x close

โหรดัง เปิดอนาคต มาร์ค

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา และ ภิญโญ พงศ์เจริญ

อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา            ภิญโญ พงศ์เจริญ

 



โหรดัง-เปิดอนาคต "มาร์ค" (ข่าวสด)

          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อายุครบ 45 ปีเต็ม เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม

          นักโหราศาสตร์ชื่อดังได้ให้มุมมองถึงชะตาชีวิต และเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งกับตัวนายกฯ และบ้านเมืองไว้น่าสนใจ ดังนี้

          อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา  นายกสมาคมโหราศาสตร์

          วัย 45 ปีถือว่าเบญจเพสอย่างหนึ่ง แต่ถือเป็นเบญจเพสดี เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำอะไรได้ดี

          ดวงนายกฯ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือมีเหตุให้ตกใจหรือต้องเสียชีวิต เพราะอยู่ในราศีกรกฎ เริ่มจะดีขึ้น แต่จะดีมาก จะรุ่งโรจน์ในเดือนเม.ย.ปีหน้า หากมีเลือกตั้งใหม่จะสมหวัง

          ฝ่ายตรงข้ามจะรุกอย่างรุนแรงมากในช่วงเดือนส.ค. ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนมาก โดยเฉพาะหลัง 15 สิงหาคม จะเกิดรุนแรงมากขึ้น เกิดความยุ่งยาก โดยเฉพาะกันยายน ถึง ตุลาคม เกิดปัญหาวุ่นวายต่อเนื่อง แต่นายกฯ สามารถผ่านไปได้

          วันที่ 30 กันยายน จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งหนึ่ง

          นายกฯ ต้องระวังตัวเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถูกโจมตี แต่ดวงยังถือว่าแก้ปัญหาไปได้เรื่อยๆ ยังฟันฝ่าไปได้ ไม่มีอะไรน่าห่วง ต้องแก้ปัญหาการบริหารบ้านเมือง แก้กฎหมายรัฐธรรมนูญและเรื่องปากท้องประชาชน ต้องแก้ต่อเนื่อง แต่ตัวนายกฯ ไม่เป็นไร ไม่มีเคราะห์ร้าย ยังไปได้อยู่

          พอวันที่ 4 พฤศจิกายน ดาวราหูยกลงมา น่ากลัวจะเกิดปัญหารุนแรงขึ้นได้ มีการประท้วงเดินขบวน ก่อวินาศกรรม ก่อเหตุต่างๆ ไม่เฉพาะประเทศไทย จะเกิดทั่วโลก

          ก่อนเดือนธันวาคม อาจมีการยุบสภา จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการบริหาร ตัวรัฐบาล แต่หลังวันที่ 14 ธันวาคม ดวงเมือง ดวงนายกฯ จะปกติและจะเริ่มพัฒนาดีขึ้น

          นายกฯ จะแก้ปัญหาต่างๆ ได้ต้องหลังวันที่ 15 ธันวาคม แล้วไปยุบสภาเลือกตั้งใหม่เดือนเมษายนปีหน้า จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ได้นักการเมืองที่ดีเข้ามา

          นายกฯ มีประสบการณ์ชีวิตยังน้อย สิ่งที่ทำคือหาประสบการณ์ไปก่อน ต้องเน้นเรื่องความสามัคคีให้มาก และช่วยเหลือคนยากจนให้รวดเร็วที่สุด รวมทั้งแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นในรัฐบาลด้วย แต่จะแก้ไขในเดือนเม.ย.ปีหน้า

          ดวงนายกฯ อยู่ภายใต้อิทธิพลดาวราหู ไม่ต้องไปตัดกรรมอะไรเหมือนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำ

          แต่ถ้าจะให้ดีต้องอยู่ที่ตัวนายกฯ ในวันพ่อ 5 ธันวาคม และวันที่ 12 สิงหาคม ต้องจัดงานให้ยิ่งใหญ่ที่สุด และต้องไปคารวะดวงเมือง พระสยามเทวาธิราช บรรพบุรุษพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ 

