มท.1รับ เด้งผู้ว่าฯ ชลบุรี เซ่นม็อบเสื้อแดง (ไอเอ็นเอ็น)
รมว.มหาดไทย ยอมรับเด้งผู้ว่าฯชลบุรี เซ่นเสื้อแดง พร้อมปัดผู้ว่าฯแพร่ ถูกเด้ง เพราะขัดแย้งแม่เลี้ยงติ๊ก
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ยอมรับ คณะรัฐมนตรี มีมติโยกย้าย นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการ จ.ชลบุรี ไปเป็น ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา นั้น เป็นผลมาจากเหตุการณ์เสื้อแดงบุกทุบรถนายกรัฐมนตรี และบุกโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา สถานที่จัดประชุมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา โดยทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ ถือว่าเป็นความบกพร่อง แต่ไม่ถึงขั้นร้ายแรง เพราะไม่ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวน และที่ผ่านมา นายสุรพล ก็ถือเป็นผู้ว่านักพัฒนาคนหนึ่ง ที่พัฒนา จ.ชลบุรี ให้มีความเจริญเป็นเมืองท่องเที่ยว ดังนั้น จึงย้ายให้ไปพัฒนา จ.ฉะเชิงเทรา ให้เจริญเหมือน จ.ชลบุรี
ส่วนการโยกย้าย ว่าที่ ร.ต.พงษ์ศักดิ์ พลายเวช พ้นจาก ผู้ว่าราชการ จ.แพร่ เป็นนักปกครอง กระทรวงมหาดไทย 7 นั้น รมว.มหาดไทย ยืนยันว่า ก็เพื่อความเหมาะสม ไม่เกี่ยวกับที่มีกระแสข่าวขัดแย้งกับ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือ แม่เลี้ยงติ๊ก ซึ่งตนไม่ทราบว่าทั้งสองคนนี้ ขัดแย้งกันจริงหรือไม่ พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า การโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยไม่มีในฤดูกาล หรือ นอกฤดูกาล
ขณะที่ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือ แม่เลี้ยงติ๊ก ยืนยัน ไม่ได้มีความขัดแย้งกับ ว่าที่ ร.ต.พงษ์ศักดิ์ พลายเวช ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ จนเป็นเหตุให้ถูกโยกย้ายไปเป็นนักปกครอง กระทรวงมหาดไทย 7 ซึ่งที่ผ่านมาตนและ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยผู้ว่าถือเป็นคนดีมากคนหนึ่ง มีความเป็นกลาง และชอบความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ตนตั้งข้อสังเกตว่า การถูกโยกย้ายครั้งนี้ น่าจะมีปัญหาในระบบราชการ เพราะปกติผู้ว่าจะเป็นคนทำงานรูทีน และน่าจะเกี่ยวกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง เนื่องจากพบว่า มีการขนคนจาก จ.แพร่ มาชุมนุมที่กรุงเทพฯด้วย ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้ว่าแล้ว เจ้าตัวก็รู้สึกงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลัง คณะรัฐมนตรีมีมติแล้ว ก็ไม่สามารถติดต่อ ผู้ว่าเพื่อสอบถามสาเหตุของการถูกโยกย้ายในครั้งนี้ได้
ด้าน นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ภายหลังคณะรัฐมนตรี มีมติให้ย้ายไปเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า โดยส่วนตัวแล้ว ตนเองเป็นข้าราชการ ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาใดๆ และไม่ได้รู้สึกเสียกำลังใจอะไรกับการถูกโยกย้ายในครั้งนี้ เพราะมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ทำให้อาจต้องกลับไปมองดูบ้างว่า มีอะไรที่ควรปรับแก้บ้าง แต่ในฐานะ ปุถุชนธรรมดา ก็มีบ้างที่คิดว่าเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหนือการควบคุมจริงๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
