สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก กรุงเทพธุรกิจ
เมื่อวานนี้ (20 พฤษภาคม) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทยและอดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ตรวจสอบร้านอาหารในพื้นที่ กทม. ที่ลักลอบเปิดเป็นสถานบริการทำผิดกฎหมายเปิดเกินเวลา พร้อมนำหลักฐานภาพถ่าย แผ่นซีดีบันทึกภาพร้านอาหารที่เปิดเกินเวลาในท้องที่ สน.คลองตัน และ สน.ทองหล่อ มาให้ตำรวจนครบาลตรวจสอบ โดยมี พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รอง ผกก.ฝอ.6 บก.อก.บช.น.รับผิดชอบงานด้านการประชาสัมพันธ์ เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนพร้อมยืนยันจะนำเรื่องเสนอ ผบช.น. เร่งรัดสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
นายชูวิทย์ กล่าวว่า การออกมาเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้เป็นการทำเพื่อสังคมโดยรวม ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ตัวเองหรือปกป้องบุตรชายแต่เมื่อขโมยขึ้นบ้านก็ต้องออกมาโวยวายเพื่อประโยชน์ของเพื่อนบ้านคนอื่นๆ เพราะมีข้อมูลชัดเจนว่า ร้านอาหารใน กทม. มากกว่า 200 แห่ง ทำผิดกฎหมายทั้งนั้น ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันออกยันตะวันตกลักลอบเปิดเป็นสถานบริการเกือบทุกท้องที่ปิดหลังตี 2 เกือบทุกแห่งทั้งที่ปิดได้ไม่เกินเที่ยงคืนโดยเฉพาะในพื้นที่ สน.คลองตัน และ สน.ทองหล่อ ทั้งนี้ อยากรู้ว่าร้านอาหารเหล่านี้ทำไมขายอาหารอร่อยมากหรืออย่างไรจึงมีคนแน่นทุกคืนโดยเฉพาะช่วงตี 1 ตี 2
"ผมมา บช.น.วันนี้เหมือนมาเยือนถิ่นเก่า สามารถหลับตาเดินได้หมดรู้หมดว่าหน่วยงานไหนอยู่ห้องไหน และไม่ใช่จะยื่นหนังสือเฉพาะตำรวจนครบาลอย่างเดียว ผมจะไปยื่นต่อกรรมาธิการรัฐสภา กรมสรรพสามิต ให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการเก็บภาษีประเภทการเปิดร้านอาหาร สถานบริการ ภาษีสุรา ว่ามีการเรียกเก็บถูกต้องหรือไม่ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยเหมือนกรณีซานติก้าผับ ที่ระยะเวลาผ่านไปกว่า 5 ปี จนมีคนตาย 68 ราย ถึงจะมีการตรวจสอบและเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ทุกอย่างต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ผมเห็นด้วยที่ตำรวจจะทำตามกฎหมายทุกอย่างให้ถูกต้อง ไม่ใช่ทำแบบปิดหูปิดตา บางครั้งปิดตาข้างหนึ่ง หรือปิดสองข้าง หรือเปิดๆ ปิดๆ ลืมตาข้างหลับตาข้าง หรือหลับสองข้าง หากจะเป็นตำรวจอาชีพต้องทำให้ถูกต้องไม่ใช่ทำแบบตำรวจธุรกิจ " นายชูวิทย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์กล่าวอีกว่า หากข้อมูลที่นำมามอบให้ตำรวจวันนี้ยังไม่เพียงพอ ก็คงต้องนัดหมายผู้สื่อข่าวตรวจสอบในสถานที่จริงให้เห็นกับตา โดยที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้เห็นภาพจริงว่ามีการเปิดเกินเวลา โดยจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้เที่ยงคืน พอนาฬิกาดังเมื่อไรก็ไปตรวจกันเลย ดูกันให้เห็นจะๆ และขอประกาศผ่านสื่อมวลชน ณ ตรงนี้ว่า ให้ตำรวจนครบาลทุก สน.ระวังตัวให้ดี เพราะชูวิทย์ออกมาแล้วสนุกแน่ จะดูว่าจะอยู่กันได้หรือไม่ ทุกอย่างพูดจริงทำจริง ชูวิทย์ออกมาแล้วสังคมได้ประโยชน์แน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก