x close

วิวาทะเดือด! เฉลิม ปะทะ อภิสิทธิ์ แทรกแซงตำรวจ?

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง



วิวาทะเดือด! เฉลิม ปะทะ อภิสิทธิ์ แทรกแซงตำรวจ? (มติชน)

          ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้สดสอบถามเรื่องการตั้งรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) และการชะลอประกาศ พ.ร.ฎ.โครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในราชกิจจานุเบกษา โดยมี นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม

  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย

          วันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยุ่งยากสับสน เพราะนายกฯและคนใกล้ชิด เรียก ผบ.ตร.ไปบ้านพิษณุโลก แล้วออกมาลอยหน้าลอยตาให้สัมภาษณ์ว่า จะให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ลาพักร้อนไปประเทศจีน เพราะเจอตอคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ทั้งที่นายกฯ ไม่มีสิทธิรับรู้ เพราะเป็นความลับทางคดีอาญา พนักงานสอบสวน ก็ไม่มีสิทธิมารายงาน และไม่รู้ว่า ศาสดาคนนั้น รู้ได้อย่างไรที่ออกมาบอกว่า มี 3 ทหาร 1 ตำรวจ เป็นผู้สั่งการ ระเบียบ ก.ตร. 2 กรกฎาคม 2550 มีนิยามเรื่องอาวุโสชัดเจน ส่วน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 มาตรา 72 วรรคหนึ่ง ก็มีเงื่อนไขการตั้งรักษาการ ผบ.ตร.ชัดเจนคือ

          1.เมื่อตำแหน่ง ผบ.ตร.ว่างลง อาทิ ตาย เกษียณ ถึงจะตั้งรักษาราชการแทนได้ 

          2.กรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ ซึ่งกรณีแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่เป็น สบ10 เป็นรักษาการ ผบ.ตร. ตอนที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ไปจีน และไปราชการ 3 จังหวัดภาคใต้ ถือว่า ไม่ถูกต้อง ไม่เข้าเกณฑ์ ไม่เคยมีในธรรมเนียมปฏิบัติ

          กฎเกณฑ์มีชัดว่า ใครเป็นรองเบอร์อะไร มีลำดับอาวุโส ไม่ใช่อยากจะตั้งใครก็ได้ หรือหมั่นไส้ใครก็ไม่ตั้ง เพราะไม่ใช่เรื่องการตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ เรื่องนี้เขาด่ากันทั้งตำรวจ ถ้าเป็นคนอื่นจะเรียกว่าบ้าอำนาจ การให้ไปราชการในต่างจังหวัดแล้วตั้งรักษาการ ก็ไม่เคยมี และนายสุเทพ (เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี) ก็ไม่ต้องสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ไปก็ได้ เพราะ พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องไปอยู่แล้ว ในฐานะหัวหน้าสูงสุดของฝ่ายสอบสวน แต่ที่ส่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ลงใต้ ตามมาตรา 75 ด้วยอีกครั้ง จึงสงสัยว่า ต้องการให้ พล.ต.อ.วิเชียร ทำโผการโยกย้ายใช่หรือไม่ นายกฯอย่าทำสะเปะสะปะ เพราะตำรวจเป็นสถาบันต้นทางกระบวนการยุติธรรม

          ขอถามว่าการเดินทางไปปฏิบัติราชการ เคยก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการหรือไม่ และ พ.ร.บ.ตำรวจฯ 2547 เคยมีนายกฯคนไหน ใช้มาตรา 72 (1) ตั้งรักษาการ ผบ.ตร.หรือไม่อย่างไร และ พล.ต.อ.พัชรวาท ไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัดและต่างประเทศกี่ครั้ง และนายกฯใช้อำนาจตามมาตรา 72 หรือไม่อย่างไร ต้องทำตามที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 ออกมาเรียกร้องหรือไม่ และการแต่งตั้งรักษาการ 2 ครั้ง มีเจตนาใดแน่ ระหว่างการแทรกแซงคดีนายสนธิ หรือการเข้าไปล้วงโผกรณีที่มีพรรคพวกนายกฯใช้ลายเซ็น มีนามบัตร ไปขอตำแหน่งให้ใครในการโยกย้ายแล้วปรากฏว่าไม่ได้รับการตอบสนอง ทั้งนี้ เรื่องการทุจริตรับเงินทองเรื่องการโยกย้าย ก็ตั้งกรรมการสอบ และจัดการเด็ดขาด แต่นี่ไม่เห็นบอกให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ เอาหลักฐานมาแสดง

