ม.5 แจ้งความ-ร้องสื่อ ถูกไฟฟ้าตู้ฮัลโหลช็อต (เดลินิวส์)
วานนี้ ( 25 ก.ย.) นาง ชลลดา ธนารีย์ฐิติชญา อยู่บ้านเลขที่ 21/943 ซอยอินทปัท ถนนเพชรเกษฒ 69 แขวงและเขตบางแค ได้พา น.ส.มุขสุดา หรือ น้องมุข จันทร์ศรัทธาวุฒิ อายุ 15 ปี ลูกสาว นักเรียน ชั้น ม.5/3 โรงเรียนราชวินิตบางแคปานขำ เดินทางเข้าร้องเรียนว่า ลูกสาวได้ไปใช้บริการเติมเงินจากตู้โทรศัพท์สาธารณะ บริเวณหน้าเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาพุทธมณฑลสาย 2 แขวงและเขตบางแค แต่ถูกไฟฟ้าภายในตู้ช็อต ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารักษาที่ห้องไอซียู รพ.นครธน แต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัท โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา
นางชลลดา เผยว่า วันเกิดเหตุลูกสาวใช้บริการตู้โทรศัพท์เพื่อจะเติมเงินโทรศัพท์มือถือ ขณะที่อยู่ในตู้โทรศัพท์ได้ร้องกรี๊ดเสียงดังก่อนจะเงียบไป คนที่อยู่ใกล้เคียงออกมาดูพบว่าลูกยืนนิ่งพูดไม่ได้เหมือนคนเป็นอัมพาตไปทั้งตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักลูกรู้สึกตัวแล้วบอกว่าถูกไฟช็อตที่แขนซ้ายที่ถือหูโทรศัพท์ ตนจึงได้พาลูกไปที่รพ.นครธน ซึ่งแพทย์ได้นำตัวเข้าห้องไอซียูทันทีพร้อมระบุว่าถูกไฟฟ้าช็อต ต้องมีการปั้มหัวใจเพราะอัตราการเต้นชีพจรต่ำกว่าปกติ อีกทั้งเกรงว่าออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ซึ่งนอนรักษาตัว 2 วัน ก่อนจะกลับบ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นต้องเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง เสียค่ารักษาไปแล้วกว่า 1 แสนบาท
นางชลลดา กล่าวต่อว่า ช่วงที่เกิดเหตุได้แจ้งไปยังบริษัทซึ่งมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้พร้อมกับมาหาตนที่โรงพยาบาลเพื่อชดเชยค่ารักษาพยาบาลแต่ได้หายเงียบไป จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะจ่ายค่าชดเชย 5 พันบาท ทำให้ตนรู้สึกไม่พอใจเนื่องจากชีวิตของลูกสาวตนไม่ควรที่จะมีค่าเท่านั้น เพราะเสียค่ารักษาพยาบาลไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งก่อนหน้านี้ลุกสาวเป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 ด้านภาษาไทย ระดับ กทม.มาแล้ว แต่ทุกวันนี้เป็นคนขี้หลงขี้ลืม ร่างกายอ่อนแอ โดยแพทย์บอกว่าลูกตนโชคดีมากที่รอดมาได้จากไฟช็อต ตนจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ ร.ต.ท.ธีรเดช กาญวิจิตร ร้อยเวร สน.เพชรเกษม เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมทางกฎหมายต่อไป
น.ส.มุขสดา เล่าว่า ทุกวันนี้ตนต้องเข้ารักษาโรงพยาบาลบ่อยมาก ส่วนร่างกายก็ยังรู้สึก อ่อนแรงทางด้านซ้าย ซึ่งเป็นด้านที่โดนไฟช็อต บางครั้งรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นช้าจนแทบยืนไม่อยู่ ความจำ บางครั้งก็กลายเป็นคนขี้หลงขี้ลืม เดิมเคยเป็นคนชอบวิ่งออกกำลังกายแต่ตอนนี้ไม่สามารถที่จะวิ่งได้เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องหัวใจ ตนรู้สึกสงสารแม่มากที่ต้องมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลมากขนาดนี้ อีกทั้งยังถูกเจ้าหน้าที่บริษัทที่อ้างว่าเป็นตำรวจระดับนายพลข่มขู่ให้รับเงินก้อนดังกล่าว หากไม่รับก็ให้ไปแจ้งความเรียกร้องเอาเอง ทำให้ตนและแม่ต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้ทราบว่าที่ตู้โทรศัพท์ดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟช็อต คนอื่นมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่รุนแรงเท่าตน อีกทั้งหลังเกิดเหตุได้มีการทำสายดินมากลบเกลื่อนแล้วด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
