x close

นาทีต่อนาที อภิสิทธิ์ ฝ่าม็อบ เสื้อแดง หอบ 4.9 ล้านมอบ ยายไฮ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


นาทีต่อนาที อภิสิทธิ์ ฝ่าม็อบ เสื้อแดง หอบ 4.9 ล้านมอบ ยายไฮ (มติชน)

          เวลา 07.30 น. นายพิเชษฐ์ ดาบุดดา หรืออาจารย์ต้อย แกนนำกลุ่มเสื้อแดงชักธงรบ มีรถในขบวนกว่า 120 คัน ประมาณ 1,600 คน โดยกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนขบวนไปตามถนนในตัวเมืองอุบลราชธานีไปหยุดอยู่ ด้านหน้าสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี จากนั้นเปิดฉากกล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ โดยระบุมาจากการทำคลอดของทหาร

          เวลา 08.10 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพบกมาถึงสนามบินกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี จากนั้นนายอภิสิทธิ์นำคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่กองทัพเตรียมไว้ 2 ลำ มุ่งหน้าไปยังศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร

          เวลา 08.20 น. กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนขบวนออกจากสนามบินนานาชาติอุบลราชธานีไปยังพื้นที่เป้าหมายนั่นคือศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ต.ทรายมูล

          ขณะเดียวกันกลุ่มเสื้อแดงจาก จ.นครราชสีมา เชียงใหม่ และศรีสะเกษ อีกกลุ่ม นำโดย นางสุทธินี มุทุวงศ์ เป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รออยู่ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เข้าสมทบกับกลุ่มชักธงรบ เสรีชนและกลุ่มเสื้อแดงอุบลฯ เดินทางไปยังศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านเช่นกัน

          ระหว่างทางแกนนำม็อบคน เสื้อแดงปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ตลอดเวลา โดยตั้งคำถามว่า "ทำไมต้องช่วยยายไฮคนเดียว คนไทยทั้งประเทศยังเดือดร้อนอยู่มากรอการช่วยเหลือ"

          แกนนำกลุ่มเสื้อแดงยังระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ปัญหาภัยธรรมชาติ เกิดน้ำท่วมฝนถล่ม นายกฯเดินทางมายัง จ.อุบลราชธานีครั้งนี้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจมาคุ้มกันความปลอดภัยถึง 4,700 นาย แถมยังต้องอาศัยเฮลิคอปเตอร์เป็นพาหนะเดินทาง

          เวลา 08.45 น. เฮลิคอปเตอร์คณะของนายกรัฐมนตรีร่อนลงจอดหน้าโรงเรียนบ้านวังสะแบง ต.หนองแสงใหญ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี จากนั้นขึ้นรถยนต์โตโยต้า รุ่นคัมรี ทะเบียน กค 9999 อุบลราชธานี เป็นรถประจำตำแหน่งของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางต่อไปยังศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ต.ทรายมูล อยู่ห่างประมาณ 2 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางมีกำลังตำรวจปราบจราจล 1 กองร้อยคุมเข้มรักษาความปลอดภัย

          เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์มาถึงที่บริเวณศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน มี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รอต้อนรับ โดยกลุ่มสมัชชาคนจนและชาวอุบลราชธานีประมาณ 6,000 คน จาก 56 หมู่บ้าน รวมทั้งกลุ่มกรณีปัญหาที่อยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ส่งตัวแทนมาร่วมต้อนรับนายกฯ

          นายกรัฐมนตรีขึ้นไปพบนางไฮ ขันจันทา บนศาลาของศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน เมื่อเจอหน้ากล่าวทักทายว่า "เราเคยเจอกันแล้วครั้งหนึ่งในทีวี"

