เด่นเก้าแสน เข้าให้ปากคำตำรวจ (ไทยรัฐ)
เจ้าตัวเผย ไม่ตกใจแม้แต่น้อย เพราะไม่ได้คิดโกงใคร ขณะที่ "แชแม้" นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ มั่นใจ ที่เด่นเก้าแสนทำไป ไม่ได้หักหลังใคร แต่ทำเพื่อสิทธิของตัวเอง พร้อมขู่ฟ้องกลับ นริส สิงห์วังชา ถ้าหากไม่ยอมยุติเรื่องนี้...
วานนี้ (21 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ นายนริส สิงห์วังชา เป็นโจทย์ยื่นฟ้องพร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีกับ "แวฮามะ" เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม แชมป์โลกรุ่นฟลายเวทสมาคมมวยโลกกับ นางภารดี ชูแก้วรุ่งโรจน์ ภรรยาของ "ใหม่ เมืองคอน" ที่ล่วงลับไปแล้ว ในข้อหาร่วมกัน "ฉ้อโกง"
ล่าสุด "แชแม้" นายนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ผู้ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ พร้อมด้วย "แวฮามะ" เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม แชมป์โลกรุ่นฟลายเวทสมาคมมวยโลก เดินทางไปให้ปากคำกับ พ.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ที่โรงพักพลับพลาไชย 1 โดยที่ นางภารดี ชูแก้วรุ่งโรจน์ ติดภาระกิจไม่สามารถเดินทางมาตามคำนัดได้ และได้ขอเลื่อนการให้ปากคำเป็นวันที่ 23 เม.ย. ทั้งนี้การสอบปากคำดังกล่าวไม่ได้มีการฝากขังหรือประกันตัวแต่อย่างใด เนื่องจากทางจำเลย "แวฮามะ" เดินทางมาตามนัดหมายโดยที่ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี
หลังการให้ปากกับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เด่นเก้าแสน กล่าวว่า ไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือตกใจแม้แต่น้อยกับการที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหาชั่วคราวตามที่ได้ถูกแจ้งความไว้ เพราะไม่เคยคิดฉ้อโกงใคร ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนก็แค่เซ็นต์เป็นพยานเท่านั้นในฐานะที่เป็นคนที่ไม่รู้หนังสือ ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรตนไม่รู้ เพราะเป็นการตกลงกันเองระหว่าง นายนริส สิงห์วังชา กับทาง "พี่หน่อย" นางภารดี ชูแก้วรุ่งโรจน์
ด้าน "แชแม้" นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ผู้ดูแลเรื่องสิทธิ์ประโยชน์ของ เด่นเก้าแสน กล่าวว่า วันนี้ไม่มีอะไร ตนกับเด่นเก้าแสน เดินทางมาตามหมายเรียกเท่านั้น และต้องการมาให้ปากคำตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นใครจะถูกจะผิดนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้คงต้องรอการสอบปากคำให้ครบทุกคน โดยส่วนตัวแล้วรู้จักกับ นายนริส สิงห์วังชา มานานเพราะเป็นเพื่อนกันมานานเป็นสิบปี และเท่าที่ดูจากลายลักษณ์อักษรแล้วมั่นใจว่า เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม ไม่ผิดเพราะเซ็นต์แค่เป็นพยานเท่านั้น และเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร จริงอยู่เป็นคดีความทางอาญาแต่เรื่องที่เกิดขึ้นตนอยากฝากถามไปยังนายนริสว่าแจ้งความเพราะอะไร เกิดจากเรื่องส่วนตัวหรือเปล่า เพราะถ้าวันนั้นมีการเจรจากันลงตัวเรื่องดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น
แชแม้ กล่าวอีกว่า ตนไม่อยากให้จองเวรจองกรรมกับเด็ก เพราะที่ เด่นเก้าแสน ทำไปไม่ใช่เป็นการหักหลังแต่ทำเพื่อสิทธิของตัวเอง ลองคิดดูเราเป็นโปรโมเตอร์ที่ลงทุนจัดเด็กชกแต่กว่าจะได้ชัยชนะมาเขาต้องเสียเลือดเสียเนื้อและใช้แรงกายแรงใจมากมายขนาดไหน อยากให้ทาง นายนริส ลองเปรียบเทียบตัวเองกับเด็กว่าแตกต่างกันอย่างไร และอยากให้นึกถึงอนาคตของเด็ก ความจริงเป็นผู้ใหญ่แล้วน่าทำตัวให้เป็นที่รักและเคารพสำหรับเด็ก อยากให้หยุดอย่ารังแกเด็กอีกเลย แล้วหันมาหาทางออกดีกว่า
นายนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตนไม้ได้กลัวเพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่สงสารเด็ก ซึ่งเรื่องทุกอย่างก็ได้ผ่านการตัดสินจากทางนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามาแล้ว รวมถึงพระราชบัญญัติกีฬามวยอาชีพมาแล้วก็น่าจะยุติได้แล้ว อย่าให้ต้องหมดความอดทนแล้วฟ้องกลับบ้างเลย เพราะยังไงก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันอยู่
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เจ้าตัวเผย ไม่ตกใจแม้แต่น้อย เพราะไม่ได้คิดโกงใคร ขณะที่ "แชแม้" นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ มั่นใจ ที่เด่นเก้าแสนทำไป ไม่ได้หักหลังใคร แต่ทำเพื่อสิทธิของตัวเอง พร้อมขู่ฟ้องกลับ นริส สิงห์วังชา ถ้าหากไม่ยอมยุติเรื่องนี้...