          เรื่องโครงสร้างตำรวจใหม่ก็เชื่อมโยงกับเรื่องนี้ ซึ่งมีปัญหา เพราะเมื่อ พ.ร.ฎ.โครงสร้างตำรวจใหม่ มีการโปรดเกล้าฯลงมา ก็ต้องประกาศโดยพลัน แหล่งข่าวบอกผมว่า ตั้งแต่ต้นๆ เดือนกรกฎาคม แต่รัฐบาลเก็บไว้ และอ้างระเบียบสำนักนายกฯข้อ 4 ปี 2547 เลื่อนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถือว่าไม่บังควร ส่อใช้อำนาจขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เพราะ ตร. มีหนังสือมาที่เลขาธิการ ครม.วันที่ 14 กรกฎาคม 2552 ขอให้ เอาร่าง พ.ร.ฎ.โครงสร้างตำรวจใหม่ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 15 สิงหาคม และมีผลบังคับใช้วันที่ 16 สิงหาคม แต่วันที่ 13 สิงหาคม รักษาการ ผบ.ตร. ทำหนังสือถึงสำนักนายกฯ ขอให้ชะลอการประกาศ ถามว่า ใช้อำนาจอะไร ตำรวจบอกกันว่า ตกลงโผกันไม่เรียบร้อย ส่วนนายศิริโชคบอกว่ามีการซื้อขายตำแหน่ง มีคนใกล้ชิด ผบ.ตร.ชื่อ อีจ๋อย เป็นผู้ดำเนินการ เรื่องนี้รู้กันทั้งตำรวจ รวมแล้วเรื่องนี้นายกฯกำลังมีพฤติกรรมล่วงละเมิดพระราชอำนาจ ผมจะยื่นถอดถอนต่อวุฒิสภา และยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เดือนมกราคมปีหน้า ยุคนี้เป็นยุคเดียวที่นายกฯสร้างความระส่ำระสายให้ตำรวจมากที่สุด และปัญหามากมาย แต่นายกฯกลับเอาเวลาไปปาฐกถา ตัดริบบิ้น



อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ



  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

          พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 72 ระบุชัดเจนถึงเรื่องการแต่งตั้งรักษาการแทน ผบ.ตร. ร.ต.อ.เฉลิมบอกว่า จบปริญญาเอก แต่วรรคนี้ไม่ได้ซับซ้อน เพราะระบุว่า ให้นายกฯตั้งบุคคลรักษาราชการแทน และไม่ได้จำกัดเฉพาะไปต่างประเทศ แต่ทำได้ถ้าเห็นว่า การไปปฏิบัติภารกิจใดกระทบการปฏิบัติราชการ ซึ่งอำนาจแต่งตั้งรักษาการเป็นของนายกฯ ส่วนจะแต่งตั้งอาวุโสสูงสุดตามที่เรียงลำดับหรือไม่ วรรคสองมีระบุชัดเจนว่า ในกรณีที่ไม่มีการแต่งตั้ง ให้รองเป็นผู้รักษาการแทนตามลำดับอาวุโส สรุป ถ้าแต่งตั้ง ก็เป็นอำนาจของผู้แต่งตั้งไม่ต้องดูลำดับอาวุโส แต่ถ้าไม่แต่งตั้งก็เป็นไปตามลำดับอาวุโส จึงไม่ซับซ้อน และผมใช้อำนาจไปตามกฎหมายทุกประการ ไม่ได้ขัดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่ได้บ้าอำนาจ ผมเชิญ พล.ต.อ.พัชรวาท มาพบจริงเรื่องคดี และไม่ได้แทรกแซง แต่เมื่อผู้บริหารสูงสุดคือ การรักษากฎหมาย ดังนั้น เมื่อใดก็ตามการบังคับใช้กฎหมายในคดีที่กระทบสังคมรุนแรง ผมมีหน้าที่รับผิดชอบ และไม่ใช่แค่คดีนายสนธิ แต่ยังมีเรื่องภาคใต้ ผมเชิญ พล.ต.อ.พัชรวาท มาถามว่า มีปัญหาอะไรบ้าง ไม่ได้ยุ่งกับการสอบสวนเลย เป็นหลักง่ายๆ และน่าจะดี และก็ได้ฟังความเห็นทุกฝ่าย สุดท้าย พล.ต.อ.พัชรวาท เสนอว่า เพื่อให้เกิดความสบายใจ งานเดินได้ และจะไปภารกิจต่างประเทศอยู่แล้ว จึงดำเนินการแบบนี้ คดีก็เดินต่อได้ ไม่ได้มีหลักฐานอะไรที่ ผบ.ตร. เป็นปัญหา เพียงแต่อาจเป็นความรู้สึกที่คนมองเท่านั้น

          ส่วนการเดินทางไปราชการของ พล.ต.อ.พัชรวาท เท่าที่ทราบ ไปต่างประเทศครั้งแรกคือ ครั้งนี้ที่ไปจีน ส่วนการแต่งตั้งรักษาการ ตั้งแต่มีกฎหมายนี้ มีวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ทำโดยตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ไม่ได้เป็นไปตามลำดับอาวุโสรอง ผบ.ตร. ทำไม ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ต่อว่า ว่า ลุแก่อำนาจ หรือกุมภาพันธ์ 2550 สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส สบ10 เป็นรักษาการแทน ผบ.ตร.

          ยืนยันว่า ไม่มีวาระซ่อนเร้นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ที่ตอนนี้มีความสับสนเล็กน้อยเรื่องการโยกย้าย เพราะโครงสร้างใหม่ ซึ่งใกล้ช่วงเกษียณอายุ และมีคนจำนวนมากเกษียณ ประเด็นมีอยู่ว่า การประกาศโครงสร้างใหม่ทำอย่างไรจะไม่สุญญากาศ ส่วนบุคคลอื่น ถ้าใครถูกพาดพิงต้องชี้แจงเอง เพราะตนทำตามนโยบาย

          ส่วนเรื่องการประกาศเรื่องต่างๆ ในราชกิจจานุเบกษา เป็นขั้นตอนปกติที่ทำถึงเลขาธิการนายกฯ ทราบเมื่อมีข่าวว่าการทูลเกล้าฯที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อไม่ให้สุญญากาศในการใช้โครงสร้างใหม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง ก็เลยสอบถามนายสุเทพ ก็ทราบว่าการยกเว้นเฉพาะรายที่มีปัญหาเรื่องการไม่เข้าเกณฑ์โครงสร้างใหม่ ต้องให้ที่ประชุม ก.ตร.อนุมัติ ส่วนที่สมาชิกบอกว่าผมใช้เวลาปาฐกถา ตัดริบบิ้น ผมกล้ายืนยันว่า ผมทำงานบริหาร ไม่ได้น้อยกว่านายกฯในอดีต และทำครบถ้วน แต่เผอิญมีแรงเยอะ เลยเดินงานเพิ่มได้อีก 4-5 งาน และคิดว่า การพบปะประชาชนเพื่อสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ได้กินไวน์ เล่นกอล์ฟ หรือไปคิดหาประโยชน์จากการทำธุรกิจ



สุเทพ เทือกสุบรรณ

สุเทพ เทือกสุบรรณ



  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง

          เรื่องการประกาศราชกิจจานุเบกษาเรื่องโครงสร้างใหม่ นายกฯไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่อง ตร.กับ เลขาธิการ ครม. ไปจองคิวในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีปัญหาว่าต้องประกาศโครงสร้างใหม่ก่อน แล้วเอาบุคคลลงไป หรือต้องเตรียมบุคคลให้เรียบร้อยพร้อมบรรจุเมื่อประกาศโครงสร้างใหม่ ต่อมาเกิดปัญหาใหม่อีกว่า กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งโยกย้าย ปรากฏว่า การประกาศโครงสร้างใหม่ มีตำรวจเป็นพันๆ นาย ไม่เข้าเกณฑ์ จึงต้องมาขออนุมัติกับที่ประชุม ก.ตร. พล.ต.อ.วิเชียร ที่รักษาการ ผบ.ตร.จึงมาชี้แจงว่า ต้องใช้เวลา เพื่อตรวจสอบการอนุมัติเฉพาะราย จึงไปขอในที่ประชุม ก.ตร. ขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม แต่ ก.ตร.เห็นว่านานเกินไป และใกล้กับการโยกย้ายและเกษียณ จึงขยายถึงวันที่ 7 กันยายนเท่านั้น

          ฉะนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ และนายกฯไม่เคยสั่งการ หรือแทรกแซง ที่อ้างว่า ต้องประกาศฉับพลันในราชกิจจานุเบกษานั้น หมายถึงประกาศโดยฉับพลันหลังจากที่เตรียมการแล้วและไม่เสียหายต่อราชการ ฉะนั้นถ้า ร.ต.อ.เฉลิม จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เชิญ จะได้เตรียมการ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิวาทะเดือด! เฉลิม ปะทะ อภิสิทธิ์ แทรกแซงตำรวจ? อัปเดตล่าสุด 21 สิงหาคม 2552 เวลา 15:32:20 21,483 อ่าน
TOP