          จากนั้นร่วมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญฯตามประเพณีของชาวอีสาน โดยนางไฮ และตัวแทนกลุ่มสมัชชาคนจน รวม 9 คน นำสายสิญจน์ที่พราหมณ์ทำพิธีมาผูกข้อมือนายอภิสิทธิ์ ยึดเลขมงคลเลข 9 อวยพรให้มีความเจริญก้าวหน้าพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองต่อไป

          เสร็จสิ้นพิธีแล้วนายอภิสิทธิ์มอบเช็คค่าชดเชยให้กับนางไฮและพวกรวม 3 คน เป็นจำนวน 4.9 ล้านบาท โดยนางไฮได้รับทั้งสิ้น 1,208,153 บาท

          นางไฮบอกกับนายอภิสิทธิ์ขอให้อยู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนาน ๆ จะได้ช่วยเหลือคนจนที่เดือดร้อน และขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ดูแลช่วยเหลือ สำหรับเงินที่ได้รับจำนวน 1,208,153 บาท จะแบ่งออก 3 ส่วน คือ เก็บไว้ใช้เองจำนวนหนึ่ง อีกส่วนแบ่งให้ลูกทั้ง 10 คน และซื้อที่นาเพิ่มเติม ส่วนเงินของนายคำฟอง ขันจันทา ผู้เป็นสามี จำนวน 1,350,922 บาท ได้มอบให้นางเพชร ขันจันทา บุตรสาว เปิดบัญชีแทน รวมทั้งเงินของ นายเสือ พันธุ์คำ ผู้เป็นญาติที่เสียชีวิตเช่นกัน จำนวน 2,389,142 บาท นายประทวน พันธุ์คำ บุตรชาย นำเช็คฝากเก็บรักษาไว้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนสรรพสิทธิ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกก่อน เมื่อศาลมีคำสั่ง จึงจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ซึ่งอาจใช้เวลา 1-2 เดือน

          นางไฮยังขอร้องให้นายกรัฐมนตรีช่วยปรับปรุงถนนทางเข้าบ้านให้ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมกันนี้ร้องหมอลำขอบคุณที่นายกฯเดินทางมา และมอบตะกร้าที่ยังสานไม่เสร็จให้แก่นายกฯเพื่อกลับไปสานต่อให้เสร็จ อีกทั้งยังผูกผ้าขาวม้าเป็นที่ระลึก

          เวลา 09.40 น. ตัวแทนกลุ่มสมัชชาคนจน มอบหนังสือข้อเรียกร้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาต่าง ๆ ของภาครัฐ กว่า 100 โครงการให้กับนายอภิสิทธิ์ รวมถึงต้องการให้นำปัญหาของสมัชชาคนจนเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2552

          ขณะที่นายอภิสิทธิ์ยืนยันได้เดินทางมาแก้ปัญหาให้กับกลุ่มสมัชชาคนจนหนึ่งปัญหาแล้ว ส่วนที่เหลือจะดำเนินการแก้ไขต่อไป ไม่ใช่รัฐบาลไม่สนใจและไม่ติดตามความคืบหน้า แต่บางเรื่องไม่มีระเบียบหรือกฎหมายรองรับให้รัฐบาลทำได้ทันที จึงประชุมหารือหาทางออกให้แต่ละปัญหาที่เห็นชัดเจนแล้วคือ โครงการโฉนดชุมชนมีความคืบหน้าไปมาก เช่นเดียวกับกรณีนางไฮ ขันจันทา และเพื่อนบ้านที่คณะรัฐมนตรีสั่งจ่ายค่าชดเชย เพราะมีระเบียบและขั้นตอนสามารถปฏิบัติได้ทันที

