x close

ปรากฏการณ์ 'ผึ้งเพลง''พุ่มพวง ดวงจันทร์'

พุ่มพวง

ปรากฏการณ์'ผึ้งเพลง''พุ่มพวง ดวงจันทร์' จากไป17ปีไม่ถูกลืม! (เดลินิวส์)

          เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดกับนักร้องลูกทุ่งไม่กี่คนนัก สำหรับเรื่องราวต่างๆ อย่างที่เกิดกับ “ผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์” หรือ 2 ชื่อเดิมในวงการเพลง “น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย” “น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ” หรือชื่อนามสกุลจริง “รำพึง จิตรหาญ” ซึ่งหากเธอยังมีชีวิตอยู่ ในปี 2552 นี้ก็จะอายุครบ 48 ปี ในวันครบรอบวันเกิด 4 ส.ค.
  
          แต่ปี 2552 นี้ เป็นปีครบรอบการเสียชีวิต 17 ปี ในวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากการที่เธอป่วยหนักด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคเอสแอลอี ที่ปัจจุบันในเมืองไทยเรียกกันติดปากว่า “โรคพุ่มพวง” เมื่อ 13 มิ.ย. 2535 ขณะอายุยังไม่เต็ม 31 ปี ท่ามกลางความอาลัยของแฟนเพลง และเป็นความสูญเสียที่สำคัญของวงการลูกทุ่ง
  
          “พุ่มพวง ดวงจันทร์” เธอจากไปกว่า 17 ปีแล้ว
  
          ทว่า “ปรากฏการณ์ชีวิตพุ่มพวง” ยังอยู่จนวันนี้...
  
          ทั้งนี้ ตั้งแต่ครั้งเธอยังมีชีวิต โลดแล่นและมีชื่อเสียงอยู่ในวงการเพลงลูกทุ่งไทย หรือยามป่วยหนักต้องพักตัวเองออกจากวงการ หรือแม้แต่ยามที่เธอจากโลกนี้ไปตั้งนานแล้ว บทเพลงของ “ผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์” ก็ยังคงเจื้อยแจ้วอยู่ในโลกแห่งลูกทุ่งไทย “ผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์” จากอดีตจนปัจจุบันก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ-เป็นต้นแบบให้กับผู้คนมากมาย ที่ไล่ตามฝันที่จะแจ้งเกิดในวงการเพลงลูกทุ่ง นี่ต้องถือว่าเป็น “ปรากฏการณ์”
  
          ไม่เท่านั้น แม้แต่ในวงการนักเสี่ยงโชค “ผึ้ง-พุ่มพวง” ในยามที่จากโลกนี้ไปแล้ว ก็ติดโผได้รับการกล่าวขาน-นับถืออย่างต่อเนื่องมาตลอด ยิ่งในช่วงครบรอบการเสียชีวิต 13 มิ.ย.ของทุกปี ซึ่งใกล้วันที่ 16 วันหวยออก “เลขพุ่มพวง” ก็ยิ่งถูกค้นหา-สอบถาม โดยมีวัดทับกระดาน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี วัดที่ร่างของพุ่มพวงได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่อ 25 มิ.ย. 2535 วัดที่มี “หุ่นพุ่มพวง” ตั้งอยู่หลายหุ่น เป็นเป้าหมายหลัก
  
          ทั้งการสู้ชีวิต-ผลงานเพลง-ความเชื่อ...ยังมีคนไทยกล่าวขาน
  
          ชื่อ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ถึงวันนี้ยังไม่จางหาย...ยังคงคุ้นหู...
  
          “ผมเจอเขาที่งานเลี้ยงบริษัทโรงแก้ว แถวอ้อมน้อย เขาขึ้นไปร้องเพลงต่อจากผม ผมขึ้นไปร้องก่อนเขา เขามีมาดจิ๊กโก๋จิ๊กกี๋ ยืนเท้าสะเอวเอียงหน้าทางโน้นทีทางนี้ที มีลูกเล่น ผมก็ เอ๊ะ! ไอ้เด็กคนนี้มันบุคลิกเรานี่ คือเขาเป็นคนบุคลิกสนุกๆ แล้วก็กล้า ผมเห็นเขายืนแซวกับคนเมา ผมก็นึกในใจว่า ถ้ามีโอกาสได้ปั้นเด็กคนนี้ ผมจะทำไม่ให้เหมือนใครเลย” ...เป็นคำกล่าวของ “วิเชียร คำเจริญ” หรือฺ “ครูลพ บุรีรัตน์” นักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดังถึง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ลูกศิษย์นักร้องที่ได้ ชื่อว่าเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่ง-นักแต่งเพลงลูกทุ่งคู่บุญกัน ซึ่งครูลพเผยกับ “เดลินิวส์” ไว้เมื่อเดือน ม.ค. 2549
  
