ผูกระเบิดใต้ท้องรถ กดบึมจุดตรวจ ทหารพัฒนาเจ็บ 2 (ไทยรัฐ)
เมื่อเวลาประมาณ 07.20 น. วันนี้ (13 ต.ค.) พ.ต.ท.ปริวรรต ขวัญมานิต สารวัตรเวร สภ.แว้ง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณจุดตรวจทหาร สังกัดร้อย ร.2023 ฉก.นราธิวาส 35 ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายแว้ง-สุไหงโก-ลก หน้าประตูทางเข้าวัดเขาเข็มทอง เขตเทศบาลตำบลแว้ง ทำให้ 2 สามีภรรยา ซึ่งเป็นทหารหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 41 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ สุขสมบูรณ์ ผกก.สภ.แว้ง นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ นายอำเภอแว้ง พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน กค -1569 นราธิวาส ซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณจุดตรวจอยู่ในสภาพถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะใต้ท้องรถและห้องโดยสาร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจสอบพบซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนถนนพร้อมทั้งชิ้นส่วนของรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย คือ จ.อ.สุรชัย เกียดสูงเนิน อายุ 25 ปี และ ส.ต.หญิง อภิรดี มะเก๊ะ อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารประจำจุดตรวจ นำตัวส่งรักษา โรงพยาบาลแว้ง ไปก่อนหน้าแล้ว และแพทย์ได้ส่งตัวรักษาต่อยัง โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.อ.สุรชัย ได้ขับรถยนต์ออกจากบ้านพักที่ บ้านเจ๊ะเหม หมู่ 3 ต.แว้ง โดยมีภรรยานั่งคู่กันมา เพื่อเดินทางไปทำงานตามปกติทุกวัน โดยไม่ทราบว่าในช่วงคืนที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวนำระเบิดแสวงเครื่อง ที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ไปผูกไว้ที่คานเกียร์ใต้ท้องรถ ซึ่งจอดอยู่ในโรงรถข้างบ้านพัก และ ขณะที่ จ.อ.สุรชัย ขับรถยนต์ถึงบริเวณจุดตรวจทหารหน้าวัดเขาเข็มทอง เจ้าหน้าที่ทหารได้ส่งสัญญาณเพื่อขอตรวจค้นตามปกติ และในขณะที่ จ.อ.สุรชัย จอดรถยนต์ เพื่อให้ทหารตรวจค้นนั้น ได้มีคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะขี่รถ จยย.ตามไล่หลังมา ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิด จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
