปีใหม่ ไทย ลาว ถนนข้าวปุ้น" บริเวณท่าแพ ขนานยนต์ ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำสงกรานต์และชิมข้าวปุ้น หรือขนมจีน และทางอำเภอเรณูนคร ร่วมกับเทศบาลตำบลเรณูนคร เปิดงานเทศกาลสงกรานต์ชาวผู้ไทยเรณูนคร บรรยากาศย้อนยุคแบบชาวผู้ไทย มีการแห่ขบวนสงกรานต์ แสดงศิลปวัฒนธรรมของชาวภูไทยชุมชนต่างๆ 

          ที่ จ.อุดรธานี สำนักงานเทศบาลนครอุดรธานี ร่วมกับทางจังหวัดอุดรธานี จัดให้มีการทำบุญตักบาตร ที่สนามทุ่งศรีเมือง มีนายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.อุดรธานี เป็นประธาน ก่อนจะร่วมกันสรงน้ำพระอภัยมงคลสมังคี พระพุทธโพธิ์ทอง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุดรธานี ศาลหลักเมือง และท้าวเวสสุวัณ และสรงน้ำพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และรับน้ำมนต์ มีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนมาร่วมงานจำนวนมาก ส่วนที่ จ.หนองคาย ที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง นายกวี กิตติสถาพร ผวจ.หนองคาย เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ กระทั่งเวลา 09.09 น. ได้อัญเชิญหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย ลงจากพระอุโบสถ ขึ้นประดิษฐานบนราชรถเป็นองค์ประธาน พร้อมพระพุทธรูปจากชุมชนต่างๆแห่ไปรอบเมืองให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สรงน้ำอย่างทั่วถึง

          จ.นครราชสีมา บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์บนถนนในตัวเมืองนครราชสีมา เริ่มคึกคักในช่วงบ่าย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น  นำแป้งและน้ำขึ้นรถปิกอัพจากต่างอำเภอเข้ามาร่วมเล่นน้ำในตัวเมือง ขณะที่ตาม 2 ข้างทางมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายน้ำดื่ม แป้ง ปืนฉีดน้ำเป็นจำนวนมาก และมีพ่อค้าแม่ค้าเห็นแก่ได้ตั้งโต๊ะจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ บางร้านให้สาวเชียร์เบียร์นำเบียร์ใส่ถุงเดินขายกลางถนนอย่างโจ๋งครึ่ม และยังขายให้กับคนขับรถอีกด้วย ซึ่ง พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา สั่งให้ตำรวจจับกุมดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด

          ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก มีประชาชนจำนวนมากไปทำบุญตักบาตรที่วัดราชบูรณะ ต.ในเมือง และร่วมกันสรงน้ำพระเจดีย์หลวง ขณะที่นายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ร่วมกันเปิดงานถนนรดน้ำสงกรานต์สองแคว กำหนดให้ถนนเอกาทศรถเป็นถนนรดน้ำ จัดให้มีอุโมงค์น้ำ และการแสดงโฟมปาร์ตี้ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมเล่นน้ำฉลองสงกรานต์อย่างคับคั่ง โดยมีการห้ามดื่มและนำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้ามาในถนนดังกล่าวด้วย

          ส่วนบรรยากาศงานเทศกาลสงกรานต์ที่ภาคใต้ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นายประชา เตรัตน์ ผวจ.สุราษฎร์ธานี นำข้าราชการ ประชาชน นักศึกษา ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 250 รูป จากนั้นได้มีขบวนแห่สงกรานต์ โดยมีขบวนรถพระพุทธนวราชบพิตร หลวงพ่อกล่อม หลวงพ่อนาค และพระประจำวันเกิด ให้ประชาชนได้ร่วมสรงน้ำ และรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ พร้อมเล่นสาดน้ำตามประเพณี ขณะที่ประชาชนได้ออกมาเล่นสาดน้ำตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จ.สตูล มีประชาชนและนักท่อง-เที่ยวต่างชาติ ออกมาเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติบอกว่าหนีความวุ่นวายจากเหตุการณ์ ไม่สงบในกรุงเทพฯ ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เช่นเกาะตะรุเตา อาดังราวี หลีเป๊ะ มีนักท่องเที่ยวแห่ชมธรรมชาติอย่างเนืองแน่น

          ที่สนามศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา นายกฤษฎา บุญราช รอง ผวจ.ยะลา เป็นประธานงานทำบุญตักบาตรและสรงน้ำพระ แต่มีคนมาร่วมงานน้อยกว่าทุกปี เนื่องจากบางส่วนได้เดินทางไปต่างจังหวัดเพราะมีวันหยุดยาว ขณะที่ถนนสายต่างๆ มีคนมาเล่นน้ำน้อยกว่าทุกปี โดย เฉพาะถนนสายรวมมิตร ซึ่งเป็นถนนที่ประชาชนนิยมมาเล่นน้ำ บรรยากาศเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด และส่วนใหญ่จะเป็นเด็กวัยรุ่นในพื้นที่ สำหรับบริเวณหน้าศูนย์ เยาวชนเทศบาลนครยะลา สถานที่จัดงาน “เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์” ได้มีการจัดม่านน้ำตก หรืออุโมงค์น้ำ บนถนนหน้าศูนย์เยาวชนฯตลอดสาย แต่คนไปร่วมงานอย่างบางตา ซึ่งบริเวณที่มีการจัดงานและตามวัดต่างๆ มีตำรวจ ทหาร ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

          ขณะที่ จ.ตรัง ประชาชนส่วนใหญ่ออกไปทำบุญตักบาตรตามวัดใกล้บ้าน เนื่องจากทางจังหวัดตรัง และทางเทศบาลนครตรัง ไม่ได้จัดงานเทศกาลสงกรานต์ มีเพียงนำพระพุทธสิหิงค์จำลองไปประดิษฐานหน้าที่ทำการเทศบาลนครตรังให้ประชาชนสรงน้ำ ขณะที่บรรดาข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน แห่ไปบ้านนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถนนวิเศษกุล เขตเทศบาลนครตรัง เพื่อไปรดน้ำนายชวน เช่นที่เคยทำมาทุกปี แต่นายชวนป่วยไม่ได้ กลับบ้าน ทำให้ทั้งหมดต้องเดินทางกลับด้วยความผิดหวัง ส่วนการเล่นสาดน้ำตามถนนสายต่างๆ มีอย่างบางตา มีเพียงบริเวณหาดปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ที่มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติออกมาเล่นน้ำอย่างเนืองแน่นกว่าทุกปี เพื่อรอขึ้นเรือไปค้างแรมตามเกาะ

          ขณะเดียวกัน มีนักท่องเที่ยวที่ไปดำน้ำดูปะการังบริเวณเกาะกระดาน หมู่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง จมน้ำเสียชีวิต โดยเมื่อเวลา 05.30 น. พ.ต.ท.สุบิน หวานแท้ สารวัตรเวร สภ.เมืองตรัง ไปสอบสวนเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์ตรัง ทราบชื่อ น.ส.ณัฐปภัสร์ เตชะเทียนวิจิตร อายุ 22 ปี บ้านอยู่ อ.เมืองนครปฐม สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ น.ส.ณัฐปภัสร์พร้อมญาติและเพื่อนๆ ขึ้นเรือไปดำน้ำชมปะการังที่เกาะกระดาน โดยสวมเสื้อชูชีพและสน็อกเกิล ระหว่างนั้นมีอาการหายใจไม่ออก เพื่อนๆ และไกด์ช่วยเหลือจนอาการดีขึ้น แต่ น.ส.ณัฐปภัสร์ขอลงไปว่ายน้ำเล่นแล้วเกิดหมดสติ เพื่อนๆช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลก่อนจะจบชีวิตดังกล่าว อีกราย พ.ต.ท.ทวี จันทร์พลับ สว.ส.รน.2 กก.9 อ.กันตัง ไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจมน้ำ หน้าเกาะกระดาน  พบว่านักท่องเที่ยวหญิงนอนหมดสติจึงช่วยปัšมหัวใจจนอาการปลอดภัย

