x close

อนาถหญิงวัย 57 ปี ป่วยโรคร้าย 2 ปี ผอมโซหนังติดกระดูก

โรคหนังแข็ง



อนาถหญิงวัย 57 ปี ป่วยโรคร้าย 2 ปี ผอมโซหนังติดกระดูก ลอกหลุดเป็นขุยหวังบารมี "ในหลวง" ดลหายป่วย (มติชนออนไลน์)

          สุดรันทน หญิงวัยเหยียบ 60 ปี ต้องทนทุกข์โรคร้ายร่างกายผ่ายผอม ผิวหนังทุกส่วนหลุดลอกเป็นเกล็ดขุย แข็งกระด้าง บาดแผลพุพองตามข้อกระดูกซอกมือ ซอกเท้า แขนขาหยิกงอ นอนกอดรูปในหลวงแน่น หวังพึ่งพระบารมีดลบันดาลให้หายป่วย

          เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบ นางวารินทร์  ม่วงทิม อายุ 57 ปี   ป่วยเป็นโรคร้ายชนิดเรื้อรัง นอนพักอยู่ที่บ้านไม้ชั้นเดี่ยวยกพื้นสูง ถ. ย่านศิลาอาสน์ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ชุมชนศิลาอาสน์ตะวันออก บนเตียงผ้าใบสีน้ำเงิน ในสภาพที่ผอมโซ  และที่บริเวณบนลำตัวด้านขวามีภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววางอยู่ โดยที่มือข้างซ้ายคอยจับภาพไว้แน่น เนื้อตัวตามร่างกายทั้งแขน ขา ลำตัว มีแต่ลายจุดด่างเป็นสีคล้ำออกดำ ที่บริเวณผิวหนังทุกส่วนของร่างกายมีการหลุดลอกออกเป็นเกล็ดและขุยเหมือนงูที่ลอกคราบทิ้งไว้แล้ว โดยเฉพาะบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง และบริเวณนิ้วเท้าข้างขวานอกจากมีสีคล้ำแล้ว ยังมีบาดแผลขึ้นตามนิ้วทั้ง 4 นิ้ว ทั้งนี้ ยังพบอีกว่าที่บริเวณนิ้วมือทั้ง 2 ข้าง มีสีคล้ำมากและอยู่ในสภาพหงิกงอ ไม่สามารถยืดตรงให้เหมือนคนธรรมดาได้ แถมยังมีแผลขึ้นตามข้อกระดูกนิ้วมือทั้งซ้ายและขวารวมไปถึงซอกเล็บของนิ้วมือเกือบทุกนิ้วด้วย แม้แต่กระดูกข้อศอกแขนก็ยังพบว่า เป็นแผลและมีหนองอยู่ทั้ง 2 ข้างเช่นกัน เมื่อได้มีการสัมผัสแตะต้องผิวหนังตามเนื้อตัวของร่างกายทุกส่วน จะมีสภาพแข็งกระด้างและเป็นมัน

