x close

ชง 7 มาตรการ เสริมประกันราคาข้าว

ต้นข้าว


ชง 7 มาตรการ เสริมประกันราคาข้าว (เดลินิวส์)

         นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านการตลาดข้าว เห็นชอบในการกำหนด 7 มาตรการเสริมนโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาล เพื่อใช้สร้างเสถียรภาพราคา แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำและสร้างความโปร่งใส่ให้เกิดกับการประกันราคา โดยจะนำ 7 มาตรการนี้เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาวันที่ 29 ก.ค.นี้

         "ทั้ง 7 มาตรการ จะเป็นวิธีแก้ปัญหาราคาตกต่ำ โดยจะดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด เป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ขณะที่รัฐบาลจะมีค่าใช้จ่ายน้อยลง โดยมาตรการนี้จะใช้เสริมในกรณีที่ราคาข้าวตกต่ำเกินกว่าที่กำหนด เพื่อลดภาระการจ่ายส่วนชดเชยของรัฐให้ลดลง กรณีที่ราคาซื้อขายข้าวของเกษตรกรตกต่ำมาก"

         สำหรับมาตร การทั้ง 7 ข้อประกอบด้วย ให้โรงสีรับซื้อข้าวในราคานำตลาดตันละ 100-200 บาท เป็น ระยะเวลา 6 เดือน หรือแล้วแต่ช่วงเวลาสถานการณ์ราคาในขณะนั้น โดยรัฐบาลจะช่วยชดเชยอัตราดอกเบี้ยแก่โรงสีที่รับซื้อเพื่อช่วยลดรายจ่ายแก่โรงสี เนื่องจากโรงสีมีภาระดอกเบี้ยมากกว่าผู้ประกอบการทั่วไป และให้โรงสีเลือกจะเก็บข้าวในรูปข้าวสารหรือข้าวเปลือกก็ได้ แนวทางต่อมาให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และสหกรณ์การเกษตร เข้ารับซื้อข้าวจากชาวนาและให้เก็บเป็นข้าวเปลือก และนำข้าวจำนวนนี้ไปขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า โดยรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกแหล่งเงินกู้และดอกเบี้ยพิเศษให้ ซึ่งเบื้องต้นจะนำแหล่งเงินกู้มาจากกองทุนรวมคณะกรรมการนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) 

         นอกจากนี้ในส่วนข้าวหอมมะลิ ให้เปิดโครงการรับจำนำเป็นยุ้งฉางแก่เกษตรกร โดยกำหนดให้ราคาต่ำกว่าราคาตลาดตันละ 1,000 บาท รับปริมาณไม่เกิน 1.5 ล้านตัน เพื่อช่วยพยุงราคาข้าวในตลาดไม่ให้ตกต่ำและเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกรที่ปลูกข้าวจำนวนมาก ให้นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำ ขณะเดียวกันให้กรมการค้าต่างประเทศผลักดันการส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และการให้แต่ละจังหวัดจัดตลาดนัดเพื่อให้มีการซื้อขายข้าวในระดับจังหวัดมากขึ้น รวมถึงหาแนวทางสนับสนุนแก่ผู้ส่งออกภาคเอกชน ให้สามารถ ขายข้าวได้มากขึ้น

          นอกจากนี้ยังกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ส่งออกเข้าไปรับซื้อข้าวจากชาวนาเพิ่มขึ้น โดยเดิมทีกำ หนดให้ผู้ส่งออกต้องมีข้าวในสต๊อกไม่ต่ำกว่า 500 ตัน แต่สำหรับวิธีใหม่ในการใช้มาตรการประกันราคา จะกำหนดให้ผู้ส่งออกต้องสต๊อกข้าวไว้ตามสัดส่วนปริมาณที่ส่งออกไป ซึ่งจะหารือกำหนดสัดส่วนที่เหมาะสมภายหลัง

          นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ ประธานบริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดการกำหนดสัดส่วนสต๊อกข้าวจากภาครัฐก่อนว่าออกมาเท่าไร ถ้าสัดส่วนน้อยคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ามากจะเป็นภาระต้นทุนของผู้ส่งออก ทำให้ต้องใช้เงินซื้อข้าวเข้ามาเก็บในสต๊อกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าผู้ส่งออกรายใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบนัก เนื่องจากปัจจุบันผู้ส่งออกรายใหญ่มีการสำรองข้าวไว้สูงกว่าปริมาณขั้นต่ำที่รัฐกำหนดไว้อยู่แล้ว เช่น หากเดือนไหนส่งออกเกิน 1 แสนตันจะมีสต๊อกข้าวขั้นต่ำหมื่นตัน แต่ที่ห่วงก็คือผู้ส่งออกรายเล็ก ที่ส่งออกหลักพันหลักหมื่นตันต่อเดือนหากรัฐกำหนดสต๊อกสำรองไว้สูง ก็จะเดือดร้อนทันที เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
   
          "การออกมาตรการนี้คาดว่าจะกระตุ้นให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้ส่งออก เข้าไปซื้อข้าวจากชาวนาได้มากขึ้น"




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชง 7 มาตรการ เสริมประกันราคาข้าว อัปเดตล่าสุด 4 สิงหาคม 2552 เวลา 16:47:27 5,428 อ่าน
TOP