สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์
จากกรณีเกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน กว่า 50 คน ตามติดด้วยคาร์บอมบ์ในตลาดดัง กลางกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซียนั้น
ล่าสุดทางสถานีโทรทัศน์ทีวีวันของอินโดนีเซีย ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เห็นชายคนหนึ่งในชุดสูท และสวมหมวกเบสบอล เดินเข้าไปในห้องอาหารของโรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน ท่าทางมีพิรุธ ก่อนจะเกิดระเบิด
ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจาการ์ตา ระบุว่า คนร้ายแฝงตัวเป็นแขกของโรงแรมเจดับบลิว แมริออท ซึ่งระเบิดที่ใช้ก่อเหตุเป็นระเบิดทำเอง และสงสัยว่าระเบิดลูกหนึ่งที่ใช้ในลานจอดรถชั้นใต้ดินของโรมแรมเจดับบลิว แมริออท ถูกมือระเบิดฆ่าตัวตายปลดชนวนระเบิด เนื่องจากพบศพหนึ่งอยู่ในสภาพศีรษะขาด
จับภาพวินาที ระเบิดโรงแรม ตูมสนั่นที่อินโดนีเซีย
ทั้งนี้ แม้ยังไม่มีใครอ้างความรับผิดชอบ แต่นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินโดนีเซีย เชื่อว่ามือระเบิดน่าจะเป็นฝีมือของ "เจไอ" อีกครั้ง และนี้คือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับองค์กรก่อการร้ายแห่งนี้...
ทางด้าน "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" สโมสรฟุตบอลชื่อดังแห่งพรีเมียร์ลีคของอังกฤษ ได้ยกเลิกการเดินทางไปอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในการทัวร์เอเชียก่อนถึงฤดูกาลแข่งขันแล้ว หลังเกิดเหตุระเบิดโรงแรมในกรุงจาการ์ตา ที่พวกเขามีกำหนดจะเข้าพักในสัปดาห์หน้า
โดยทางสโมสรได้ออกแถลงการณ์ว่า หลังเกิดระเบิดขึ้นที่กรุงจาการ์ตา และในที่เกิดเหตุคือสถานที่ที่ทีมมีกำหนดเข้าพัก ซึ่งหลังจากได้รับคำแนะนำแล้ว ทางผู้บริหารได้แจ้งไปยังสหพันธ์ฟุตบอลอินโดนีเซียว่าไม่อาจเดินทางไปยังกรุงจาการ์ตาได้ ทั้งนี้ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังได้ย้ำความเสียใจที่ไม่สามารถไปทัวร์อินโดนีเซียได้ และแสดงความขอบคุณสมาพันธ์ฟุตบอลอินโดนีเซีย และแฟนๆ ที่สนับสนุนพวกเขา และขอแสดงความเสียใจไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีกำหนดเดินทางไปยังกรุงจาการ์ต้า เพื่อเล่นลงกับทีมอินโดนีเซีย 11 ต่อหน้าแฟนบอลที่ซื้อตั๋วเข้าชม 1 แสนใบ ซึ่งจำหน่ายหมดไปก่อนหน้านี้ ทางสโมสรยังระบุด้วยว่า ได้พยายามจัดการกำหนดการทัวร์ใหม่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
