ครอบครัวหมวดตี้ ทำบุญครบรอบวันเสียชีวิต 1 ปี

เพื่อนสนิทร่วมทำบุญครบรอบวันตาย "หมวดตี้" (ไอเอ็นเอ็น)

          วันนี้ (20 มิถุนายน) ที่บ้านเลขที่ 56/1 ม.1 ต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ครอบครัว "บุญลือ" จัดพิธีทำบุญเลี้ยงภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ วัดโพธิ์ทอง จำนวน 9 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลในโอกาสครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของ ร.ต.ต.กฤติกุล บุญลือ หรือ หมวดตี้ รองผู้บังกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน หน่วยเฉพาะกิจ หน่วยรบพิเศษที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 20 มิถุนายน 2551 และในวันเดียวกันนี้ยังเป็นวันเกิดของ "หมวดตี้" ด้วย

          โดยในการทำบุญวันนี้จัดแบบเรียบง่าย มีเพียงญาติพี่น้อง เพื่อนข้าราชการครู กลุ่มเพื่อนหมวดตี้ กลุ่มแฟนคลับ และนักเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีที่ 1-4 เข้าร่วมงาน ซึ่งยังมีการพูดถึงคุณงามความดีของหมวดตี้ และครอบครัวบุญลือ ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และในวันเดียวกันนี้ยังมีการจำหน่ายสายรัดข้อมือสีเลือดหมู ซึ่งเป็นสีของตำรวจ พิมพ์ข้อความว่า "ที่ระลึกครบรอบ 1 ปี หมวดตี้" จัดทำโดยกลุ่มเพื่อหมวดตี้ โดยจำหน่ายในราคาเส้นละ 100 บาท รายได้ทั้งหมดจะเข้ากองทุนหมวดตี้ เพื่อสนับสนุนข้าราชการในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงเป็นกองทุนส่งเสริมเด็กนักเรียนที่ต้องการเป็นตำรวจเหมือนหมวดตี้ี้ี้

          นางพิมพลักษณ์ บุญลือ รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหมี่วิทยา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี มารดาหมวดตี้ เปิดเผยว่า ในช่วง 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ตนเองเฝ้าติดตามข่าวเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้มาโดยตลอด และรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่เห็นว่าผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ครู หรือแม้แต่ประชาชน ถูกทำร้ายด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากรัฐบาลคือ ต้องปรับนโยบาย หรือยุทธวิธีในการแก้ปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ในลักษณะเชิงรุก เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ถูกรังแก

          "ทั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นห่วงครูที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้มาก และรัฐบาลจะต้องเพิ่มการดูแลรักษาความปลอดภัย รวมถึงเพิ่มการคุ้มครองครูให้มากกว่านี้ และมองว่าการที่ผู้ก่อความไม่สงบจงใจทำร้ายครู ถือว่าเป็นเรื่องที่โหดเหี้ยมและรับไม่ได้ นอกจากนี้ยังฝากไปถึงรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดูแลคุณภาพชีวิตของครู ในพื้นที่ภาคใต้ มากกว่าพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะการปรับเกณฑ์วิทยฐานะ ไม่จำเป็นต้องเข้มงวดในเรื่องของตรวจสอบข้อมูลมากนัก แต่ให้ดูเรื่องของความเหมาะสม หรือคุณสมบัติว่าผู้ใดเหมาะสม เพราะการประเมินในลักษณะนี้จะทำให้ครูในพื้นที่ภาคใต้มีกำลังใจในการทำงาน" นางพิมพลักษณ์ กล่าว

          นางพิมพลักษณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวานที่ผ่านมามีคนส่งข้อความเข้ามือถือของตน โดยระบุว่ามาบอกว่า "คนชั่วที่มันยิงหมวดตี้กับผู้กองแคนมันได้ตกนรกแล้ว" ซึ่งตนอ่านแล้วรู้สึกดีใจที่คนที่กระทำความผิดต้องชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อ แต่สิ่งที่ตนเองต้องการคืออยากให้ภาคใต้สงบสุข และไม่อยากให้คนไทยฆ่ากันเอง และอยากฝากไปถึงผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ว่า ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว และให้มองย้อนไปว่าหากมีคนนำอาวุธสงครามไปไล่ยิงคนในครอบครัวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบบ้าง พวกเขาเหล่านั้นจะรู้สึกอย่างไร

          ด้าน นรต.ปรัชชัย สว่างแก้ว นักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 4 ซึ่งเป็นนักเรียนที่ หมวดตี้ ดูแลมาตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของหมวดตี้ แต่สิ่งที่ตนเองได้สัมผัสกับหมวดตี้คือเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีี รักน้อง รักเพื่อน การเสียสละในครั้งนี้ถือเป็นแบบอย่างที่จะทำให้รุ่นน้องเดินรอยตาม เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้

          ขณะที่ นรต.หญิง จริยาภรณ์ พ่วงพี่ดี นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง ชั้นปีที่ 1 เปิดเผยว่า ประทับใจในอุดมการณ์การเป็นตำรวจของหมวดตี้ และสิ่งที่นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นน้องได้คือ ความเป็นตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดก็ตาม และหากตนเองจบชั้นปีที่ 4 แล้ว และจะต้องถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ก็ไม่กลัว เพราะเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Pantip.com, มติชนออนไลน์ และ rd1677.com