รวบแก๊งเงินกู้ รีดดอกโหด ร้อยละ 60 ต่อเดือน (ไทยรัฐ)
ได้ผู้ต้องหา 9 คน พร้อมของกลางเงินสดเกือบ 1 แสนบาท พบผู้ต้องหารับเงินมาจากนายทุนจาก จ.สุราษฏร์ธานี มาปล่อยกู้ต่อ ผบก.ภ.จว.กระบี่ กำชับให้กวดขันติดตามจับกุมเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (11 ก.ย.) ว่า เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ พ.ต.ท.สุขเกษม นครวิไล รอง ผกก.ป.พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาปล่อยเงินกู้โหด มีผู้ต้องหารวม 9 คน พร้อมของกลางประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เงินสด 97,000 บาท รถยนต์กระบะ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คน สัญญาเงินกู้จำนวน 200 ฉบับ บัญชีรายชื่อลูกค้าเงินกู้ 2 แฟ้ม สัญญาเงินกู้ 8 เล่ม และตู้เซฟ 1 ตู้ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (พรบ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 ) โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งจากแม่ค้าในย่านอ่าวนางว่า มีผู้ปล่อยดอกเบี้ยเงินกู้โหดในอัตราร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 60 ต่อเดือน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามจับกุมได้รวม 5 ราย ผู้ต้องหา 9 คน โดย 2 ใน 5 รายนั้นพบว่าใช้รถยนต์กระบะตามเก็บดอกเบี้ยดังกล่าว และนอกจากนั้นพบว่าที่บ้านของนายดำรงศักดิ์ ขจรกลาง ซึ่งเช่าบ้านเลขที่ 66 ถ.เหมทานนท์ ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ มีตู้เซฟเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเงินสด 63,000 บาทซุกซ่อนอยู่ภายในจึงได้ตรวจยึดไว้ด้วย
พ.ต.ท.สุขเกษม นครวิไล รอง ผกก.ป.กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาในเบื้องต้นพบว่าทั้งหมดมีลูกค้าประมาณ 200 ราย เป็นเงินรวมกันประมาณ 1.5 ล้านบาท จากการสอบสวนในเบื้องต้นนั้นพบว่า มีผู้ต้องหารับเงินมาจากนายทุนจาก จ.สุราษฏร์ธานีรายหนึ่งเพื่อปล่อยกู้ด้วย และจากการจับกุมผู้ต้องหาในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีด้วยกัน 45 รายแล้ว ยอดเงินที่ปล่อยกู้คาดว่ามีประมาณ 7.5 ล้านบาท ซึ่งหากไม่จับกุมแม่ค้าทั้งหมดต้องจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยวันละประมาณ 3 แสนบาท
ขณะที่ พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ภ.จว.กระบี่ กล่าวว่า แก๊งทวงหนี้โหดนี้มีด้วยกันจำนวนมาก ซึ่งทางตนได้กำชับไปยังตำรวจต่างอำเภอให้กวดขันติดตามจับกุมด้วย เพราะเชื่อว่ายังมีอีกมาก ส่วนการดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาศาลได้ตัดสินปรับรายละ 500 บาท และรอลงอาญานั้น ทางตำรวจจะพิจารณาหาข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เพื่อให้มีโทษหนักขึ้น เช่น เป็นซ่องโจร หรืออั้งยี่หรือไม่ หรือผู้ใดมีประวัติอาชญากรรม ก็จะดำเนินการได้เด็ดขาด มีโทษสูงขึ้น
ด้านนายป้อมเพชร สุคนธกนิฐ รองนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ซึ่งเดินทางไปที่การแถลงข่าวด้วย กล่าวว่า ทางเทศบาลซึ่งขณะนี้ต้องการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเรื่องเงิน ล่าสุดนี้ได้รับรางวัลตลาดดีเด่นมีเงินรางวัล 2 ล้านบาท นำเข้าไปสู่ระบบให้ประชาชนแม่ค้าพ่อค้ากู้ยืม มียอดรวม 3 ล้านกว่าบาท คิดอัตราร้อยละ 1 บาทต่อเดือน หากผู้ใดเดือดร้อน ก็ขอให้ติดต่อได้ที่เทศบาลเมืองกระบี่
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
