x close

จับแล้วจนท.งัด หอศิลป์พีระศรี ฉกเงินกว่าแสน

หอศิลป์ พีระศรี



จับแล้วจนท.งัด "หอศิลป์ พีระศรี" ฉกเงินกว่าแสน (คมชัดลึก)

          โจรบุกงัด "หอศิลป์ พีระศรี" รื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย แต่ไม่ฉกงานศิลป์ หยิบเงินกว่า 1 แสนบาทในลิ้นชักแทน ตำรวจคาดคนในมีเอี่ยว ตำรวจเค้นสอบเจ้าหน้าที่ยอมปริปากสารภาพเป็นคนลักจริง อ้างทยอยหยิบไปหลายครั้งเพื่อนำไปรักษาโรคมะเร็ง

          เหตุคนร้ายบุกงัดหอศิลป์ พีระศรีครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ร.ต.ต.ปานสิริ ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ชนะสงคราม ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ ตั้งอยู่ในกรมศิลปากร ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

          ที่เกิดเหตุบริเวณประตูหน้าทางเข้าหอศิลป์ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยคนร้ายใช้เครื่องมือตัดทำลายสายยู และกลอนประตู ก่อนที่จะงัดประตูเข้าไป จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในห้องจัดแสดงผลงานและข้าวของเครื่องใช้ของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ก็พบว่าถูกคนร้ายเข้าไปรื้อค้นข้าวของจนกระจัดกระจาย แต่ไม่มีข้าวของชิ้นใดหายไป จากการตรวจสอบตู้ลิ้นชักเก็บของก็ไม่พบร่องรอยการงัดแงะ แต่เมื่อเปิดออกดูพบว่า คนร้ายได้ขโมยเงินสดจำนวน 1.25 แสนบาท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงและรายละเอียดที่พบในที่เกิดเหตุไว้ไปตรวจสอบ

          จากการสอบสวน นางดารุณี เอี่ยมสังข์ทอง อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ประจำหอศิลป์ พีระศรี ให้การว่า หอศิลป์จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ทุกวัน และปกติจะมีเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้หญิงดูแลอยู่ 3 คน ก่อนเกิดเหตุมาทำงานตามปกติ จนกระทั่งมาถึงที่หอศิลป์เวลาประมาณ 08.00 น. ก็พบว่ากุญแจที่คล้องอยู่หน้าประตูถูกตัดหายไป และประตูก็ถูกงัด จึงรีบเข้าไปตรวจสอบภายในห้องก็พบว่า คนร้ายได้รื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย และเกิดเอะใจไปเปิดลิ้นชักเก็บเงินดูก็พบว่าคนร้ายขโมยเงินไปแล้ว ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการขายเหรียญที่ระลึกและหนังสือของอาจารย์ศิลป์ พีระศิลป์ ที่เก็บใส่ซองเอกสารวางไว้ในลิ้นชักและ ล็อกกุญแจอย่างดี

          "ในวันนี้จะมีเจ้าหน้าที่กองทุนอนุรักษ์และพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ของกรมศิลปากร มารับเงินไปเข้าบัญชีกองทุน แต่ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจะมาเมื่อไหร่ จึงทิ้งกุญแจลิ้นชักไว้ภายในห้อง เพื่อที่ว่าหากเจ้าหน้าที่มาจะได้ไขกุญแจนำเงินไปได้เลย แต่เงินกลับมาหายเสียก่อน เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเห็นกุญแจที่ทิ้งไว้ จึงได้ลองนำไปไขดูก่อนหยิบฉวยเงินจำนวนดังกล่าวไป" นางดารุณีกล่าว

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นคนในทิ้ง เนื่องจากมีจากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่ดูแลหอศิลป์แล้วพบว่าให้การมีพิรุธและวกวนอยู่ นอกจากนี้คนร้ายที่เข้ามาก็ไม่น่าจะรู้ว่ามีเงินอยู่ในลิ้นชัก แถมยังไม่ได้หยิบฉวยของมีค่าอย่างอื่นไปเลย จึงเชื่อว่าที่คนร้ายรื้อข้าวของกระจัดกระจายทำเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นมากกว่า