          น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ขณะนี้นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม ได้มอบหมายให้ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เป็นหน่วยปฏิบัติในการดูแลการเล่นน้ำสงกรานต์ ทั่วประเทศ เฝ้าระวังความเบี่ยงเบนทางวัฒนธรรมในประเพณีสงกรานต์ ที่อาจมีการกระทำที่ไม่เหมาะสม ตนจึงได้ ประสานงานไปยังเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมทุกจังหวัด ประกอบด้วย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด 76 จังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัด ในการสังเกตการณ์และประเมินสถานการณ์ รวมทั้งถ่ายภาพบันทึกการกระทำผิดขัดต่อประเพณีและศีลธรรมที่ดีงาม ลงในแผ่นซีดีเพื่อเก็บเป็นหลักฐาน พร้อมประสานงานยังเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และขอเตือนผู้หญิงที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เล่นสาดน้ำ จะต้องระวังตัวเองให้มากที่สุด เนื่องจากช่วงเช้ามีเจ้าหน้าที่แจ้งเข้ามาว่าพบผู้ชายจำนวนมากที่ดื่มสุรา เล่นน้ำสงกรานต์ และพยายามจะกระทำอนาจารล่วงเกินต่อเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก หากผู้ใดพบการกระทำที่ไม่เหมาะสม ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีได้ทันที

          ทางด้านนายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ปัจจุบันน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมากับสมาชิกสมาคมฯ อยู่ในไทย 70,000 คน ในจำนวนนี้อยู่ในกรุงเทพฯ 20,000 คน ส่วนใหญ่แสดงความจำนงขอเลื่อนเที่ยวบินกลับประเทศก่อนกำหนดแล้วเพราะไม่มั่นใจความปลอดภัย ซึ่งสมาชิกก็เร่งดำเนินการให้อยู่ สำหรับกลุ่มทัวร์ที่จะเดินทางมากับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน คงไม่มีเข้ามาแล้ว เพราะนักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามา ส่วนนักท่องเที่ยวตลาดจีนที่เคยเป็นความหวังว่าจะเข้ามามากช่วงต้นเดือนพฤษภาคม เพราะเป็นวันแรงงานที่คนจีนหยุดยาว ก็คงไม่เห็นอนาคตแล้ว และเชื่อว่าตลาดประชุมสัมมนาระดับโลก ก็คงกู้กลับคืนมาลำบาก รวมแล้วการท่องเที่ยวเสียหายไปเป็นแสนล้านบาท ทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นได้ตอนนี้คือต้องเกิดความสมานฉันท์ในประเทศให้เร็วที่สุด จากนั้นคนไทยทุกคนต้องเตรียมพร้อมต้อนรับและพร้อมขอโทษนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับเข้ามา

          ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกรรมการและเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน แถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่เกิดขึ้นในวันที่ 12 เมษายน ว่า เกิดอุบัติเหตุรวม 675 ครั้ง น้อยกว่าปีที่แล้ว 343 ครั้ง ร้อยละ 33.69 ผู้เสียชีวิต 44 ราย น้อยกว่าปีที่แล้ว 32 ราย ร้อยละ 42.11 บาดเจ็บ 726 ราย น้อยกว่าปีที่แล้ว 377 ราย ร้อยละ 34.18 สาเหตุ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 45.48 รองลงมาขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 20.30 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.74 

          นายอนุชากล่าวว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วันเกิดอุบัติเหตุรวม 1,605 ครั้ง น้อยกว่าปีที่แล้ว 633 ครั้ง ร้อยละ 28.28 ผู้เสียชีวิตรวม 139 ราย น้อยกว่าปีที่แล้ว 41 ราย ร้อยละ 22.78 ผู้บาดเจ็บรวม 1,718 ราย น้อยกว่าปีที่แล้ว 796 ราย ร้อยละ 31.66 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงราย 72 ครั้ง รองลงมาได้แก่เชียงใหม่ 61 ครั้ง จังหวัดที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุได้แก่ ยโสธร จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และนครราชสีมา จังหวัดละ 6 ราย รองลงมาได้แก่ นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ พิษณุโลก ระยอง และลพบุรี จังหวัดละ 5 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง 3 วัน จำนวน 19 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดได้แก่ จังหวัดเชียงราย 76 ราย จังหวัดที่ยังไม่มีผู้บาดเจ็บได้แก่ ยโสธร



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สงกรานต์สุดกร่อย! จากเหตุการเมืองวุ่น อัปเดตล่าสุด 14 เมษายน 2552 เวลา 13:33:53 9,405 อ่าน
TOP