          นายอภิสิทธิ์ยังขอให้กลุ่มสมัชชาคนจนเข้าใจว่า ปัญหาที่รัฐบาลรับมาทั้งเรื่องปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาสิ่งแวดล้อมมีกว่า 100 เรื่อง มีความพยายามแก้ไขโดยตลอด และมีความคืบหน้าตามลำดับ แต่บางเรื่องมีขั้นตอนมาก ต้องใช้เวลา สำหรับกรณีปัญหาสมัชชาคนจน ที่จะได้คุยกันครั้งต่อไป ได้กำหนดไว้แล้วคืออีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และเรื่องใดสามารถลงมาพูดคุยได้ด้วยจะลงมาคุยด้วย แต่ถ้าไม่มีเวลาจะมอบหมายให้รัฐมนตรีหรือหน่วยงานเจ้าของเรื่องมาพูดคุยแทน แต่ทุกเรื่องจะรับทราบหมด เพราะมีการรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ

          เวลา 09.50 น. ทีมงานของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 บันทึกเทปรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายอภิสิทธิ์" โดยให้นายอภิสิทธิ์อยู่ในกลางวงพิธีบายศรีสู่ขวัญ นายนพพร พันธ์เพ็ง นักจัดรายการวิทยุชาวอุบลราชธานี เป็นผู้ดำเนินรายการ ในฐานะตัวแทนสื่อมวลชนท้องถิ่นอุบลราชธานี ซักถามนายกฯถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวอุบลราชธานีในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

          เวลา 10.30 น. กลุ่มเสื้อแดงใช้รถสิบล้อบรรทุกหินกรวดเต็มคัน เป็นหัวขบวนพร้อมติดตั้งเครื่องขยายเสียง เดินทางมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำมูล อ.พิบูลมังสาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอุบลราชธานีนำรถสิบล้อ 2 คันมาจอดขวางสะพานปิดทางข้าม และให้กำลังพล 30 นาย ตั้งแถวปิดกั้นอีกชั้นหนึ่ง

          สมาชิกกลุ่มเสื้อแดง 2 คน ปีนขึ้นไปบนรถสิบล้อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาขวางไว้แล้วเชื่อมต่อสายไฟตรง เพื่อสตาร์ตรถขยับให้พ้นจากสะพาน จากนั้นม็อบเสื้อแดง ฝ่าวงล้อมตำรวจข้ามสะพานได้สำเร็จและยังผ่านจุดสกัดของตำรวจตระเวนชายแดนอีก 4 จุด โดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

          เวลา 11.20 น. คณะรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดงได้ฝ่าด่านจุดสกัดสุดท้ายห่างจากศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ราว 500 เมตร

          เวลา 11.30 น. คณะนายอภิสิทธิ์รับฟังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วตัดสินใจล้มแผนร่วมรับ ประทานอาหารกับยายไฮ และชาวอุบลราชธานี และพบปะกับกลุ่มสมัชชาคนจน ที่นั่งรออยู่ด้านล่างศาลาของศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน จากนั้นขึ้นรถยนต์เดินทางกลับไปยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์หน้าสนามโรงเรียนบ้าน วังสะแบง เดินทางต่อไปยัง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี

          เวลา 11.40 น. กลุ่มเสื้อแดงเดินทางมาถึงบริเวณศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน และพยายามจะเข้าไปภายในบริเวณศูนย์แต่เจ้าหน้าที่ปิดประตูทุกด้าน

          เวลา 11.45 น. นายบุญมี หวังผล แกนนำชาวบ้านสมัชชาคนจนขึ้นประกาศบนเวทีขอให้ชาวสมัชชาคนจนอยู่ในที่ตั้ง ห้ามออกไปต่อล้อต่อเถียงกับกลุ่มเสื้อแดง เพราะสมัชชาคนจนยึดมั่นแนวทางการต่อสู้แบบสันติไม่ใช้กำลัง แต่เตือนกลุ่มเสื้อแดงให้แสดงออกอยู่ในกรอบของกฎกติกา อย่ารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของกลุ่มสมัชชาคนจนเป็นอันขาด เพราะอาจเกิดกระทบกระทั่งกันระหว่างพี่น้องชาวอีสานด้วยกัน

          เวลา 11.55 น. แกนนำเสื้อแดงทราบข่าวว่าคณะของนายอภิสิทธิ์ฯออกเดินทางกลับไปแล้ว สมาชิกเสื้อแดงจึงควักถุงปลาร้าที่เตรียมไว้ขว้างใส่ป้ายโฆษณาต้อนรับนายกรัฐมนตรี และนำโลงศพออกมาเผา ก่อนยกขบวนกลับไปยังสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี

          เวลา 12.30 น. คณะนายอภิสิทธิ์เดินทางถึงลานอนุมาน อ.ม่วงสามสิบ เพื่อเปิดโครงการถนนไร้ฝุ่น ซึ่งใน จ.อุบลราชธานี มีโครงการถนนไร้ฝุ่นทั้งสิ้น 29 โครงการ ใช้งบประมาณ 511 ล้านบาท โดยมีชาวอุบลราชธานีร่วมต้อนรับกว่า 3,000 คน พร้อมกับรอผูกผ้าขาวม้าให้กับนายกรัฐมนตรีและคณะ

          ขณะที่นายมา นิยมชาติ หลานของนางเนียม พันธ์มณี ชาวอุบลราชธานี ที่เคยให้แหวนหมั้นแก่นายอภิสิทธิ์ ได้เป็นตัวแทนยายเนียมเพื่อมอบเหล็กไหล ผ้าไหมฝ้ายและหมอนให้นายกรัฐมนตรี

          จากนั้นนายอภิสิทธิ์กล่าวกับชาว อ.ม่วงสามสิบ ว่า เมื่อปี 2549 เดินทางมา อ.ม่วงสามสิบ ได้พบกับยายเนียม ผมยืนยันว่าจะแก้ไขปัญหาของประเทศชาติตามที่ประชาชนและยายเนียมมุ่งหวัง วันนี้ผมได้แหวนอีก 1 วง ขอขอบคุณชาวอำเภอม่วงสามสิบ ที่ผ่านมารัฐบาลทำงานมา 10 เดือน ทุ่มเทอย่างเต็มที่ ยอมรับว่าเมื่อเข้ามาทำงานใหม่ ๆ ต้องพบกับปัญหาที่หนัก โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้ 10 เดือนผ่านไป เรื่องเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้องขึ้น ภาวะคนตกงานเริ่มนิ่ง โครงการไทยเข้มแข็งเริ่มประสบความสำเร็จ และในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติงบฯกองทุนหมู่บ้าน จะทำให้กองทุนหมู่บ้านได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม และจะยืดระยะเวลาการใช้หนี้ของผู้กู้ จาก 1 ปี เป็น 2 ปี รวมถึงจะเร่งดำเนินการเรื่องการประกันราคาสินค้าเกษตร

          นายอภิสิทธิ์ยังระบุทิ้งท้ายถึงสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ว่า สังคมไทยมีความขัดแย้งกันอยู่ กลุ่มเสื้อแดงยังคงออกมาประท้วงผมแต่ขอยืนยันว่าทำงานมา 10 เดือน ไม่เคยทะเลาะกับใคร ใช้เหตุและผลในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเรื่องของความคิด อาจมีความแตกต่าง แต่ขอร้องว่าอย่าให้เกิดความรุนแรง เพราะผู้ที่จะได้รับความเดือดร้อนก็คือประชาชน

          กระทั่งเวลา 13.00 น. นายกรัฐมนตรีนำคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จาก จ.อุบลราชธานี ไป จ.ยโสธรเพื่อตรวจเยี่ยมโครงการไทยเข้มแข็ง ที่วิทยาลัยเทคนิคยโสธร



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นาทีต่อนาที อภิสิทธิ์ ฝ่าม็อบ เสื้อแดง หอบ 4.9 ล้านมอบ ยายไฮ อัปเดตล่าสุด 11 ตุลาคม 2552 เวลา 16:41:49 11,045 อ่าน
TOP