สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากมติชนออนไลน์
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมาเยี่ยมชมครอบครัวแพนด้า ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมกับทำพิธีมอบสูติบัตรให้กับแพนด้าน้อย ส่วนการเตรียมเจรจากับสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อขอยืดเวลาให้แพนด้าน้อยอยู่ในเมืองไทยต่อไป ซึ่งเบื้องต้นนายสุวิทย์จะเดินทางไปเจรจากับทางการจีนก่อน เพื่อเตรียมการล่วงหน้าก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไป ซึ่งคิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนความคืบหน้าการตั้งชื่อให้แพนด้าน้อยนั้น จะมีการประกวดตั้งชื่อ โดยเปิดรับจากประชาชนไทยทั่วประเทศ โดยจะทำการประสานงานร่วมกับสื่อมวลชนทุกแขนง เปิดให้มีการตั้งชื่อโดยการส่งข้อความเอสเอ็มเอสผ่านรายการโทรทัศน์ ที่เสนอข่าวสารของแพนด้าน้อยได้ทุกรายการที่เข้ารวมโครงการ ตลอดจนหนังสือพิมพ์ทุกฉบับและสวนสัตว์ทุกแห่ง
สำหรับขั้นตอนการพิจารณาจะมีการรวบรวมและคัดเลือกชื่อจะมาจากคณะกรรมการให้เหลือแค่ 4 ชื่อ โดยมีเงินรางวัลชื่อละ 1 แสนบาท โดยสามารถเริ่มส่งได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฏาคมนี้ ทั้งนี้เพื่อจะได้ทำการคัดเลือกและประกาศให้ทันวันที่ 12 สิงหาคมนี้ และมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดทั้ง 4 ชื่อ หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการโหวตคัดเลือกจากประชาชนให้เหลือเพียง 1 ชื่อ โดยการส่งไปรษณียบัตรแล้วแยกชื่อที่ได้รับการโหวตคัดเลือกจากประชาชนมากที่สุด แล้วทำการจับรางวัลหาผู้โชคดีต่อไป โดยผู้โชคดีจะได้รับรางวัลเป็นเงินสด 1 ล้านบาท และรถยนต์อีก 1 คัน
ด้านนายประ เสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าด้านสุขภาพของหลินฮุ่ย และแพนด้าน้อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ว่า ทั้งหลินฮุ่ยและแพนด้าน้อยมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นมาก ตลอดทั้งคืนวันที่ 31 พฤษภาคม จนกระทั่งเช้าวันที่ 1 มิถุนายน แพนด้าน้อยกินนมตลอดและนอนหลับสบายทั้งคืน ส่วนหลินฮุ่ยมีอาการเมื่อยล้า เนื่องจากเข้าสู่วันที่ 6 แล้วยังคงอุ้มลูกไม่ยอมวาง พี่เลี้ยงต้องเข้าไปช่วยขยับท่าและนวดตัวให้ แต่เห็นความตั้งใจแล้วไม่ว่าจะปวดเมื่อยอย่างไร มือข้างขวาของหลินฮุ่ยจะไม่ยอมปล่อย
สำหรับพัฒนาการของแพนด้าน้อยนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า มีสีดำที่ปรากฏบริเวณหูสองข้างเริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยสีดำที่เกิดขึ้นที่หูและรอบดวงตานั้นเกิดจากผิวหนังที่มีสีเข้มไม่ใช่ส่วนของขน วันนี้หากมองผ่านกล้องวงจรปิดในระยะไกลจะเห็นสีดำได้เด่นชัดขึ้น นอกจากนี้ขาหน้าหลัง 4 ข้าง เริ่มปรากฏสีดำขึ้นมาบ้าง และจากนี้ไปจะเริ่มมีสีเข้มชัดเจนมากขึ้น ส่วนขนาดของลำตัวและขาของแพนด้าน้อยเพิ่มขนาดขึ้นตามลำดับ และน้ำหนักโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นวันละ 20 - 30 กรัมอย่างต่อเนื่อง
"ขณะนี้สวนสัตว์เชียงใหม่ไปเก็บไผ่ร่มบนยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ มาทดลองให้หลินฮุ่ยกิน หลังจากหลินฮุ่ยไม่ยอมกินไผ่หลายชนิดมาตั้งแต่หลังตกลูก โดยทางโครงการหลวงจะเป็นผู้นำทางไป และจะนำมาให้หลินฮุ่ยทดลองกินเพราะเป็นไผ่อ่อน ล่าสุดทางสวนสัตว์เชียงใหม่ประสานกับเจ้าหน้าที่โครงการหลวงหาไผ่ร่ม ที่ถือว่าเป็นไผ่ที่อ่อนและแพนด้าในประเทศจีนนิยมกิน พบว่ามีขึ้นตามยอดดอยอินทนนท์ ขณะนี้กำลังนำมาให้หลินฮุ่ยกินอาจจะทำให้หลินฮุ่ยหันมากินไผ่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ เพื่อร่างกายหลินฮุ่ยจะได้แข็งแรงในเร็ววันนี้" นายประเสริฐศักดิ์ ระบุ
ขณะที่ นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้ช่วยผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากกรณีหลินฮุ่ยตั้งท้องเป็นเวลา 97 วัน และคลอดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่า พ่อค้าแม่ค้าหวยพากันเต็งเลขเด็ด คือระยะเวลาการอุ้มท้องแม่หมีแพนด้าหลินฮุ่ย คือ 97 และวันที่คลอดคือวันที่ 27 โดยเลขหวยช่วงนี้นิยมเลขเบิ้ล บรรดาเซียนหวยต่างเต็งเลขเบิ้ล 77 โดยเอาเลขตัวท้ายระยะเวลาตั้งท้องคือ 7 กับเลขตัวท้ายของการคลอดวันที่ 7 มาแปลหรือมาตีเป็นเลขเบิ้ล ปรากฏว่า หวยออกตรงเป๊ะ ทั้งหัวท้ายที่ 1 ออก 777661 และเลขท้าย 3 ตัว ออกเลข 097 ถือว่าลูกหลินฮุ่ยให้โชค ตรงตามที่พวกพ่อค้าแม่ค้าและเซียนหวยเต็งเลขไว้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