          นางวารินทร์    กล่าวว่า  เดิมมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีบุตรชายรวมอยู่ด้วยกันจำนวน 3 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน แยกทางกับสามีตั้งแต่ลูกยังเด็ก ปัจจุบันอยู่กับลูกชายคนกลางมีอาชีพรับจ้าง ทำงานอยู่โรงเลื่อยในจังหวัดอุตรดิตถ์ ช่วงเกิดเหตุน้ำท่วมดินโคลนถล่มอุตรดิตถ์ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2549 ที่บ้านก็ถูกน้ำท่วมด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นที่ลาดต่ำน้ำท่วมขังอยู่นานหลายวัน ก็ได้ออกไปเล่นน้ำและหาจับปลากับเพื่อนบ้านที่บริเวณหน้าบ้านของตนเอง หลังจากนั้นประมาณ 1-2 เดือน รู้สึกเกิดอาการคันในร่มผ้า เมื่อเกาก็เกิดผื่นสีแดง ได้แวะไปหาหมอที่คลินิคในตลาดเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ หมอจ่ายยาหลอดชนิดครีมทามาให้ทาอยู่หลายวันก็ไม่หาย จากนั้นไปอีกครั้งหมอแนะนำให้ฉีดยา จำนวน 2 เข็ม ต่อมาเกิดอาการหงอกขาวขึ้นตามผิวหนังเป็นจุด เมื่อเกาก็ทำให้ผิวหนังตกสะเก็ดเป็นสีดำและขาวเหมือนรอยด่าง ไม่นานก็เกิดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายทั่วไปหมดตัว และเริ่มมีอาการขัดยอก ปวดตามกระดูกและข้อทำให้ต้องหายากินแก้ปวดอยู่ตลอดเวลา ภายใน 1 ปี อาการเกิดลุกลามไปทั่วตัว หาหมออีกครั้งบอกว่าเป็นโรคหนังแข็ง มีเพียง 1 ในล้านที่เป็นโรคนี้

          "ทุกวันนี้ทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนเหมือนคนธรรมดาหรือช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะต้องนอนอยู่แต่บนเตียงนอนตลอดทั้งวัน จะลุกจากที่นอนเพื่อไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำการอาบน้ำหรือขับถ่ายก็ไม่สามารถทำได้ ผิวหนังทั้งตัวตึงและแข็งมาก ที่บริเวณนิ้วเท้า แขน ขา ลำตัว โดยเฉพาะที่บริเวณนิ้วมือจะหงิกงอ และมีอาการเจ็บปวดที่บริเวณข้อกระดูก นิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อศอก  การพูดการเจรจาก็ไม่ชัดเพราะลิ้นเริ่มแข็ง สภาพร่างกายน่ารังเกียจไม่เหมือนคนธรรมดา เหมือนคนตายทั้งเป็น เพียงแต่นอนรอความตายให้มาถึง บ่อยครั้งขอบารมีจากในหลวงช่วยดลบันดาลให้หายป่วยจากโรคร้ายชนิดนี้ในเร็ววัน  รู้สึกสงสารลูกชายที่ต้องคอยหาน้ำหาข้าวจัดเตรียมไว้ให้ก่อนไปทำงานทุกเช้าและเย็น รู้สึกท้อต่อชีวิตตนเอง ทำเวรกรรมอะไรไว้ ร่างกายถึงได้มาเป็นแบบนี้" นางวารินทร์ กล่าว



          ด้าน นายจักรกริช  ม่วงทิม  อายุ 38 ปี บุตรชาย  กล่าวว่า รับจ้างทำงานอยู่โรงเลื่อยได้เงินเพียงไม่กี่พันบาท ต้องคอยดูแลแม่ตามลำพัง รู้สึกสงสารแม่มากเพราะต้องมาทุกข์ทรมาน โดยตนพาแม่ไปหาหมอและนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ครั้งสุดท้ายวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากแม่มีอาการใจสั่น จึงนอนให้หมอตรวจอาการเช็คร่างกายและผิวหนัง สภาพร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงผอมบาง หมอพยายามให้น้ำเกลือและยาบำรุง แต่ก็ไม่สามารถให้น้ำเกลือหรือฉีดยาเข้าเส้นเลือดได้  เพราะที่บริเวณผิวหนังมีความแข็งมาก เข็มแทงเข้าไปก็จะรู้สึกเจ็บ ให้ได้เพียงแต่ยาทาแก้โรคผิวหนังและยาแก้ปวด อยู่ที่โรงพยาบาลก็ไม่สามารถทำอะไรหรือช่วยอะไรได้มาก อาการทรงตัว โรคนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาถึงจะหาย หมอแนะนำให้กลับมานอนรักษาตัวอยู่ที่บ้าน  ทั้งนี้ ตนเป็นห่วงแม่ทำให้ไม่อยากคิดมีครอบครัว เพราะกลัวจะต้องเป็นภาระเพิ่ม อีกทั้งหวั่นว่าภรรยาจะรังเกียจแม่ จึงต้องอยู่อย่างคนเป็นโสดถึงทุกวันนี้  อยากหาหมอที่มีความสามารถและเก่งมาช่วยรักษาโรคร้ายให้กับแม่แต่ก็ไม่มีเงินมากพอ

