ปอ.ซิ่งนรก ไล่ทับจักรยานยนต์ดับคาล้อ (ข่าวสด)
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 สิงหาคม พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ บัณฑิต พงส. (สบ3) สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุรถประจำทางทับคนเสียชีวิต บริเวณปากซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 30 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนช่วงใต้วงแหวนทางขึ้นสะพานกรุงเทพ 2 พบรถประจำทางยูโรปรับอากาศ ขสมก. สาย 76 สีส้ม หมายเลขทะเบียน 13-1744 กทม. เลขข้างรถ 5-67215 วิ่งระหว่างแสมดำ-ประตูน้ำ จอดนิ่งสนิทอยู่บริเวณถนนช่องวิ่งที่ 2 โดยล้อหลังด้านขวาทับศพนายสราวุธ นะวันทุ อายุ 23 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ติดอยู่ในสภาพนอนตะแคงคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทาคลุมทับด้วยเสื้อช็อปสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ กะโหลกศีรษะมีบาดแผลแตก แขนทั้งสองข้างถูกทับจนแบนลีบ ส่วนหมวกนิรภัยครึ่งใบสีขาว ถูกล้อรถทับจนแตกละเอียด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน
ห่างไปทางด้านหลังรถประจำทางประมาณ 10 เมตร บนช่องทางที่ 3 พบรถจักรยานยนต์คาวาซากิ รุ่นจีทีโอ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ยทต 63 กทม. ของผู้ตายพลิกคว่ำอยู่ในสภาพ ติดอยู่ใต้ท้องรถกระบะโตโยต้าสี่ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษจ 6127 กทม. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่บันทึกภาพรถทุกคันเอาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวคนขับรถคู่กรณีทั้ง 2 คันไว้สอบสวน จากนั้นให้หน่วยกู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่างยกล้อรถประจำทางขึ้น เพื่อนำศพผู้ตายออกมาให้แพทย์ชันสูตรก่อนแยกย้ายรถทั้ง 3 คันออกจากเส้นทางการจราจร
จากการสอบสวน นายบุญฮวย ประสมหงษ์ อายุ 54 ปี โชเฟอร์รถประจำทาง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกมาจากอู่ย่านแสมดำมุ่งหน้าไปประตูน้ำ ในช่วงที่ขับผ่านแยกมไหสวรรย์นั้น มีผู้โดยสารอยู่เต็มคันประมาณ 30 คน จังหวะที่เห็นสัญญาณไฟเขียวก็ขับรถมุ่งหน้ามาทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฝั่งขาเข้าเรื่อยๆ พอเลยแยกมาได้ 100 เมตร ได้ยินเสียงคล้ายรถเฉี่ยวชนกัน พอเหลือบไปดูกระจกมองข้างด้านขวาพบว่ามีรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ โดยที่ร่างของคนขับรถจักรยานยนต์กระเด็นหลุดเข้าไปที่ล้อหลังรถตน จึงรีบจอดรถลงมาดูแล้วโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
ขณะที่นายสมคิด ศิริสุข อายุ 62 ปี อดีตพนักงานการไฟฟ้านครหลวง ผู้ขับรถปิกอัพสี่ประตู ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ขับรถชนผู้ตายแต่อย่างใด แต่ระหว่างที่ขับรถเลยแยกมไหสวรรย์ออกมานั้น ได้ยินเสียงรถประจำทางคันดังกล่าวบีบแตรไล่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายดังสนั่น หลายครั้งจากทางด้านหลัง ผู้ตายพยายามเร่งเครื่องหนีจนกระทั่งรถจักรยานยนต์แล่นมาอยู่ระหว่างกลางของรถตนกับรถประจำทาง จากนั้นรถจักรยานยนต์ก็ล้ม โดยร่างผู้ตายมุดเข้าไปอยู่ที่ล้อหลังรถประจำทาง ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายพลิกคว่ำมาขวางหน้ารถตนจนต้องเบรกแบบตัวโก่ง
ด้านพ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ตายทำงานที่ไหน แต่กำลังพยายามติดต่อญาติเพื่อแจ้งรายละเอียดให้ทราบ ขณะนี้ยังไม่แจ้งข้อหากับใคร หลังจากนี้ต้องเชิญคนขับรถทั้ง 2 คัน ไปสอบปากคำอย่างละเอียดเสียก่อน รวมทั้งติดตามพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนด้วย เพื่อหาตัวคนผิดที่แท้จริงก่อนดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากทั้งสองยังให้การซัดทอดกันไปมา
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก