บารัก โอบามา
บารัก โอบามา
หักปากกาเซียน "บารัก โอบามา" คว้าโนเบลสันติภาพ (ไทยรัฐ)
ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ บารัก โอบามา คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอันทรงเกียรติไปครอง ชนิดหักปากกาเซียนทุกสำนัก
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานผลประกาศรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ประจำปี 2552 จากกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เมื่อเวลา16.00 น. วันศุกร์ที่ 9 ต.ค. ตามตามเวลาไทย ผลรางวัลค่อนข้างพลิกความคาดหมายของหลายคน โดยผู้คว้ารางวัลนี้ ได้แก่ ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐอเมริกา ซึ่งเพิ่งนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐได้ไม่ถึง 1 ปี จากฐานะความพยายามดำเนินกระบวนการด้านการทูตบนเวทีโลก สร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นแก่ประชาคมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามยุติอาวุธนิวเคลียร์ ก่อให้เกิดความหวังแก่ประชาคมโลกเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น
ปีนี้มีผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอันทรงเกียรติที่สุด ของโลก 205 ราย การมอบรางวัลปีนี้เน้น "ตัวบุคคลมากกว่าองค์กร" จึงทำให้ตัวเลือกลดลงเหลือ172 ราย ซึ่งคณะกรรมการตัดสินมอบรางวัลโนเบลช่วงสุดท้าย 5 คน จะไม่แพร่งพรายการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจนถึงเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนกำหนดการประกาศชื่อผู้ชนะในเวลา 11.00 น. วันศุกร์ที่ 9 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่นนอร์เวย์
ตัวเต็งคว้ารางวัลอันดับต้น ๆ ก่อนหน้านี้ ได้แก่ นายกรัฐมนตรีมอร์แกน สวานกิราย แห่งซิมบับเว นายเปียดาด คอร์โดบา วุฒิสมาชิกโคลอมเบีย นายหู เจี่ย นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนชาวจีน ซึ่งอยู่ระหว่างถูกจำคุกนาน 3 ปีครึ่ง จากข้อหาปลุกระดมโค่นล้มรัฐบาลจีน ในช่วงก่อนกีฬาโอลิมปิคปักกิ่ง 2008 ซึ่ง นายหู เจี่ย ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพด้วยเมื่อปีที่แล้ว แต่ผู้คว้ารางวัลไปครองคือ นางมาร์ตตี อัชติสซาอารี อดีตประธานาธิบดีฟินแลนด์ ผู้ทำหน้าที่ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยสันติภาพมาตลอดหลายสิบปี
นอกจากนั้น ตัวเต็งชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2552 คนเด่น ๆ อีกคือ นางอินกริด เบตันคอร์ต นักการเมืองเชื้อสายฝรั่งเศส-โคลอมเบีย นางไซมี ซามาร์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ชาวอัฟกานิสถาน เจ้าชายกาห์ซี บิน มูฮัมหมัด แห่งจอร์แดน คนโดดเด่นที่สุดของปีนี้คือ นายมอร์แกน ซวานกิราย อดีตนักเคลื่อนไหวสหภาพการค้า ที่เคยลั่นสัญญาสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร่วมกับรัฐบาลรวมชาติของมูกาเบ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2552 ว่า จะเด็ดอำนาจเผด็จการของประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ ที่ยึดครองประเทศ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองในแอฟริกาตอนใต้
เหล่านักสังเกตการณ์ชี้ว่า ปีนี้จริง ๆ แล้วไม่มีใครโดดเด่นเตะตามากที่สุด อีกทั้งช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็ไม่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งครั้งสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงการแก้ปัญหาด้วยสันติภาพแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการตัดสินมอบรางวัลโนเบล ได้ขยายขอบเขตของรางวัลสาขาสันติภาพไปในเรื่องของส่ิงแวดล้อม การต่อสู้ลดภาวะโลกร้อน และการแก้ปัญหาความยากจนด้วย
ซึ่ง นางแจน เอจแลนด์ ผอ.สถาบันกิจการระหว่างประเทศนอร์เวย์ หนึ่งในกลุ่มคนกลางข้อตกลงออสโลระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เผยว่า การขยายขอบเขตของรางวัลคือการฉีกแนวคิดเดิมของคำว่า "สันติภาพ" เป็น "ส่ิงที่ควรกระทำ" แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ควรมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพให้กับเหตุการณ์ดี ๆ ทุกอย่างบนโลก
การประกาศมอบรางวัลโนเบล ประจำปี 2552 เริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ 5 ต.ค. ประเดิมด้วยสาขาแพทย์ ตามด้วยสาขาฟิสิกส์ สาขาเคมี สาขาวรรณกรรม สาขาสันติภาพ และปิดท้ายด้วยสาขาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งกำหนดประกาศรางวัลในวันจันทร์ 12 ต.ค. ผู้คว้ารางวัลโนเบลของแต่ละสาขา จะได้รับเหรียญและใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมกับเงินรางวัล 10 ล้านโครเนอร์ หรือเกือบ 50 ล้านบาท
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
