x close

เก้า หนุ่มขี้อาย แต่ไม่ไร้ความคิด

เก้า จิรายุ ละอองมณี
เก้า จิรายุ ละอองมณี


เก้า หนุ่มขี้อาย แต่ไม่ไร้ความคิด (เดลินิวส์)

กาญจนา สิทธิเม่ง รายงาน

          เด็กผู้ชายคนนี้เข้าวงการตั้งแต่อายุ 7 ขวบ แต่วันนี้ เก้า จิรายุ ละอองมณี โตเป็นหนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และวันนี้ เก้า ก้าวขึ้นเป็นหนุ่มเนื้อหอมคนใหม่ของวงการกับผลงานภาพยนตร์เรื่อง 5 แพร่ง ที่เราต้องยอมรับว่าสร้างชื่อให้กับหนุ่มเนื้อหอมคนใหม่ของเรามากทีเดียว และเมื่อเนื้อหอมขนาดนี้เราจึงไม่รอช้า รีบจัดหาคิวของน้องเก้า มานั่งพูดคุยเอาใจวัยรุ่นกันเสีย ซึ่งตอนนี้น้องเก้า นั่งอยู่กับเราแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าเสียเวลาไปคุยกับน้องเก้าหน้าใส ของเรากันเลยดีกว่า

นี่ดูเป็นหนุ่มขึ้นนะครับ สาว ๆ เข้ามากรี๊ดเยอะล่ะซิ ?

          เก้า จิรายุ : ครับก็มีคนเข้ามาทักทายมากขึ้น ก็มีแบบตื่นเต้นเหมือนกันครับเพราะเมื่อก่อนไปไหนมาไหน คนเข้ามาทักทายก็แบบว่าเอ็นดูเราปกติ เพราะว่าผมเป็นคนไม่โดดเด่นอะไร แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีคนมาทักเยอะ ก็แปลกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เยอะมากจนน่าตกใจ อยู่ในขั้นที่พอรับได้ครับ กำลังรู้สึกดี

มาเล่นหนังผีเรื่อง 5 แพร่ง เจออะไรประหลาดบ้างไหม ?

          เก้า จิรายุ : กลัวผีนะครับ แต่ตอนถ่ายไม่เจออะไร เพราะคนเยอะ แต่มันยากครับเราต้องแสดงอาการให้กลัวทั้งที่เราไม่กลัว แต่เรื่องเจอผมว่าบางทีเรา อาจจะคิดไปเอง สร้างจินตนาการขึ้นมาเอง แต่มันก็อาจจะมีจริง ๆ ก็ได้ แต่ผมเชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรมมากกว่า คือผมไม่ได้ลบหลู่นะครับ ผมคิดว่าถ้าใครทำไม่ดีไว้ก็อาจจะเจออะไรแบบนี้ แต่ถ้าคนทำดี ก็คงไม่เจออะไรแบบนี้ เราก็อยู่ส่วนเรา เขาก็อยู่ส่วนเขา

เป็นคนชอบคาดหวังอะไรหรือเปล่า ?

          เก้า จิรายุ : ไม่ครับ ผมรับงานมาก็ทำงานเต็มที่ พองานจบก็ทิ้งเลย ไม่คิดเรื่องมันอีก เราถือว่าเราได้ทำเต็มที่แล้ว และวันที่หนังออกฉาย คือวันที่เหมือนเราเข้าห้องสอบ ว่าคะแนนจะออกมาเป็นยังไง ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร ดีก็ดี ไม่ดีก็จำเอาไว้ว่า เออ ถ้าเราทำดีกว่านี้ได้ เราก็ต้องแก้ตัวใหม่ในคราวหน้า พ่อ แม่ ไม่คาดหวังในตัวผมเท่าไร คือได้เข้ามาทำงานในวงการนี้ก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิตแล้วครับ

จริง ๆ เลยนะ ชอบไหมงานในวงการ ?

          เก้า จิรายุ : ก็ชอบส่วนหนึ่งครับ ไม่งั้นคงไม่ทำมาถึงขนาดนี้ แต่แรก ๆ ที่ไม่ชอบเพราะว่าเหนื่อย อาจจะเพราะว่าตอนนั้นเราเด็กด้วย แต่พอเราโตขึ้นเราได้เจอคนเยอะขึ้น มันก็สนุกขึ้นครับ

จริง ๆ โตขึ้น เก้าอยากเป็นอะไร ?

          เก้า จิรายุ : ก็หลายอย่างมากครับ ตั้งแต่เด็กแต่มันก็เปลี่ยนมาเรื่อย ๆ เมื่อก่อนก็อยากเป็นทหาร อยากเป็นหน่วยคอมมานโด เห็นแล้วมันเท่ดี มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผมก็เคยคิดอยากเป็น เพราะคิดว่ามันอิสระดี ไม่ต้องพึ่งพาใคร มีมอเตอร์ไซค์คันเดียวหาตังค์ได้แล้ว ได้เจอคนเยอะดี นั่นเป็นความคิดตอนเด็ก ๆ ครับ แล้วอีกอย่างที่อยากเป็นคือนักบิน เพราะพ่อปลูกฝังไว้เยอะ แต่ตอนนี้อยากเปิดร้านครับ อยากเปิดร้านที่มันสื่อถึงความเป็นตัวเรามากที่สุด แต่ก็ยังคิดไม่ออกนะครับ ว่าจะเปิดร้านขายอะไรดี

เก้า บอกว่าอยากเปิดร้านที่เป็นตัวเอง แล้วตัวเก้าเองจริง ๆ เป็นคนยังไง ?

