ศาลสั่งจำคุก2ปี ภารโรง ขโมยลายพระหัถต์ (ไทยรัฐ)
ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ วันที่ 5 ต.ค. ศาลมีคำพิพากษาสองสำนวน ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทนงศักดิ์ หรือ อี๊ด ฮวดศรี อายุ 49 ปี อาชีพนักการภารโรง เป็นจำเลยฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการและที่สาธารณะ ให้ชดใช้ราคาคืน 6 ล้านบาทเศษ และสำนวนที่สอง พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายสกล หรือเอ ใจสมคม อายุ 36 ปี พ่อค้าขายของเก่า เป็นจำเลยฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการและที่สาธารณะ เอาไปซึ่งเอกสารสิทธิ์ หรือรับของโจร พร้อมให้ใช้ราคาทรัพย์สิน 6 ล้านบาทเศษ เหตุที่แยกฟ้อง เพราะ นายทนงศักดิ์ รับสารภาพตลอด ส่วนนายสกล ให้การปฏิเสธ แต่มายอมรับสารภาพในชั้นพิจารณา
คำฟ้องทั้งสองสำนวน มีใจความสอดคล้องกันว่า เมื่อระหว่างเดือน ก.ย. 2551-31 พ.ค. 2552 จำเลยกับพวกที่หลบหนี ได้ลักทรัพย์ต้นฉบับลายพระหัตถ์ส่วนพระองค์ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีไปถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยนายทนงศักดิ์ เอาไป 469 แผ่น นายสกลเอาไป 634 แผ่น ที่กรมศิลปากรตีราคากลางไว้มูลค่าแผ่นละ 35,000 บาท ไปจากอาคารหอสมุดกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตพญาไท กทม. ซึ่งเป็นเอกสารต้นฉบับมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเป็นมรดกทางวัฒนธรรม
โดยจำเลยได้ลักทรัพย์หรือรับของโจรมาแล้ว ได้นำไปจำหน่ายในพื้นที่เขตจตุจักร (ตลาดจตุจักร) เขตป้อมปราบ (ตลาดคลองถม) เขตบางรัก (ย่านร้านค้าของเก่า) และมีผู้พบเห็นซื้อไปแล้วนำมาแจ้งตำรวจ หรือลักลอบส่งคืนตำรวจทางไปรษณีย์โดยไม่ประสงค์ออกนามจำนวนมาก ตำรวจจึงเริ่มสืบสวนแล้วจับกุมนายทนงศักดิ์ ได้ที่เคาน์เตอร์ ห้องสมุดกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และจับนายสกล ได้ที่บ้านเลขที่ 4 ถนนคอนเมือง อ.เมือง ประจวบคีรีขันธ์ แล้วยึดทรัพย์สินที่โจรกรรมมาได้นับร้อยรายการ แต่ยังขาดหายไปอีกหลายร้อยรายการ
ทั้งนี้ บัญชีของกลางท้ายฟ้องมีดังนี้ ต้นฉบับลายพระหัตถ์ รัชกาลที่ 5 มีถึงสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อ ร.ศ. 115 เรื่องการเลือกผู้พิพากษา , ฉบับวันที่ 4 พ.ค. ร.ศ. 118 เรื่องผู้พิพากษามณฑลภูเก็ตมีความผิด , ฉบับวันที่ 15 ธ.ค. ร.ศ. 118 เรื่องพระนางเจ้าดารารัศมี บอกว่ามีพระดีที่วัดพระสิงห์ , ฉบับวันที่ 3 พ.ย. ร.ศ. 121 เรื่องการจัดทัพไปปราบกบฏเงี้ยว , ฉบับวันที่ 3 ธ.ค. ร.ศ. 121 เรื่องเรือรบอังกฤษ 2 ลำชื่อ เรือรบหลวงอาลเบียนแอดมิเกลกับเรือรบหลวงบริตเตนม๊าก จะมาถึงอ่าวไทย , ฉบับวันที่ 13 มี.ค. ร.ศ.122 เรื่องสัญญาปักปันเขตแดนซึ่งกองทหารฝรั่งเศลไม่ยอมถอนออกไปจากเมืองจันทบุรี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีลายพระหัตถ์ของรัชกาลที่ 6 และนามบัตรส่วนพระองค์ รูปถ่าย จดหมายมีลายพระหัตถ์ของรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 เป็นต้น โดยนายทะนงศักดิ์ ให้การรับสารภาพฐานรับของโจร ส่วนนายสกล ให้การว่า ตนเป็นพ่อค้าของเก่า ไม่ทราบว่าของดังกล่าวได้มาจากการโจรกรรม แต่ถ้าคดีฟังได้ว่าเป็นการโจรกรรมก็ขอรับสารภาพฐานรับของโจร โทษสถานเบา
ศาลพิเคราะห์ว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง แต่จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร จึงลงโทษจำคุกนายทนงศักดิ์ 4 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนนายสกล ศาลลงโทษจำคุก 4 ปี รับสารภาพเหลือ 2 ปี แต่ให้บวกโทษเก่าข้อหาโจรกรรมอีก 2 เดือน รวมจำคุก 2 ปี 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ให้ออกหมายขังจำเลยทั้งสองไว้ โดยที่จำเลยทั้งสองไม่ขอยื่นประกันตัวแต่อย่างใด
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
