คมนาคมเต้นแจง 5ประเด็น เช่าเมล์ 4 พันคัน (ไทยรัฐ)
นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม แถลงเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. กรณี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ (สศช.) ขอข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเช่า รถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 5 ส่วน ประกอบด้วย
1. ข้อมูลการเดินทางของประชาชนในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล
2. การปรับ โครงสร้างและฟื้นฟูฐานะทางการเงินของขสมก.
3. ข้อมูลต้นทุนการจัดหารถเอ็นจีวี ใหม่จำนวน 4,000 คัน
4. ข้อมูลรายได้ของโครงการเช่ารถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คัน
5. ข้อมูลประมาณผลการตอบแทนทางการเงินและความเสี่ยงของโครงการ
ข้อมูลทั้งหมดกระทรวงได้มอบให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และ ขสมก.ดำเนินการและได้ส่งให้สศช.แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. โดยมีความหนากว่า 300 หน้า
"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550และเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2550ที่ให้ขสมก.จัดทำแผนปรับโครงสร้างการจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะของขสมก.โดย ข้อมูลความเสี่ยงของรถเมล์เช่า4,000 คันที่ส่งไปนั้นประกอบด้วยปริมาณผู้โดยสาร ต้นทุนโครงการราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและรายได้ที่จะจัดเก็บจากค่าโดยสารความ ผันผวนของอัตราอกเบี้ย ผลกระทบการพัฒนาระบบการขนส่งรูปแบบอื่นๆเป็นต้น" นายสุรชัย กล่าว
ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี สศช.จะจัดสัมมนาเรื่องโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี ในวันที่ 23 มิ.ย. กระทรวงคมนาคมคงต้องส่งตัวแทนไปรับฟังเนื่องจากในวันดังกล่าวตนและนางสร้อย ทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ติดภารกิจที่ต้องไปชี้แจงต่อคณะกรรมมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและ ประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฏรส่วนกระทรวงจะจัดสัมมนาอีกหรือไม่ ต้องรอดู ผลการจัดสัมมนาของสศช.ก่อน
วันเดียวกัน ชมรมรถร่วม ขสมก. ได้จัดเสวนาเรื่อง "ฝ่าวิกฤติ รถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คัน" ที่โรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์โดยมีเข้าผู้ร่วมรับฟังประมาณ 200 คน นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานชมรมรถร่วม ขสมก.กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นการจัดหารถในราคาแพงคือ 5 ล้านบาทต่อคันหากผู้ประกอบการเอกชนหาเองสามารถจัดหารถได้ในราคา 2.5ล้านบาทต่อคันเท่านั้นอู่ที่สามารถผลิตได้ในราคาดังกล่าวคืออู่ บ้านโป่ง คิดค่าตัวถัง700,000-800,000 บาทค่าโครงสร้างรถ (คัตซี) 1,400,000 บาท และค่าเครื่องปรับอากาศ 300,000บาทต่อคัน หากรัฐมาเช่ารถจากผู้ประกอบก็จะคิดให้ในราคาถูกคือทั้งค่าเช่าและค่า ซ่อมคิดเพียง2,500 บาท ต่อคันต่อวันเท่านั้น
นายบรรยงค์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะทำให้รถร่วมมีปัญหาเพราะมีการวิ่งทับเส้นทางของรถร่วมทุก เส้นทางรวม 145 เส้นทาง กระทบกับรายได้ เพราะปัจจุบันมีรถล้นระบบแล้ว คือ 20,000 คันหากนำรถใหม่เข้ามาอีกก็ยิ่งล้นระบบ ในปัจจุบันผู้ประกอบการรถร่วมจะมีรายได้ระหว่าง 1,200-6,000บาทต่อคันต่อวัน คือ หากเป็นรถปรับอากาศจะได้ 6,000 บาทต่อคันต่อวัน รถร้อนชั้นดีได้ที่ 4,000 บาทต่อคันต่อวัน รถร้อนไม่ดีได้ 2,000 บาทต่อคันต่อวัน และรถมินิบัสจะได้ประมาณ 1,200-3,000 บาทต่อคันต่อวัน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