          ส่วนภายในห้องดังกล่าว ก็ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และจุดเกิดเหตุยังเป็นที่มืดไม่มีแสงสว่างอีกต่างหาก หลังจากนี้จะได้รอผลการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และให้เจ้าหน้าที่ สน.ชนะสงคราม สืบสวนหาข่าว และพยานแวดล้อมเพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ร่วมกับ พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นางดารุณี เอี่ยมสังข์ทอง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/49 หมู่ 9 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. เจ้าหน้าที่ประจำพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ ตั้งอยู่ในกรมศิลปากร ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. พร้อมของกลางเชือกสีขาวสำหรับผูกกุญแจจำนวน 1 เส้น โดยยึดได้จากท่อระบายน้ำหน้าพิพิธภัณฑ์ เงินสดจำนวน 13,400 บาท โดยยึดได้จากหลังตู้อาหารภายในบ้านพักเลขที่ 165/1 ถนนริมทางรถไฟ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. พร้อมแจ้งข้อหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร และแจ้งความเท็จ  โดยจับกุมได้ที่สถานีตำรวจสน.ชนะสงคราม เมื่อเวลา14.00 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบสวนจนยอมรับสารภาพ

          พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า นางดารุณี ผู้ต้องหารายนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย และนำลูกค้าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ซึ่งได้ขโมยเงินที่ได้จากการจำหน่ายเหรียญที่ระลึกอาจารย์ศิลป์ พีระศรี มาหลายครั้งรวมแล้วประมาณ 1 แสนบาท กระทั่งต่อมาเมื่อถึงกำหนดที่จะส่งมอบเงินที่ได้จากการจำหน่ายเหรียญ นางดารุณี ได้วางแผนว่ามีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดเข้ามาลักทรัพย์รื้อค้นทรัพย์สินมีค่าภายในแล้วหลบหนีไป

          ผบก.น.1 กล่าวอีกว่า จากนั้นผู้ต้องหาได้ทำทีโทรศัพท์ไปแจ้งเหตุให้เพื่อนร่วมงานและตำรวจทราบ แต่จากการนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนพบว่ามีท่าทางพิรุธ และมีลักษณะน่าสงสัย จนกระทั่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์แต่อย่างใด แต่นางดารุณี สร้างสถานการณ์เองเนื่องจากได้ขโมยเงินที่ได้จากการจำหน่ายเหรียญ โดยจะทยอยหยิบไปหลายครั้งจนไม่สามารถนำเงินมาคืนได้

          ด้าน นางดารุณี  กล่าวว่า เป็นพนักงานประจำของกรมศิลปากร ยอมรับว่าเป็นคนขโมยเงินไปจริงเพราะต้องการหาเงินไปรักษาโรคมะเร็ง ระยะที่ 2 ซึ่งต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล อีกทั้งภาระทางบ้านไม่ค่อยดี จึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ยอมรับว่าก่อนก่อเหตุได้ดูภาพยนตร์ ดูข่าว จึงมาทำเลียนแบบไม่รู้ผลจะออกมาอย่างไร ตนอยากได้เงินไปรักษาตัวเองเท่านั้น เงินบางส่วนก็นำไปทำบุญ ซึ่งการทำบุญแต่ละครั้งจะระลึกถึงอาจารย์ศิลป์ตลอดเวลา

          นางดารุณี กล่าวยอมรับว่าได้ขโมยเงินมาตั้งแต่ปี 2551 เนื่องจากตนจะเป็นผู้บริหารหารเงินจำหน่ายเหรียญอาจารย์ศิลป์ ที่จัดแสดงในงานเกี่ยวกับโบราณวัตถุกิจกรรมต่างๆ โดยทางอาจารย์ จะให้เหรียญมาจำหน่ายประมาณ 1 พันเหรียญ ตนก็จะหยิบเงินไปเรื่อยๆ ครั้งละพันสองพันเพื่อไปใช้จ่าย ทุกครั้งที่หยิบเงินก็จะขอขมาอาจารย์ศิลป์ ตลอดเวลา และช่วงที่ไปฉายแสงมะเร็งก็ขโมยเงินไปมากหน่อยยอดรวมเงินที่หายไปเกือบ 1 แสนบาท


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จับแล้วจนท.งัด หอศิลป์พีระศรี ฉกเงินกว่าแสน อัปเดตล่าสุด 16 กรกฎาคม 2552 เวลา 15:10:10 6,178 อ่าน
TOP