          "ขอวิงวอนผู้ใจบุญยืนมือเข้ามาให้การช่วยเหลือแม่ เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมาน และความเจ็บปวดที่เป็นอยู่นี้ให้แม่ได้หายจากโรคร้าย พร้อมจะเอาชีวิตเป็นทาสรับใช้เพื่อทดแทนคุณไปตลอด เบื้องต้นอยากได้ผ้าอ้อมผลัดเปลี่ยนให้กับแม่เพราะต้องใช้ทุกวัน" นายจักรกริช  กล่าว

          ด้านนางไสว  คืนประคองอาสน์ เพื่อนบ้าน กล่าวว่า อยากให้แพทย์ตามโรงพยาบาลใหญ่ในกรุงเทพที่เก่งในการรักษาโรคร้ายชนิดนี้เข้ามาช่วยรักษาพยาบาลให้ และหากมีผู้ใจบุญช่วยสงเคราะห์ด้านการเงินในการรักษาหรือดูแลสุขภาพก็ยังดี ลำพังลูกชายคนป่วยเงินเดือนก็ไม่พอจะใช้ภายในบ้านอยู่แล้ว เรื่องเงินที่จะหาไปรักษาให้กับแม่ก็คงลำบาก สำหรับตนเองที่ช่วยได้ก็เพียงแค่นำกับข้าวและอาหารมาให้ช่วงตอนเย็น เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวนี้

          ด้านนายขจร  วินัยพานิช  รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า โรคหนังแข็งเป็นโรคที่พบไม่บ่อย แต่มีอาการเรื้อรัง มีความผิดปกติของเนื้อเยื้อ ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ลักษณะสำคัญของโรค  มีการสะสมของผังผืดเส้นใยคอลลาเจนมากผิดปกติที่บริเวณหนังแท้และผนังหลอดเลือด ทำให้อวัยวะภายในร่างกายเกิดการแข็งและหนาตัว

          นายขจร  กล่าวว่า อาการทางผิวหนัง ผิวหนังจะสีดำ กำมือไม่ได้ มือจะขาวหรือซีดซึ่งเกิดจากเส้นเลือดหดตัว ต่อมาจะมีสีม่วงหรือคล้ำเนื่องจากผิวหนังขาดออกซิเจน มีแผลจุดเล็กที่ปลายนิ้ว ผิวหนังที่เริ่มเป็นมักจะเกิดบริเวณมือ ต่อมาจะลามมาที่แขน หน้าและลำตัว ตามด้วยอวัยวะภายในร่างกาย ผู้ป่วยทำหน้าผากย่นไม่ได้ ยิ้มยาก ตามตัวพบด่างขาวเป็นจุด ถ้าเป็นมากจะกลืนลำบาก พบว่าผู้ป่วยร้อยละ80 มีอาการทางหลอดอาหาร และมีอาการกลืนอาหารลำบาก จะรู้สึกเจ็บเวลากลืน เนื่องจากการเคลื่อนไหวของหลอดอาหารน้อย มีกรดไหลย้อนหรือหลอดอาหารอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่าย มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ และมีการอักเสบของข้อ  ผู้ที่เป็นโรคนี้อย่างรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อ  ไต หัวใจและปอด มีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3-5 ปี ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
- มติชนออนไลน์
- หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อนาถหญิงวัย 57 ปี ป่วยโรคร้าย 2 ปี ผอมโซหนังติดกระดูก อัปเดตล่าสุด 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 13:42:53 60,724 อ่าน
TOP