x close

ผู้ประกาศข่าวหนุ่มไฟแรง ภาษิต กับช่องใหม่วิก 3

ภาษิต อภิญญาวาท ภัทร จึงกานต์กุล



ผู้ประกาศข่าวหนุ่มไฟแรง "ภาษิต" กับช่องใหม่วิก 3 (คมชัดลึก)

          กลายเป็นข่าวที่ถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้ ว่าเหตุใดผู้ประกาศข่าวหนุ่ม "ไก่" ภาษิต อภิญญาวาท ที่เติบโตจากวิก 7 สี ถึงข้ามช่องมาอยู่กับช่อง 3 อีกทั้งมีข่าวลือออกมา ว่าสาเหตุหลักนั้น มาจากมีปัญหากับผู้ประกาศคนดัง ภัทร จึงกานต์กุล วันนี้ "คม ชัด ลึก" เลยขอเปิดใจผู้ประกาศข่าวไฟแรงทุกเรื่องราว ว่าแล้วมาหาคำตอบกันเลย...

 ข้ามวิกมาได้อย่างไร

          ภาษิต : พอดีได้มีโอกาสพบปะกับ คุณวิบูลย์ ลีรัตนขจร ตามงาน ได้คุยกันมาตลอด จนมาสู่การทาบทาม เป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ใช้เวลาในการตัดสินใจนานมาก

 ปรึกษาใครบ้าง

          ภาษิต : ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่  ก็มีปรึกษาเพื่อนๆ บ้าง แล้วก็ผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน คือการตัดสินใจมันยากมาก อย่างที่เคยบอกไปหลายๆ ครั้งว่า กับช่อง 7 ผมมีความสุขดี แล้วก็มีช่วงเวลาออกอากาศที่ดีในช่อง 7 อยู่แล้ว ไม่ได้ทะเลาะกับใคร (หัวเราะ) ไม่ได้ตีกับพี่ภัทร (ภัทร จึงกานต์กุล) กับพี่ภัทรก็เป็นพี่ที่สนิทสนมกันดีมาก มีความสุขดี ก็เลยทำให้ตัดสินใจยาก  ใช้เวลานานมาก เครียด แล้วก็กดดันทุกอย่าง แต่ว่าสุดท้าย  หลักๆ ที่ผมตัดสินใจ แน่นอนคือพื้นที่หน้าจอ โอกาสที่ได้รับจากช่อง 3 ไม่ว่าจะเป็น "เรื่องเด่นเย็นนี้"  หรือว่า "เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์" ผมมองว่าเป็นพื้นที่ที่ท้าทาย แล้วก็น่าสนใจ ประกอบกับว่ามีพี่ๆ เพื่อนร่วมงาน อย่างคุณธีระ คุณวราภรณ์  คุณสรยุทธ ผมว่ามันเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้เรียนรู้ ได้นำประสบการณ์จากพี่ๆ ที่น่าจะถ่ายทอดให้แก่เรา ก็เลยนำมาสู่การตัดสินใจ

ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท



 แต่การข้ามช่องครั้งนี้ มาพร้อมกับข่าวลือว่าทะเลาะกับ ภัทร จึงกานต์กุล แล้วก็มีปัญหากับโปรดิวเซอร์

          ภาษิต : ไม่มีปัญหากับใครเลย ไม่รู้ว่าเขามีปัญหากับผมหรือเปล่านะ โปรดิวเซอร์ไม่มีแน่นอน สนิทกันดี พี่ภัทรไม่มีแน่นอน พี่ภัทรเป็นรุ่นพี่ที่สนิทเลย เพราะในช่อง 7 มีผู้ชายไม่กี่คน คนอาจจะมองว่าพี่ภัทรมาทีหลัง กลุ่มของช่อง 7 ส่วนใหญ่จะเป็นลูกหม้อช่อง 7 แต่พี่ภัทรก็จะมาจาก ทีวีไทย แล้วก็มาอยู่ช่อง 7 คนอาจจะมองว่าเป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่พอเข้ามาด้วยกัน ช่อง 7 จะทำงานเป็นทีมมาก มันไม่มีเวลามาตีกันหรอก ทุกวันนี้ก็คุยกันว่าทำไมมีข่าวแบบนี้ พี่ภัทรก็บอกว่ามันตลกมาก

