x close

โผล่อีก2 คน ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ตามหาพ่อ

ตามหาพ่อ

ตามหาพ่อ




โผล่อีก2 หาพ่อ ช่วย 3 พี่น้องยุ่น  (ข่าวสด)

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          จากกรณี ด.ช.มาซามิ ฮายาชิ อายุ 8 ขวบ, ด.ญ.ยูกิ ฮายาชิ อายุ 6 ขวบ และ ด.ญ.มิโดริ ฮายาชิ อายุ 4 ขวบ 3 พี่น้องลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ที่อาศัยอยู่ยายคือ นางแต๋ว แก้วน้ำเย็น อายุ 65 ปี ที่บ้านเลขที่ 20/2 บ้านหนองพลวงใหญ่ ตำบลไชยมงคล อำเภอเมืองนครราชสีมา ได้ประกาศตามหาพ่อชาวญี่ปุ่นนั้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ (25 พฤษภาคม) นายสมโภชน์ นามประสิทธิ์ นายก อบต.ไชยมงคล กล่าวว่า ได้รับการติดต่อประสานงานจากทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าช่วยเหลือ ส่วนการตามหาพ่อชาวญี่ปุ่นนั้น คงจะต้องเก็บข้อมูลและรวบรวมหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับเด็กทั้งสามคน และประสานไปยังสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ช่วยตามหาบุคคลที่ชื่อ นายคาอิจิ ฮายาชิ ผู้เป็นพ่อต่อไป

          ด้าน นางแต๋ว ยายของเด็ก กล่าวว่า หลานๆ ไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนพฤติกรรมการเข้าสังคมเพื่อนที่โรงเรียนนั้น รู้สึกตื่นเต้นและยินดีที่มี 3 พี่น้องซึ่งเป็นเด็กลูกครึ่งเป็นเพื่อน แม้ว่าจะพูดไทยได้ไม่คล่องแคล่ว ประกอบกับสภาพร่างกายของ ด.ช.มาซามิ ค่อนข้างอ่อนแอ ที่ผ่านมาตนพยายามเลี้ยงหลานให้ดีที่สุด โดยได้เพื่อนบ้านช่วยจุนเจือจึงประคองตัวมาได้ ตอนนี้อยากให้หลานได้เรียนสูงๆ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือหลานทั้ง 3 คนด้วย ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญต้องการบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กทั้ง 3 คน สามารถบริจาคผ่านชื่อบัญชีนางสมพร สือจะบก น้องสาวของยายแต๋ว เลขที่บัญชี 339-4-26076-8 ธนาคารกรุงเทพ สาขา ถนนมิตรภาพ อำเภอเมืองนครราชสีมา

          อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กลูกครึ่งที่ตามหาพ่อญี่ปุ่นยังทยอยเปิดตัวออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดมีอีก 2 ราย คนแรกอยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร คือ นายซาโตชิ คิยีม่า อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โดยนายซาโตชิพักอยู่กับยาย คือ นางปิ่น ยอดสร้อย อายุ 70 ปี ซึ่งนางปิ่นนำหลักฐานประกอบด้วยสูติบัตรของนายซาโตชิ ว่าแม่ชื่อ นางวารินทิพย์ ยอดสร้อย ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2551 บิดาชื่อ นายยูทากะ คิยีม่า อายุ 50 ปี พร้อมนำใบทะเบียนสมรสระหว่างนายยูทากะกับนางวารินทิพย์ ซึ่งจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2538 และยังมีใบเกิดของนายซาโตชิ ที่ประเทศญี่ปุ่น เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2536 ที่โรงพยาบาลโคโมโระโคเซโซโก เลขที่ 3-2-31 โยระมาจิโดโมโระชิ นากาโนะเคน

          นางปิ่น กล่าวว่า หลังจากลูกสาวแต่งงานกับนายยูทากะ ก็พากันไปอยู่กินกันที่ประเทศญี่ปุ่น จนเมื่อหลานชายอายุได้ 2 ขวบ ลูกสาวก็พากลับมาเมืองไทยและฝากให้เลี้ยง และกลับไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาลูกสาวก็เดินทางกลับมาอีก โดยบอกว่ามีปัญหากับครอบครัวของสามี และลูกสาวก็ป่วยเป็นวัณโรค และเป็นงูสวัดเข้าเส้นเลือดกระทั่งเสียชีวิต ส่วนตนกับหลานไม่ลำบากนักพอมีพอกินอยู่ เพียงแต่หลานชายอยากเจอพ่อและต้องการทราบว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

          ส่วน นายซาโตริ กล่าวว่า ติดตามข่าวของน้องเคอิโงะมาโดยตลอด และคอยเอาใจช่วยให้พบพ่อ ที่ผ่านมาตนไม่สามารถติดต่อพ่อได้เช่นกัน เพราะก่อนที่แม่จะเสียชีวิตไม่ได้บอกไว้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน และที่ตัดสินใจเปิดตัวออกประกาศตามหาพ่อในครั้งนี้ ได้แรงบันดาลใจจากน้องเคอิโงะ รวมทั้งเพื่อนๆ ก็สอบถามว่าไม่คิดจะตามหาพ่อบ้างหรือ แต่ต้องการทราบเพียงว่าพ่อมีความเป็นอยู่อย่างไร ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่เท่านั้น และลึกๆ ก็อยากเจอหน้าพ่อเช่นกัน 

          ส่วนอีกรายคือ ด.ช.โทะซึกะ คาซึยะ หรือชื่อไทยว่า ด.ช.ปิยะ หล่อหลอม อายุ 12 ปี อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยอาศัยอยู่กับนางอุทิศ หล่อหลอม อายุ 44 ปี มารดา ที่บ้านเลขที่ 77/1 อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ นางอุทิศเล่าว่า ไปทำงานร้านอาหารในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2535 กระทั่งแต่งงานอยู่กินกับ นายโทะซือกะ มาซายูกิ จนมีลูกชายด้วยกัน แต่ช่วงปี 2547 ถูกตำรวจจับกุมเนื่องจากเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก่อนที่จะถูกส่งกลับเมืองไทยพร้อมลูกชาย ซึ่งตอนนั้นอายุได้ 5 ขวบ ส่วนภาพถ่ายหรือหลักฐานอะไรเกี่ยวกับสามีก็ไม่มี เนื่องจากถูกยึดไปจนหมด ที่ตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราวชีวิตไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร เพียงแต่ห่วงอนาคตของลูกชาย

          ขณะที่ น้องโทะซึกะ กล่าวว่า อยากจะพบกับพ่อและอยากจะไปอยู่กับพ่อ เพราะแม่บอกว่าพ่อจะมารับไปอยู่ญี่ปุ่นด้วย แต่ก็ไม่เห็นมา และไม่ได้โทรศัพท์มาคุยด้วยเลย ถึงแม้ว่าพ่ออาจจะมีครอบครัวใหม่แล้วก็อยากจะพบสักครั้ง และอยากให้รู้ว่าลูกคนนี้คิดถึงอยากพบพ่ออยู่ตลอดทุกวันเวล


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โผล่อีก2 คน ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ตามหาพ่อ อัปเดตล่าสุด 26 พฤษภาคม 2552 เวลา 14:29:29 26,428 อ่าน
TOP