เพชรเกษมฮิตสุด สมรภูมิ - นักเรียนตีกัน (ข่าวสด)
เปิดลายแทงสมรภูมินักเรียน-นักเลง ถนนเพชรเกษมฮิตสุด ตามมาด้วยย่านบางเขน และบางนา ช่วงเลิกเรียนหลัง 15.00 น. มีเหตุวิวาทมากที่สุด เลขาฯ อาชีวศึกษา-191 ตะลึงสถิติ 6 เดือนแรกของปีนี้มีเหตุนักเรียนวิวาทเกิน 1 พันครั้งแล้ว มากกว่าหลายปีที่ผ่านมา ด้านสาธารณสุขตั้งเครือข่ายร่วมกับผู้ปกครองดูแล 4 จุดหลักทั่วกรุงเทพฯ ขณะที่ 191 เปิดสายพิเศษสำหรับแจ้งเหตุตำรวจโดยเฉพาะ เสนอแนวคิดอบรมเด็กปี 1 รวมกันทุกสถาบัน และห้ามรุ่นพี่มายุ่งเกี่ยว เพราะที่ผ่านมามักถูกรุ่นพี่ปลูกฝังให้เกลียดสถาบันคู่อริ
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ในฐานะประธานการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเครือข่ายในการเฝ้าระวังและป้องปรามนักเรียนนักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 โดยมีผู้แทนผู้บริหารและฝ่ายปกครองของสถาบันอาชีวศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนในกรุงเทพฯ ผู้แทนศูนย์เสมารักษ์ ผู้แทนสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ต่างๆ และผู้แทนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นและแนวทางการป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท
นายเฉลียว กล่าวว่า จากการรายงานของตำรวจ 191 ส่วนใหญ่มีพื้นที่เกิดปัญหานักเรียน-นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันมากที่สุดที่ ย่านถนนเพชรเกษม บางเขน และบางนา ต้องเฝ้าระวังอย่างจริงจัง มักจะเกิดในเวลาเช้าและเย็น ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้แบ่งกลุ่มสถานศึกษา เพื่อรับผิดชอบพื้นที่การป้องกันนักเรียน นักศึกษา ทะเลาะวิวาท 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มจตุจักร กลุ่มชัยสมรภูมิ กลุ่มสวนหลวง ร.9 และกลุ่มธนบุรี เพื่อร่วมกันเฝ้าระวังในช่วงเวลาล่อแหลม เช่น ใกล้ถึงวันก่อตั้งสถาบัน โดยตั้งเป็นเครือข่ายสถาบันและหน่วยงานตำรวจกับขสมก. ร่วมกับสายครูปกครองในการเฝ้าระวัง
"มีการวิเคราะห์กันว่าช่วงกลางคืนมักเป็นเหตุส่วนตัว ช่วงกลางวันเป็นเหตุจากกลุ่มสถาบัน และเหตุมักเกิดระหว่างการขึ้นรถโดยสารประจำทาง ทำให้บางพื้นที่ แม้ไม่มีสถาบันการศึกษาตั้งอยู่ เช่น จตุจักร แต่มีการมาต่อรถโดยสารกันมาก จึงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น ขณะที่บางกรณีก็เกิดจากศิษย์เก่าของสถาบัน หรือบางกรณีเป็นเด็กที่แต่งตัวชุดนักศึกษาออกจากบ้าน แต่ไม่ได้เข้าเรียน ดังนั้นขอให้ผู้ปกครองช่วยตรวจสอบหรือประสานสอบถามมา นอกจากนั้นที่น่าห่วงคือความรุนแรงของอาวุธที่ใช้ก่อเหตุจะเพิ่มขึ้น" เลขาธิการ กอศ. กล่าว
นายเฉลียว กล่าวอีกว่า ศูนย์เสมารักษ์ชี้แจงว่า เฉพาะการทะเลาะวิวาทของอาชีวศึกษา มีสถิติลดลงจากปีก่อน ในสังกัด สอศ. มีเพียง 2 แห่ง สำหรับมาตรการเฝ้าระวังจะดำเนินตามมาตรการในประกาศกระทรวงศึกษาธิการเป็นหลัก เสริมด้วยมาตรการสร้างความเข้มแข็งทางคุณธรรมจริยธรรมและการบูรณาการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน
ด้าน พ.ต.อ.สมนึก น้อยคง ผู้กำกับการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ บช.น. (191) กล่าวว่า จากสถิติการรับแจ้งเหตุศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งเหตุนักเรียนนักศึกษาจากทุกสังกัดกำลังก่อเหตุตีกัน และนักเรียนจับกลุ่มจะก่อเหตุตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้นทุกกรณีเกือบเท่าตัว ตั้งแต่มกราคมถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ รับแจ้งนักเรียนก่อเหตุตีกัน 1,010 ครั้ง ขณะที่ในครึ่งแรกของปี 2551 และ 2552 มียอดนักเรียนก่อเหตุ 718 และ 639 ครั้งตามลำดับ พื้นที่ สน.เพชรเกษม มีสถิติก่อเหตุสูงสุด ช่วงเวลาก่อเหตุมากสุดคือ 15.00-18.00 น. รองลงไปคือ 12.00-15.00 น. ที่น่าห่วงคือ การก่อเหตุมีพัฒนาการความรุนแรงเพิ่มขึ้น
พ.ต.อ.สมนึก กล่าวต่อว่า ตำรวจทำแผน เตรียมรับมือเฝ้าระวังทั้งประสานกับสถาบันการศึกษา และมีปฏิทินวันสำคัญของสถาบันการศึกษาทุกแห่ง โดยหากมีผู้แจ้งเหตุมาเร็วตำรวจจะเข้าถึงที่เกิดเหตุได้เร็ว ทั้งนี้ เตรียมจะเปิดการอบรมการรับแจ้งเหตุของนักศึกษา และแจ้งโดยตรงเข้ามาที่หมายเลขโทรศัพท์พิเศษสำหรับกรณีนี้โดยเฉพาะ สามารถแจ้งได้ทันทีตั้งแต่ได้ยินว่ากำลังจะมีการก่อเหตุ ซึ่งจะเร็วกว่าการแจ้งจากประชาชน เนื่องจากสายของหมายเลข 191 ไม่เพียงพอรับแจ้งเหตุ
"สาเหตุของการทะเลาะวิวาทมักมาจากการปลูกฝังโดยรุ่นพี่ ดังนั้นจึงเสนอที่ประชุมว่าควรจะแยกนักศึกษาปี 1 ออกไปปลูกฝังระเบียบวินัย ห้ามปี 2-4 มายุ่งกับรุ่นน้อง แล้วเอาปี 1 ของสถาบันต่างๆ มาอบรมร่วมกัน ส่วนรุ่นพี่ต้องเสียสละเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ เพราะการเสียลูกไปคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องธรรมดา การจัดกำลังเข้าไปดูแลขณะเกิดเหตุ เป็นเพียงการแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น แต่เห็นว่าควรปลูกฝังที่ต้นเหตุก่อน" พ.ต.อ.สมนึก กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