          และอย่าให้ใครมาลบหลู่สถาบันพระมหากษัตริย์

          ภิญโญ พงศ์เจริญ  นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ

          ดวงนายอภิสิทธิ์ ลัคนากรกฎ มีดาวอาทิตย์วงลัคนาและมีพระจันทร์เป็นดาวประจำชีพ พระจันทร์ได้มาตรฐานเป็นมหาอุด แปลว่าสูงส่ง แล้วไปอยู่ตรงราศีพฤษภ เป็นราศีธาตุดิน

          ฉะนั้นพูดถึงเรื่องวาสนาที่สูง แล้วพระจันทร์ยังกุมดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นพระเคราะห์คู่ธาตุดิน และอยู่ในราศี ในทางโหราศาสตร์ เป็นคู่ราศีธาตุ เป็นธาตุดินที่ยิ่งใหญ่ เน้นในเรื่องความเป็นปึกแผ่น

          นอกจากเรื่องความปึกแผ่นแล้ว ยังมีพระอังคารเป็นพระเคราะห์ธาตุลม กุมพระราหู และอยู่ในราษีมิถุน ซึ่งเป็นราศีธาตุลม จึงได้ราศีธาตุ 2 ชุด ธาตุลมแสดงเรื่องวิชาการ ความรู้ ความเฉลียวฉลาด

          นายกฯ จะเด่นใน 2 เรื่อง คือ ความปึกแผ่นความมั่นคงและความรู้ความเป็นวิชาการ

          ดวงตอนนี้ดาวพฤหัสฯ กำลังโคจรอยู่ในภพมรณะ กำลังโคจรถอยหลังยกเข้าสู่ราศีมังกรในเดือนสิงหาคมนี้ ช่วงกลางเดือน ดาวพฤหัสฯ จะเล็งกับดาวอาทิตย์ในดวงชะตากำเนิด จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ นักวิชาการ ผู้รู้ในบ้านเมืองมากยิ่งขึ้น ถือเป็นจุดดีตรงจะมีคนสนับสนุนมากยิ่งขึ้น 

          แต่ดวงชะตานายกฯ ยังมีปัญหาจากผลจากอุปราคา คือ สุริยุปราคาที่เกิดขึ้นเมื่อ 22 กรกฎาคม และจันทรุปราคาที่เกิดขึ้นในราศีมังกรในวันที่ 6 สิงหาคม ผลของอุปราคาที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้ง ส่งผลกระทบถึงดวงนายกฯ

          เพราะลัคนาของนายกฯ สถิตตรงราศีกรกฎ เมื่อสุริยุปราคาเต็มดวงเกิดในราศีเกิดของนายกฯ สัมพันธ์กับลัคนา สัมพันธ์กับอาทิตย์ และจันทรุป ราคาเกิดตรงราศีมังกร ซึ่งเป็นราศีที่เล็งลัคนาของนายกฯ

          ดังนั้น ต้องระวัง ให้มากโดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย เรื่องสุขภาพ อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้

          ประการสำคัญคือดาวพระเคราะห์สำคัญจะย้ายราศีหลายดวง อย่างดาวมฤตยูย้ายไปสู่ราศีมีน และวันที่ 30 ก.ย. ดาวพระเสาร์จะย้ายจากราศีสิงห์เข้าสู่ราศีกันย์ และวันที่ 4 พฤศจิกายน พระราหูจะย้ายจากราศีมังกรเข้าสู่ราศีธนู มีดาวพฤหัสบดีย้ายเข้าสู่ภพมรณะเข้าสู่ราศีกุมภ์ในเดือนธันวาคม

          เมื่อดาวหลายดวงย้ายราศีเข้าสู่ภพสำคัญของดวงนายกฯ และดวงเมือง

          คาดว่าน่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นในห้วงที่ดาวเข้ามาสัมพันธ์กัน น่าจะช่วงปลายกันยาฯ หรือ ต้นตุลาฯ โดยเฉพาะ 30 กันยายน หรือวันที่ 1-5 ตุลาคม และวันที่ 12-14 ตุลาคม น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นได้

          เรามองเรื่องการปรับครม.ครั้งใหญ่หรือการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำก็ได้ รวมถึงการยุบสภา แต่ดวงนายกฯ มีดาวที่ดีอยู่ แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงก็ยังมีโอกาสอีกก็ได้

