มาร์คไฟเขียวทหาร คุมพื้นที่ภูเก็ต สกัดม็อบเสื้อแดงป่วน (ไทยรัฐ)
นายกรัฐมนตรีย้ำจำเป็นประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง พื้นที่จังหวัดภูเก็ตในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน เชื่อคนท้องถิ่นพร้อมให้ความร่วมมือ ไม่หวั่นภาพทหารเพ่นพ่านที่ประชุม ห่วงอินเดียส่อเบี้ยวไม่ส่งผู้นำร่วมถก จี้บัวแก้วโหมข้อมูลสร้างความมั่นใจ
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา(7 พฤษภาคม)ที่หอประชุมกองทัพเรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กองทัพเสนอให้รัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตระหว่างการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนกับคู่เจรจาในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อความสงบเรียบร้อยว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการที่จะให้สามารถใช้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้เรามีมาตรการในเชิงป้องกันได้มากยิ่งขึ้น คิดว่าหากจะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีความคล่องตัวมากขึ้นแต่ขอดูเงื่อนไขอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าจะทำ เราจะทำความเข้าใจให้ได้ว่าการประกาศตรงนี้หมายความว่าอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศใช้กฎหมายฉบับดังกล่าวเงื่อนไขคือการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันจะอยู่ในกฎหมาย ก็ดีกว่าเราจะรอให้ปัญหามันเกิดขึ้นมาแล้วค่อยมาประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อถามว่า จะทำให้สิทธิของประชาชนถูกจำกัดลงไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะดูก่อนว่าเวลาประกาศแล้วมีอำนาจเรื่องไหนที่จะใช้หรือไม่ใช้อย่างไร การประกาศใช้จะคำนึงถึงผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ เพราะสิ่งที่เรามุ่งหวังเป็นช่วงที่จำกัด ความไม่สะดวกในการจัดการประชุมในลักษณะนี้ทั่วโลกก็มีอยู่บ้าง แต่คิดว่าประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่ว่าต้องเป็นเจ้าภาพเขาก็ พร้อมในระดับหนึ่งที่จะให้ความร่วมมือ คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรเหมือนอย่างที่ผ่านมาเวลาไปประชุมที่ไหนเรื่องการเข้มงวด การจอดรถ ส่วนการใช้เจ้าหน้าที่นั้น ก็หมายความว่านอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีเจ้าหน้าที่จากส่วนอื่นๆ เข้าไปเสริมได้
เมื่อถามว่า แสดงว่าจะใช้กำลังทหารเป็นหลักในการดูแลใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังทหารสามารถที่จะเข้ามาในกรอบนี้ได้ แต่จะดูอีกครั้งหนึ่ง เพราะจะเป็นข้อกำหนดที่จะดูเป็นกรณีๆ ไป จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเขาไม่ห่วงว่าจะดูแข็งไปหรือไม่ เขาห่วงถึงปัญหาครั้งที่เกิดขึ้นที่พัทยามากกว่าว่าไม่สามารถที่จะจัดการกับผู้ชุมนุมได้
ต่อข้อถามว่า ครั้งนี้มั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก นายกรัฐลมนตรี กล่าวว่า ใช่ คิดว่าการจัดระบบใหม่ และมีอะไรที่เป็นรูปธรรม มีกฎหมายรองรับ น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ง่าย และครั้งนี้เราดูแลอย่างเต็มที่ ฝ่ายความมั่นคงทำงานอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวถามถึงขณะนี้ผู้นำแต่ละประเทศได้ตอบตกลงเดินทางมาร่วมประชุมหมดแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประสานงานกับหลายประเทศได้รับการตอบรับในทางบวก ส่วนความมั่นใจในระบบการรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ต่างประเทศเขาอาจจะขอดูสถานการณ์ระยะหนึ่งซึ่งเป็นปกติธรรมดา แต่โดยทั่วไปทุกๆ ประเทศอยากให้มีการจัดการประชุมโดยเร็ว เพราะมีเรื่องที่ยังค้างอยู่ที่อยากจะดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อย ส่วนประเทศคู่เจรจาจะเดินทางมาร่วมด้วยทั้งหมดหรือไม่นั้น ขณะนี้เป็นห่วงคือประเทศอินเดีย เนื่องจากยังมีเรื่องของกระบวนการการเลือกตั้งกับการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งอินเดียอาจจะยังเป็นช่วงที่เป็นรอยต่อ แต่ประเทศอื่นๆขณะนี้สัญญาณเป็นไปในทางบวก
เมื่อถามว่า จะทำให้เห็นถึงความแตกต่างในการรักษาความมั่นใจในการจัดการประชุมครั้งที่พัทยากับครั้งนี้อย่างไรเพื่อให้เกิดความมั่นใจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ก็มีการปรับปรุงไปมาก การที่ตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา รวมทั้งการมอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง รับผิดชอบดูแลมาตรการการรักษาความปลอดภัย ในส่วนของตำรวจและกองทัพเองก็มีการปรับปรุงไปหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศจะนำไปใช้ในการบอกเล่ากับประเทศต่างๆ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