          จากปี 2525 ปีแรกที่ครูลพเริ่มทำงานเพลงให้กับพุ่มพวง ชุดแรกทำเพลงตามกระแสขณะนั้น คือสไตล์เพลงช้า เพลงที่ดังติดตลาดมากคือ “ดาวเรืองดาวโรย” พอชุดสองก็มีเพลง “สาวนาสั่งแฟน” ที่ดังมาก จนแม้แต่ครูลพและอีกหลาย ๆ คนก็ไม่เคยคิดว่าจะดังมากถึงขนาดนี้ แล้วจากนั้นครูลพและพุ่มพวงก็ร่วมสร้างสรรค์เพลงดี-เพลงเพราะได้ต่อเนื่องเรื่อยมา ทั้งเพลงช้า และเพลงเร็วตามที่ครูลพตั้งใจจะแต่งให้พุ่มพวงร้องแต่แรก
  
          อย่างที่ครูลพเคยเผยกับ “เดลินิวส์” ไว้ว่า... ก่อนจะปั้นพุ่มพวงจนโด่งดังในเวลาต่อมานั้น ได้ยินเธอร้องเพลงของคนอื่นมาก่อน ซึ่งเธอจะติดลูกเอื้อน ติดคำว่า “เอ๋ย” ตลอด จังหวะก็จะช้า ๆ จะโยนเนิบนาบ จึงตัดสินใจพลิกแนวให้ จนกลายเป็นความโด่งดัง และก้าวขึ้นเป็นขวัญใจมหาชนได้ในที่สุด
  
          นี่เป็นแง่มุมจากอาจารย์...ถึงลูกศิษย์ที่ชื่อ “พุ่มพวง”
  
          ขณะที่แง่มุมจากลูกชาย...ถึง “แม่พุ่มพวง” ก็มีเช่นกัน...
  
          “เพชร-สรภพ ลีละเมฆินทร์” ปัจจุบันอายุ 22 ปีเศษ และบวชเป็นพระเมื่อเร็ว ๆ นี้ คือลูกชายและลูกคนเดียวของแม่ “ผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์” ดังที่คนไทยทราบๆ กันดี ซึ่งเมื่อกลางปี 2550 ในช่วงที่เปิดตัวเข้าวงการลูกทุ่งตามรอยแม่ ก็ได้เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ “เดลินิวส์” ไว้ บางช่วงบางตอน อาทิ.....
  
          “แม่เป็นผู้หญิงที่เก่งมาก ที่น่าทึ่ง แม้จะอ่านหนังสือไม่ออก แต่เป็นคนที่มีความพยายามและอดทนสูง ขยันและหมั่นฝึกซ้อม ที่สำคัญรักครอบครัว เป็นแม่ที่น่ารัก ที่เพชรรัก และนับถือมาก”
  
          “พอตอนคุณแม่ป่วย เพชรได้เจอคุณแม่ไม่กี่ครั้ง เพราะว่าคุณพ่อ (ไกรสร แสงอนันต์) พาเพชรไปเชียงใหม่ หลังจากคุณแม่เสีย ชีวิตเพชรก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แล้วคุณพ่อก็พาไปอยู่ที่อเมริกา ตั้งแต่แม่เสียชีวิตเพชรก็ไม่มีอะไรสมบูรณ์เลย ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เรียกว่าหน้ามือเป็นหลังมือ มันมีหลายเรื่อง เพชรไม่ขอเล่าจะดีกว่า เพชรโตมาโดยไม่มีคุณแม่ บางครั้งมีเรื่องที่อยากจะปรึกษาใคร อยากหาความอบอุ่น ก็ทำไม่ได้ ถ้าวันนี้คุณแม่ยังอยู่ ชีวิตเพชรคงจะดีกว่านี้”

          ...เป็นคำบอกเล่าที่แฝงไว้ด้วยความเศร้าทั้งน้ำเสียงและสีหน้า ของ “ทายาทพุ่มพวง” ที่สะท้อนผ่าน “เดลินิวส์” สู่สาธารณชนไว้เมื่อราว 2 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นคำกล่าวอีกประโยคของทายาทพุ่มพวงก็คือ... “ถ้าคุณแม่รับรู้ได้ มองดูเพชรอยู่ ขอให้คุณแม่สบายใจได้” ซึ่งหากพุ่มพวงได้ยินก็คงยิ้มชื่นใจ
  
          ยังคงเป็นที่จดจำ...สำหรับเรื่องราวชีวิต “พุ่มพวง ดวงจันทร์”
  
          “ปรากฏการณ์พุ่มพวง” หลายรูปแบบ...ยังคงเกิดต่อเนื่อง
  
          เพียงแต่บางเรื่องก็มีเสียงวิพากษ์กันขรมว่า...ไม่น่าเลย !!!




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปรากฏการณ์ 'ผึ้งเพลง''พุ่มพวง ดวงจันทร์' อัปเดตล่าสุด 17 มิถุนายน 2552 เวลา 13:27:03 7,873 อ่าน
TOP