          นายกฯ อายุ 45 ปีเต็ม เกิดวันจันทร์ ตกภูมิอาทิตย์ ต่อไปตกภูมิจันทร์ พระเสาร์จะเป็นศรี ถ้าลงเลข 5 เรียกว่าเบญจเพส เป็นภาษาโหรเรียกว่าวัยขนอน

          เป็นชีวิตที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อในการเปลี่ยนแปลง ตอนย่าง 45 จากคนที่ไม่เคยเป็นนายกฯ ก็ได้ขึ้นนายกฯ

          พอ 3 สิงหาคม 45 ปีเต็ม ก้าวเข้าสู่ปีที่ 46 ท่านเกิดวันจันทร์ ภูมิพระจันทร์ ดาวที่ทำหน้าที่เรื่องของความสำเร็จ ของความดี ดาวที่เป็นศรี คือดาวเสาร์ คือเจ้าเรือนหุ้นส่วน พรรคร่วมรัฐบาล คู่ครอง ดาวเสาร์เข้าสู่ภพที่ 3 คือการสมาคมความสัมพันธ์

          ดังนั้น ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมอาจจะเครียดหน่อย แต่ยังส่งผลดี ยังจับมือกันได้แม้ดวงดาวจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแต่ยังมีโอกาสที่จะดี อาจยังมีความหวังที่จะกลับเข้ามา

          ให้ระวังช่วงต้นเดือนตุลาคม ชีวิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลง นอกจากด้านการเมืองยังมีเรื่องอุบัติภัย ต้องแก้ปัญหาอุบัติภัยหรือภัยพิบัติ เช่น น้ำหรือพายุ แผ่นดิน รวมถึงต้องระวังในเรื่องครอบครัว ทั้งพ่อแม่ คู่สมรส บุตรและบริวารด้วย

          ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงแต่งชุดดำและเผาโลงให้นายกฯ นั้น เป็นเรื่องของการสาปแช่ง เป็นการแสดงเจตนาออกมา แต่เป็นกรรมอย่างหนึ่งที่จะส่งผลต่อตัวคนทำ กรรมใดใครทำคนนั้นต้องได้รับผลจากกรรมนั้น

          ตัวนายกฯ มีกรรมของเขาที่ต้องรับอยู่แล้ว แต่การที่คนเสื้อแดงกระทำก็เป็นกรรมของคนเสื้อแดงที่ทำ คงไม่ส่งผลไปถึงวิถีชีวิตของนายอภิสิทธิ์ เพราะไม่ได้ทำในส่วนนั้น

          ไม่ใช่แช่งแล้วจะเป็นไปตามนั้น นอกจากจะทำกรรมไว้ จึงรับกรรมนั้นไว้

          สิ่งที่อยากฝากถึงนายกฯ เราเป็นคนศึกษาทางโหรา ศาสตร์ เราต้องมองให้เห็นตามความเป็นจริง

          ทางโหราศาสตร์อธิบายเรื่องของพระราหูไว้ว่า พระราหูเป็นเรื่องของความมัว ความเมา ความมืด มัวคือเห็นไม่ชัดเจน เมาเดินไม่ตรงทาง มืดเป็นอาการที่มองไม่เห็น

          ฉะนั้นการจะพิจารณาเหตุการณ์ต่างๆ ต้องพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง จึงจะแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมืองได้

          นายกฯ จะต้องฟังและหาข้อเท็จจริงให้กระจ่างแต่ละเรื่องที่เป็นปัญหาของชาติ เมื่อเห็นปัญหากระจ่างก็จะรู้ถึงเหตุซึ่งจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด

          อำนาจของพระราหูทำให้เกิดความมืด ความมัว ความเมา ไม่เห็นความเป็นจริง เมื่อเราใช้สติปัญญาเข้าไปจะเห็นสภาพของเหตุการณ์จริง จะแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมืองได้ตรงจุด

          การที่เจ้าหน้าที่รายงานมาบางทีมันตรงบ้างไม่ตรงบ้าง

          ดังนั้น ต้องรู้ข้อเท็จจริงก่อนจึงจะแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมืองได้


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โหรดัง เปิดอนาคต มาร์ค อัปเดตล่าสุด 4 สิงหาคม 2552 เวลา 18:44:04 31,330 อ่าน
TOP