          เก้า จิรายุ : พูดไม่ถูกครับ ก็คงเป็นคนสบาย ๆ คือผมคิดว่าไม่จำเป็นว่าจะต้องมีความสุขในชีวิตด้วยการมีเงิน ผมได้แรงบันดาลใจจากข่าวที่ผมเห็น ประเทศที่เขาจนที่สุดในโลก แต่เขาก็มีความสุขที่สุดในโลกเหมือนกัน คือคนเราไม่จำเป็นที่จะต้องแก่งแย่งแข่งขันกัน เราดูจากไม่ว่าจากในวงการนี้หรือว่าวงการไหน คือเงินมันก็จำเป็นที่เราจะใช้ในการดูแลตัวเอง และคนรอบข้าง แต่ถึงจุดหนึ่งถ้าเรารู้จักพอสักนิด ใช้ชีวิตพอเพียงแบบที่ในหลวงว่า ผมว่าเราจะพัฒนาขึ้นนะ ถ้าไม่เห็นแก่ตัว

มีงอแงไหม ว่าวันนี้เหนื่อย ไม่ทำงานแล้วแม่ ?

          เก้า จิรายุ : เมื่อเด็ก ๆ มีบ้างครับ แต่ตอนนี้ไม่มีเลย เราโตแล้ว ถึงจะเหนื่อย  ก็ต้องทำเพราะเรารับงานไว้แล้ว แต่แม่ผมไม่ใช่แบบที่ว่า คือผมเข้าวงการได้เพราะมีคนให้โอกาส แต่ไม่เคยอยากอะไร แม่ผมสอนว่ามีงานก็ทำ ไม่มีงานเราก็ต้องอยู่ให้ได้ แต่ถ้ามีงานเราต้องทำนะ ลองคิดดูไม่ทำงานก็ได้ แต่แม่ก็ต้องไปทำงานเป็นครู เก้าก็เรียนปกติไป ลองคิดกลับกันว่า อาชีพเนี้ย ที่คนอื่นเขาอยากเป็นกัน แต่ไม่ได้เป็น แต่เรามีโอกาสแล้ว เรื่องเงินเรื่องอะไร เราหาได้สะดวก มันคุ้มกว่าที่เราจะยอมเสียโอกาสไป ก็คิดว่าเออ เรายอมเหนื่อยตั้งแต่ตอนนี้ ต่อไปเราและครอบครัวเราจะสบาย คือแม่ผมสอนจนผมเข้าใจ

ภูมิใจไหม มาถึงวันนี้ ?

          เก้า จิรายุ : ภูมิใจครับ ผมเห็นแม่ยิ้มได้ ผมก็ภูมิใจแล้ว จริง ๆ ผมเป็นคนดื้อด้วย บางทีการได้มาทำงานได้ทดแทนในสิ่งที่ผมได้ทำไม่ดีไว้กับพ่อแม่เยอะ พอผลงานออกมาผมได้ เห็น พ่อ แม่ ยิ้มได้ ผมก็ปลื้มใจแล้วครับ

เรามีฮีโร่ ในดวงใจเราไหม ?

          เก้า จิรายุ : ก็หลาย ๆ คนครับ ที่ทำตัวดีทั้งในจอและนอกจอ อย่างพี่เคน-ธีรเดช ครับ และมีอีกหลายคนที่เคยร่วมงานด้วย คือผมคิดว่าเราเจอพี่เขาแล้วเราประทับใจ ถ้าโตขึ้นเราเป็นได้อย่างพี่เขา คนอื่นเจอเราเขาก็คงประทับใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากเป็นแบบเขาทุกอย่าง คืออยากให้คนเห็นเราที่มีความเป็นตัวเราอยู่ด้วย

ขอถามถึงสเปกสาว ๆ หน่อย มีกับเขาบ้างไหม ?

          เก้า จิรายุ : ผมก็ไม่มีสเปกอะไร แต่ถ้าเน้นได้ผมเน้นนิสัยมากกว่าครับ หน้าตาผมว่ามันเป็นเรื่องไม่ค่อยซีเรียสเท่าไร ไม่สวยก็ศัลยกรรมก็ได้ แต่คนดีมันหายาก นิสัยเข้าใจเราหน่อย เพราะผมไม่ใช่คนที่จะให้เวลาได้เต็มที่ เพราะต้องทำงานและอีกอย่างแม่ผมหวงด้วย ก็คงให้เข้ากับแม่ได้ไว้ก่อนแล้วกัน ขอเป็นคนที่แบบช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ไม่ต้องรอเราตลอด แบ่งเบาเราได้บ้าง มีงานอะไรก็ช่วยกันทำ หรือว่าในเรื่องเรียนถ้าเขาช่วยเราได้จะดีมากครับ

คำถามสุดท้าย คิดว่าตัวเองเป็นหนุ่มเนื้อหอมมั้ย ?

          เก้า จิรายุ : ก็คิดกลาง ๆ ผมยังไม่โตเต็มที่ รอดูตอนโตแล้วกันครับ ไม่อยากพูดอะไรมากครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมหลงตัวเอง (ยิ้มแบบเขิน ๆ )

          ถึงแม้วันนี้ เก้า จะอายุแค่ 14 แต่ความคิดความอ่านเราต้องยอมรับว่าเขาโตกว่าอายุมาก ส่วนเรื่องงานเราก็ต้องยอมรับว่าฝีไม้ลายมือของเก้านั้นก็ไม่ธรรมดา เอ๊า...จับตาดูให้ดี หนุ่มคนนี้อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาจะครองใจสาว ๆ ทั้งประเทศอย่างแน่นอน


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เก้า หนุ่มขี้อาย แต่ไม่ไร้ความคิด โพสต์เมื่อ 12 กันยายน 2552 เวลา 18:18:57 10,002 อ่าน
TOP