 อยู่กับช่อง 7 มากี่ปี

          ภาษิต : 3 ปีครึ่ง คนอาจจะมองว่าทำไมเราต้องย้าย เราเกิดมาจากช่องนี้ เราอกตัญญูหรือเปล่า  ผมอยากจะบอกว่าถ้ามองสายงานอื่นที่ไม่ใช่ทีวี  การปรับเปลี่ยนงาน มันก็คืออยากจะพัฒนาตัวเอง หรือก้าวไปสู่อีกจุดหนึ่ง แต่ในงานทีวี ช่องที่ให้กำเนิด เป็นช่องที่มีพระคุณ แล้วเราต้องตอบแทนบุญคุณ ผมใช้เวลาในการตัดสินใจนานมาก  ผมเกิดจากช่อง 7 ได้สะสมประสบการณ์จากช่อง 7 คนก็รู้ว่าผมมาจากช่อง 7 ถ้าผมย้ายไป ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม แล้วผมประสบความสำเร็จ ผมพูดได้เต็มปากว่าผมมีพื้นฐานที่ดี ผมได้รับการเคี่ยวมาอย่างดีจากช่อง 7

 การมายืนตรงนี้ยากไหม เพราะช่อง 3 มีผู้ประกาศข่าวค่อนข้างเยอะ

          ภาษิต : ช่อง 3 มีผู้ประกาศเยอะมาก แล้วแต่ละท่านก็มาจากหลากหลายสถาบัน ผมมาอยู่ที่นี่ได้ 1 เดือน ผมรู้สึกสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น รวมถึงบริษัทเซิร์ชฯ ที่น่ารัก ดูแลเราอย่างดี ถึงแม้ว่าจะมีผู้ประกาศข่าวเยอะ แต่ก็มีปริมาณรายการที่เยอะเช่นกัน ซึ่งทุกคนก็มีหน้าที่รับผิดชอบรายการตัวเองอย่างชัดเจน มันทำให้ผมรู้สึก ว่าจริงๆ ผู้ประกาศไม่ได้เยอะเลย เพราะว่ารายการข่าวช่อง 3 เยอะมาก แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะนำไปสู่การตีกัน เพราะว่าแต่ละคนมีหน้าที่บริหารรายการที่ตัวเองได้รับมอบหมาย ทำให้ดีที่สุด

 กดดันไหม

          ภาษิต : กดดัน ในแง่ที่ว่าคนจะเข้าใจเรามั้ย เพื่อนๆ ร่วมงานจะเข้าใจหรือเปล่า ที่เก่าเขาจะคิดกับเรายังไง  แต่ว่าเราต้องข้ามตรงนั้นไปให้ได้ในความคิดของผม

 ต้องปรับตัวเยอะไหม

          ภาษิต : ส่วนใหญ่พี่ๆ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ รู้จักกันอยู่แล้ว งานข่าวจะเจอกันเป็นปกติอยู่แล้ว อาจจะมีการปรับตัวบ้าง เพราะแต่ละที่ทำงานไม่เหมือนกัน

 เกร็งไหมร่วมงานกับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ในเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

          ภาษิต : ตอนแรกที่ยังไม่สัมผัสพี่ยุทธ จะรู้สึกว่าเฮ้ย...น่ากลัวจังเลย ด้วยความที่พี่เขามืออาชีพอยู่แล้ว แล้วเราประสบการณ์ไม่ถึงเขา เราจะต้องทำยังไงบ้าง สิ่งแรกที่ทำพยายามทำการบ้านให้มากที่สุด จริงๆ พี่ยุทธช่วยเราได้มาก พี่ยุทธกลายเป็นรุ่นพี่ที่ผมรักมากคนหนึ่งเลย พี่ยุทธให้ความเป็นกันเอง ดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับพี่ยุทธ

 นั่งแท่นคู่กับสรยุทธ แบบนี้จะเป็นลูกไล่ให้เขาหรือเปล่า

          ภาษิต : ผมยินดี ที่จะเป็นนะ ผมว่าคนดูรับได้จุดหนึ่ง เพราะประสบการณ์ต่างกัน ด้วยความที่พี่มีประสบการณ์มากกว่า ผมยินดีที่จะเป็นลูกไล่ เพราะด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิมันได้

ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท



 กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง

          ภาษิต : กระแสค่อนข้างดี ขอบคุณทุกๆ กระแสตอบรับ ไม่ว่าจะเข้าทางช่อง 3 หรือมาตามเว็บไซต์ต่างๆ แต่ก็ยอมรับว่ามันก็ยังไม่ดีที่สุด คงต้องพัฒนาอีกเยอะ ก็จะพัฒนาต่อไป

 ถือเป็นผู้ประกาศไฟแรง

          ภาษิต : ถูกต้อง...ไฟแรงมาก อยากทำงานเยอะ อยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เยอะๆ ประสบการณ์ 3 ปีครึ่ง ก็ถือว่ายังใหม่นะ การที่ไปนั่งกับผู้ประกาศรุ่นใหญ่ ทำให้เราต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะเลย มันก็เป็นแรงผลักดันให้เราต้องตั้งใจทำงานต่อไป

 การเติบโตมาได้ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหน้าตาด้วยหรือเปล่า

          ภาษิต : งานข่าวมันแตกต่างจากดาราอยู่แล้ว โอเคอาจจะมีคนชื่นชอบภาพลักษณ์ภายนอก ผมก็ต้องขอขอบคุณ แต่สุดท้ายคนก็ต้องดูที่เนื้อหาของข่าวอยู่แล้ว หน้าตาอาจจะเป็นตัวชักจูง มันแค่เป็นความประทับใจแรกที่คนดูได้เห็นเท่านั้น แต่ไม่เกิน 5 นาที ที่คนดูเห็นเรา คนดูเขาก็จะเปลี่ยนเป็นดูข่าวแล้ว ถ้าเราพรีเซ็นต์ได้ไม่ดี ข้อมูลไม่ปึก พอเราพูดผิดพูดถูก คนก็จะเริ่มรำคาญ แล้วมันก็จะกลายเป็นดาบสองคม อ้าวนี่...หน้าตาดี แต่อย่างอื่นไม่ได้เรื่อง มันยิ่งเป็นแรงกดดันผมนะ เราก็ต้องทำการบ้านให้เยอะขึ้น

 ด้วยความที่หน้าตาดี มีทาบทามให้มาทำงานในวงการบันเทิงบ้างไหม

          ภาษิต : มีทุกอย่างเลย ตั้งแต่เล่นละคร ร้องเพลง  แต่ผมตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ก่อน อย่างตอนนี้ผมมาทำงานข่าว ผมชอบงานพิธีกร ผู้ประกาศข่าว ผมต้องตั้งใจทำตรงนี้ให้ดีก่อน กว่าที่ผมจะได้มาอ่านข่าว ผมวิ่งข่าวภาคสนามมาก่อน แต่ละวันผมให้เวลากับงานข่าวเยอะ ยอมรับว่ามีการติดต่อให้เป็นนักแสดงค่อนข้างเยอะ แต่ผมไม่มีเวลาให้คิวได้เยอะมาก ผมไม่มีเวลาให้ตรงนั้นเลย ผมตั้งใจทำงานตรงนี้ให้ดีก่อน ไม่ใช่ไม่สนใจนะ แต่ขอทำทีละอย่างก่อน เพราะงานมันยาก ถ้าจับหลายๆ อย่าง แล้วมันจะไม่ได้อะไร


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ดาราเดลี่

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผู้ประกาศข่าวหนุ่มไฟแรง ภาษิต กับช่องใหม่วิก 3 อัปเดตล่าสุด 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 13:50:02 25,596 อ่าน
TOP