วานนี้ (21 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ นายนริส สิงห์วังชา เป็นโจทย์ยื่นฟ้องพร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีกับ "แวฮามะ" เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม แชมป์โลกรุ่นฟลายเวทสมาคมมวยโลกกับ นางภารดี ชูแก้วรุ่งโรจน์ ภรรยาของ "ใหม่ เมืองคอน" ที่ล่วงลับไปแล้ว ในข้อหาร่วมกัน "ฉ้อโกง"
ล่าสุด "แชแม้" นายนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ผู้ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ พร้อมด้วย "แวฮามะ" เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม แชมป์โลกรุ่นฟลายเวทสมาคมมวยโลก เดินทางไปให้ปากคำกับ พ.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ที่โรงพักพลับพลาไชย 1 โดยที่ นางภารดี ชูแก้วรุ่งโรจน์ ติดภาระกิจไม่สามารถเดินทางมาตามคำนัดได้ และได้ขอเลื่อนการให้ปากคำเป็นวันที่ 23 เม.ย. ทั้งนี้การสอบปากคำดังกล่าวไม่ได้มีการฝากขังหรือประกันตัวแต่อย่างใด เนื่องจากทางจำเลย "แวฮามะ" เดินทางมาตามนัดหมายโดยที่ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี
หลังการให้ปากกับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เด่นเก้าแสน กล่าวว่า ไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือตกใจแม้แต่น้อยกับการที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหาชั่วคราวตามที่ได้ถูกแจ้งความไว้ เพราะไม่เคยคิดฉ้อโกงใคร ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนก็แค่เซ็นต์เป็นพยานเท่านั้นในฐานะที่เป็นคนที่ไม่รู้หนังสือ ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรตนไม่รู้ เพราะเป็นการตกลงกันเองระหว่าง นายนริส สิงห์วังชา กับทาง "พี่หน่อย" นางภารดี ชูแก้วรุ่งโรจน์
ด้าน "แชแม้" นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ผู้ดูแลเรื่องสิทธิ์ประโยชน์ของ เด่นเก้าแสน กล่าวว่า วันนี้ไม่มีอะไร ตนกับเด่นเก้าแสน เดินทางมาตามหมายเรียกเท่านั้น และต้องการมาให้ปากคำตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นใครจะถูกจะผิดนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้คงต้องรอการสอบปากคำให้ครบทุกคน โดยส่วนตัวแล้วรู้จักกับ นายนริส สิงห์วังชา มานานเพราะเป็นเพื่อนกันมานานเป็นสิบปี และเท่าที่ดูจากลายลักษณ์อักษรแล้วมั่นใจว่า เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม ไม่ผิดเพราะเซ็นต์แค่เป็นพยานเท่านั้น และเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร จริงอยู่เป็นคดีความทางอาญาแต่เรื่องที่เกิดขึ้นตนอยากฝากถามไปยังนายนริสว่าแจ้งความเพราะอะไร เกิดจากเรื่องส่วนตัวหรือเปล่า เพราะถ้าวันนั้นมีการเจรจากันลงตัวเรื่องดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น
แชแม้ กล่าวอีกว่า ตนไม่อยากให้จองเวรจองกรรมกับเด็ก เพราะที่ เด่นเก้าแสน ทำไปไม่ใช่เป็นการหักหลังแต่ทำเพื่อสิทธิของตัวเอง ลองคิดดูเราเป็นโปรโมเตอร์ที่ลงทุนจัดเด็กชกแต่กว่าจะได้ชัยชนะมาเขาต้องเสียเลือดเสียเนื้อและใช้แรงกายแรงใจมากมายขนาดไหน อยากให้ทาง นายนริส ลองเปรียบเทียบตัวเองกับเด็กว่าแตกต่างกันอย่างไร และอยากให้นึกถึงอนาคตของเด็ก ความจริงเป็นผู้ใหญ่แล้วน่าทำตัวให้เป็นที่รักและเคารพสำหรับเด็ก อยากให้หยุดอย่ารังแกเด็กอีกเลย แล้วหันมาหาทางออกดีกว่า
นายนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตนไม้ได้กลัวเพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่สงสารเด็ก ซึ่งเรื่องทุกอย่างก็ได้ผ่านการตัดสินจากทางนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามาแล้ว รวมถึงพระราชบัญญัติกีฬามวยอาชีพมาแล้วก็น่าจะยุติได้แล้ว อย่าให้ต้องหมดความอดทนแล้วฟ้องกลับบ้างเลย เพราะยังไงก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันอยู่
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
