x close

มิจฉาชีพสนามหลวง ขายอาหารนกบังหน้า โกง-ฉกทรัพย์

 





มิจฉาชีพสนามหลวง ขายอาหารนกบังหน้า โกง-ฉกทรัพย์ฝรั่ง (ไทยรัฐ)

           ท้องสนามหลวง สถานที่สำคัญของประเทศที่ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญตั้งแต่อดีตมานับครั้งไม่ถ้วน ทว่าในยุคสมัยนี้กลับกลายเป็นแหล่งรวมปัญหาด้านสังคมสารพัด ทั้งคนเร่ร่อนจรจัดใช้เป็นที่พักพิง ผู้ค้าประเวณี สิ่งของผิดกฎหมาย มาเฟียและมิจฉาชีพ ใช้เป็นสถานที่ประกอบอาชญากรรม

           ล่าสุด กลุ่มมิจฉาชีพได้แอบแฝงเข้าไปหากินใช้การขายอาหารให้ฝูงนกพิราบบังหน้า เหยื่อคือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางมาเที่ยวชมความงดงามของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว และพระบรมมหาราชวัง ทั้งโกง และฉกทรัพย์ จนหวาดผวาไปตามๆ กัน

           ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ที่สัญจรผ่านสนามหลวงแทบทุกวัน และทนเห็นพฤติกรรมนี้ไม่ได้ จึงนำมาบอกเล่าโดยวิธีการของกลุ่มนี้ คือ หากเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินมา ก็จะรีบโปรยอาหารนกล่อนกพิราบให้บินมาใกล้ๆ กับนักท่องเที่ยว จากนั้นจะรีบเทอาหารนกใส่มือนักท่องเที่ยว จับข้อมือนักท่องเที่ยวสะบัดเพื่อให้อาหารนกกระเด็นลงพื้นแล้วเรียกเก็บเงินค่าอาหารนก จำนวนนับร้อยบาท บางรายเป็นพันบาท หรือแอบใส่อาหารนกในกระเป๋าสะพายของนักท่องเที่ยวที่เดินผ่าน แล้วตะโกนเรียกให้หยุดบอกว่ามีอาหารนกอยู่ในกระเป๋า พอเหยื่อหันมาก็จะรีบเทอาหารนกใส่มือแล้วจับข้อมือสะบัดเพื่อเรียกเก็บเงิน หากนักท่องเที่ยวรายใดไม่ให้ ก็จะยืนด่าสาดเสียเทเสีย หรือข่มขู่จนต้องยอมจ่ายเงินให้

           ที่สำคัญคือ หากเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินมาเพียงลำพัง แก๊งนี้ก็จะยืนประกบกัน 2 คน ยัดเยียดอาหารนกให้ เมื่อเหยื่อหลงกลจนต้องยอมจ่ายเงิน คนหนึ่งก็จะเบี่ยงเบนความสนใจ เปิดโอกาสให้เพื่อนฉกทรัพย์สินมีค่าในกระเป๋า แม้นักท่องเที่ยวไปแจ้งความ ตำรวจก็ไม่สามารถจับกุมคนกลุ่มนี้ได้ เพราะหลังจากฉกทรัพย์สินนักท่องเที่ยวแล้ว ก็จะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือสับเปลี่ยนตัวคนขายที่เป็นเพื่อนร่วมขบวนการมาแทน ส่วนทรัพย์สินที่ได้ก็จะนำไปแบ่งกัน

           "ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ส.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกฉกเงินในกระเป๋าไปหมื่นกว่าบาท กว่าจะรู้ตัวและเข้าแจ้งความ คนขายอาหารนกก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ฝรั่งจำหน้าไม่ได้ จำได้แค่เป็นผู้หญิงอ้วน เตี้ย ดำ ใส่เสื้อยืดสีขาว พอมาแล้วก็ไม่เจอ" ผู้ที่ร้องเรียนกล่าว และทิ้งท้ายด้วยว่า  "คนขายของแถวนั้นรู้ดี แต่ใครล่ะจะกล้าชี้ตัวและเป็นพยาน"

           ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า บริเวณท้องสนามหลวงมีผู้ขายอาหารนกจำนวน 4-5 ราย บางรายมีพฤติกรรมที่ส่อแววคล้ายกับที่ไดรับการร้องเรียน คือ จะใช้วิธีพยายามเดินเข้าประชิดตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติพูดโน้มน้าวให้ซื้ออาหารนก หากนักท่องเที่ยวบ่ายเบี่ยงคนขายจะยิ่งตามประกบชิดตัวตลอด ตามตอแย จนนักท่องเที่ยวเกิดความรำคาญต้องยอมซื้ออาหารนกเพื่อตัดปัญหา แต่ก็ยังไม่พบเห็นพฤติกรรมฉกทรัพย์  




           อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย สวป.สน.ชนะสงคราม เจ้าของท้องที่ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาแจ้งความที่สน.ชนะสงคราม ว่า ถูกมิจฉาชีพฉกทรัพย์จริง ตกประมาณ 10 รายต่อเดือน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงลงบันทึกประจำวันเท่านั้น ไม่ได้เรียกร้องหรือให้ดำเนินคดี  แต่ทาง สน.ชนะสงคราม ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสายตรวจ นอกเครื่องแบบออกตรวจตราความเรียบร้อยและปรามไม่ให้กลุ่มผู้ขายอาหารนกสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจกับนักท่องเที่ยว และหากตรวจพบว่ามีการพูดจาข่มขู่ ละเมิดสิทธิ ตำรวจจะจัดการดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

           "นักท่องเที่ยวเองก็ต้องเข้าใจด้วยว่าแม้จะสามารถจับตัวผู้ค้าที่กระทำผิดได้ แต่ตามกฎหมายถือเป็นความผิดลหุโทษ ในเรื่องของการก่อความเดือดร้อน ปรับไม่เกิน 1 พันบาท ซึ่งหมายความว่าบทลงโทษไม่ร้ายแรงผู้ค้ามีสิทธิ์กลับมาขายอาหารนกใหม่ได้ กลุ่มผู้ค้าจะอ้างเหตุผลว่าพื้นที่ท้องสนามหลวงเป็นพื้นที่สาธารณะ รัฐไม่มีสิทธิมาจำกัดพื้นที่หรือขอบเขตได้" พ.ต.ท.พรศักดิ์ กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้การปราบปรามไม่ค่อยได้ผล 

           ขณะที่ นายมานิต เตชอภิโชค รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า   ตามกฎหมายพื้นที่ท้องสนามหลวงเป็นพื้นที่สาธารณะ ประชาชนมีสิทธิตามหน้าที่ในการเข้ามาใช้ประโยชน์ แต่กลับพบว่าการเข้ามาครอบครองพื้นที่เป็นไปในทิศทางที่เสียหาย  กลุ่มผู้ค้าขาดจิตสำนึก ทาง กทม.จึงเร่งมอบหมายให้ทางสำนักงานเขตพระนคร ออกแจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาบริเวณพื้นที่สนามหลวง ไม่ให้สนับสนุนซื้ออาหารให้กับนกพิราบ เพราะถ้าประชาชนหรือนักท่องเที่ยวให้อาหาร จะทำให้นกมีเพิ่มมากขึ้น และอุจจาระเรี่ยราดส่งผลกระทบกับสภาพแวดล้อมและภูมิทัศน์ ทำลายทรัพย์สินของรัฐฯ เช่น หลังคาโบสถ์วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง ให้ได้รับความเสียหาย  ซึ่งหากซ่อมแซมก็ต้องใช้งบประมาณสูง  ดังนั้นเมื่อกทม.ออกกฎระเบียบควบคุมตามกฎหมายแล้ว  ประชาชนและนักท่องเที่ยวควรให้ความร่วมมือร่วมใจไม่สนับสนุนกลุ่มผู้ค้า เพื่อช่วยสร้างเมืองหลวงของประเทศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามตลอดไป

           ส่วนนางสมศรี (นามสมมติ) ผู้ขายอาหารนก บริเวณสนามหลวง กล่าวว่า  เชื่อว่ารัฐฯ ไม่มีอำนาจสั่งให้ผู้ค้าเลิกขายได้ และจะไม่เลิกขายเด็ดขาด เพราะพื้นที่ท้องสนามหลวงเป็นพื้นที่สาธารณะ ประชาชนทุกคนมีสิทธิกระทำการใดๆ ได้ แม้จะถูกตำรวจจับไปเรียกให้เสียค่าปรับกี่ครั้งก็ไม่สนใจ จะกลับมาขายอาหารนกที่ท้องสนามหลวงต่อไป  เพราะไม่ได้คิดทำผิดหรือหลอกลวงใคร

           "ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ทุกคนมองว่าคนขายอาหารนกเป็นผู้หลอกลวง โกงเงินนักท่องเที่ยวนั้นไม่เป็นเรื่องจริงเด็ดขาด ภาษาอังกฤษยังพูดไม่เป็นเลยแล้วจะไปหลอกพวกเขาได้ยังไง จึงอยากให้เข้าใจว่าในสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี ก้อนเนื้อไหนที่ร้ายให้ตัดทิ้งไปอย่าเหมารวมหมด" นางสมศรี กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มิจฉาชีพสนามหลวง ขายอาหารนกบังหน้า โกง-ฉกทรัพย์ อัปเดตล่าสุด 6 กันยายน 2552 เวลา 16:39:37 6,723 อ่าน
TOP