พล.ต.ท.กฤษณะ ผลอนันต์เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการป.ป.ส.) กล่าวว่า จากการประมาณการของสำนักงาน ป.ป.ส. พบว่า หากสามารถนำผู้เสพเข้าสู่ระบบสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการชุมชนบำบัดประชาสังคม ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ค่ายในชุมชนฯลฯ ให้ได้ประมาณ 120,000 คนใน 6 เดือน ปัญหายาเสพติดจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2552 ที่รัฐบาลโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน 7 โครงการหลัก พบว่า มีผู้เข้ารับการบำบัดไม่มากเท่าที่ควร ส่วนใหญ่เป็นผู้ถูกบังคับบำบัด ผู้ที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดยังมีน้อย นับจากนี้ ภาครัฐ ภาคประชาสังคม จะต้องร่วมมือกันนำผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลเปิดโอกาสให้มีการบำบัดรักษาแบบสมัครใจ ผู้เข้ารับการบำบัดจะไม่มีประวัติเสีย ไม่มีโทษ โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้ที่ต้องการเข้ารับการบำบัดรักษาสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และคลินิกยาเสพติดทุกแห่งในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือสถาบันธัญญารักษ์ กระทรวงสาธารณสุข ส่วนผู้ที่อยู่ในต่างจังหวัดสามารถติดต่อเข้ารับการบำบัดรักษาได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง หรือโทรปรึกษาสายด่วน 1165 ฟรีทั่วประเทศ
เลขาธิการ ป.ป.ส. ย้ำว่า ภายหลังจากผ่านการบำบัดรักษาแล้ว ผู้ผ่านการบำบัดฯ สามารถเลิกยาเสพติดอย่างเด็ดขาดและเป็นคนดีของสังคมได้ เพียงแต่ครอบครัว ชุมชน และสังคม ต้องให้กำลังใจ ให้โอกาสทางการศึกษา โอกาสในการทำงานประกอบอาชีพ เราทุกคนจึงต้องไม่สร้างแรงกดดันให้ผู้ผ่านการบำบัดฯ ตรงกันข้าม ต้องช่วยกันสนับสนุนและสร้างแรงใจให้ผู้ผ่านการบำบัดฯ เข้มแข็งและใช้ชีวิตในสังคมได้โดยไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก
