x close

มือหั่นศพขอขมาน้องโช ตำรวจยันไม่เอี่ยวยากูซ่า

ฆ่าหั่นศพ

ฆ่าหั่นศพเด็ก

ฆ่าหั่นศพเด็ก

ฆ่าหั่นศพเด็ก


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ,เดลินิวส์


          ความคืบหน้าเหตุสะเทือนขวัญ คนร้ายฆ่าหั่นศพ ด.ช.โช มาคิโน วัย 5 ขวบ และยิงนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ แม่ของ ด.ช.โช ก่อนพบศพที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา และต่อมา นายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ อายุ 40 ปี ได้เข้ามอบตัว โดยรับสารภาพเป็นฆาตกรฆ่าคนทั้งสอง จากนั้นตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายศิริพงษ์ และรถแท็กซี่สีชมพู โตโยต้าอัลติส ทะเบียน ทล 5979 กรุงเทพมหานคร เพื่อค้นหาหลักฐาน

          จากการสอบสวนนายศิริพงษ์ ให้การว่า ก่อนหน้าที่จะมาก่อคดีโหดครั้งนี้ ตนเคยมีครอบครัวมาแล้วก่อนที่จะมาพบกับนางสุนันท์ ส่วนสาเหตุที่ฆ่านางสุนันท์ ตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่เกิดจากบันดาลโทสะ ที่นางสุนันท์ บังคับให้ตนไปฆ่าสามีเก่าชาวญี่ปุ่น ตนพยายามสอบถามว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่นางสุนันท์ไม่ยอมบอก รวมทั้งทราบว่า นางสุนันท์ แอบไปมี "กิ๊ก" ทราบเพียงชื่อเล่นว่าทูล อยู่ จ.นครปฐม และตนได้ยินนางสุนันท์ปรึกษากับนายทูลทางโทรศัพท์ว่าจะลงมือฆ่าตน อีกทั้งเวลาตนอยู่บ้านพักมักมีโทรศัพท์จากชายลึกลับโทรฯ เข้ามาข่มขู่ตลอดจนเมื่อ 2 เดือนก่อน ตนต้องไปแจ้งความที่ สภ.ย่อยบางบัวทอง จ.นนทบุรี ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

          กระทั่งวันเกิดเหตุช่วงค่ำวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา นางสุนันท์ เดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่นโทรศัพท์ให้ตนไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตนกลัวถูกคนลอบทำร้ายจึงพกปืนไปด้วย ระหว่างทางกลับบ้านเกิดมีปากเสียงกันเรื่องเดิม ๆ คือนางสุนันท์บังคับให้ตนไปฆ่าสามีเก่าชาวญี่ปุ่น กับเรื่องที่ตนจับได้ว่า นางสุนันท์ ไปมีนายทูล เป็นกิ๊ก ทำให้ตนบันดาลโทสะ ชักปืนหันกลับหลัง ไปลั่นไกใส่นางสุนันท์โดยไม่ได้มองจนเกิดเหตุสลดขึ้น

          ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโนรองผบช.น. พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายศิริพงษ์ ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหาของ สน.ตลิ่งชัน มาสอบสวนปากคำในประเด็นที่ตำรวจสงสัย จากนั้นตำรวจได้คุมตัวนายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 14 จุด เริ่มจากในรถแท็กซี่ยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุที่นำมาจอดอยู่หน้า สน.ตลิ่งชัน โดยในการทำแผนฯ นายศิริพงษ์ มีสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้มีอาการสะทกสะท้านแต่อย่างใด ซึ่งตำรวจนำปืนขนาด .357 ของกลางมาให้ผู้ต้องหาทำแผนฯ ใช้ตำรวจหญิงเป็นตัวแทนนางสุนันท์ นั่งเบาะหลังด้านขวาหลังคนขับ และใช้ตุ๊กตา 2 ตัว เป็นตัวแทน ด.ช.โช ที่นั่งตรงกลาง และน้องมิ้นท์ นั่งด้านซ้าย โดยผู้ต้องหานำอาวุธปืนที่ซ่อนไว้ที่ใต้เบาะคนขับใช้มือขวาจับปืนสอดเข้าใต้แขนซ้ายเอี้ยวไปทางด้านหลัง โดยไม่ให้ผู้ตายรู้ตัวก่อนจะเหนี่ยวไกยิง 7 นัด แล้วจึงเปลี่ยนกระสุนใส่ลูกโม่อีกชุดลั่นไกยิงซ้ำอีก 7 นัด แต่กระสุนออกเพียง 4 นัด
         
          ก่อนที่ตำรวจจะนำตัว นายศิริพงษ์ ผู้ต้องหาไปทำแผนฯ ต่อที่สนามบินสุวรรณภูมิขณะไปรับผู้ตายกับลูก ๆ แล้วไปยังห้องพักของผู้ต้องหาใน อ.บางบัวทอง ที่นำศพ ด.ช.โช ไปชำแหละ โดยตำรวจพบเสื้อผ้าของ นางสุนันท์ ที่ใส่ในวันเดินทางกลับจากญี่ปุ่นเปื้อนเลือดซุกซ่อนอยู่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นไปทำแผนต่อในจุดที่นำศพนางสุนันท์ไปทิ้ง และกองขยะหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านร้างย่านตลิ่งชันที่นำถุงดำ 4 ใบ ใส่ชิ้นส่วนศพ ด.ช.โช ไปทิ้งไว้ และสถานที่อื่น ๆ จนครบท่ามกลางไทยมุงมาดูกันแน่นขนัดทุกจุด จนถึงค่ำจึงนำผู้ต้องหากลับไปควบคุมตัวและสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อนำไปฝากขังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว

          ทางด้าน ด.ญ.พิชยา หรือ น้องมิ้นท์ ซึ่งเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ให้การกับตำรวจว่า ในวันเกิดเหตุตนพร้อมกับแม่และน้องชายเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมายังสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากนั้นขึ้นรถแท็กซี่ของนายศิริพงษ์ พ่อเลี้ยงที่มารับ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะขับรถวนรอบสนามบินสุวรรณภูมิอยู่สักพักแล้ว จึงขับไปยังจุดเกิดเหตุใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ระหว่างทางมารดาตนกับผู้ต้องหาไม่ได้มีปากเสียงทะเลาะกันแต่อย่างใด กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุพ่อเลี้ยงจึงชักปืนจากใต้เบาะคนขับออกมารัวยิงมารดากับน้องชายตาย ส่วนตนแค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลัวว่าจะถูกฆ่าปิดปากตนจึงแกล้งทำเป็นตาย เด็กหญิงเคราะห์ร้าย กล่าวต่อว่า หลังจากผู้ต้องหาทิ้งศพมารดาที่ อ.ลาดหลุมแก้ว แล้วขับรถไปยังห้องพักที่ย่านบางบัวทอง นายศิริพงษ์ถึงรู้ว่าตนยังไม่ตาย จึงจะฆ่าทิ้ง แต่ตนยกมือไหว้ขอชีวิตไว้และสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับตำรวจ ผู้ต้องหาถึงไม่ฆ่าตน แต่นำไปกักขังไว้ที่ห้องพัก ก่อนที่จะลงมือชำแหละศพน้องชายต่อหน้าตนจนเสร็จ แล้วพาตนพร้อมศพน้องชายออกไปจากที่พัก โดยนำชิ้นส่วนศพน้องชายไปทิ้งที่ปากทางเข้าหมู่บ้านร้างย่านตลิ่งชัน จากนั้นจึงนำตนมาส่งทิ้งไว้ที่ โรงพยาบาลพระราม 9

          ทั้งนี้ นพ.ไพรัตน์ เจาฏะเกษกรินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลพระราม 9 เปิดเผยถึงอาการของ ด.ญ.พิชยา หรือ น้องมิ้นท์ ว่า ขณะนี้น้องมิ้นท์สามารถพูดคุยได้เป็นปกติ จากการตรวจพบบาดแผล 2 จุด ที่ข้อศอกซ้าย 2 แผล ทำให้ไม่สามารถงอศอกได้ และมีบาดแผลเป็นรอยถากที่ไหปลาร้าขวา 3 แผล  กระดูกไหปลาร้าหัก มีเศษโลหะฝังใน แพทย์ได้นำเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่เวลา 10.30 น. ทั้งนี้หลังการผ่าตัดคาดว่าแผลที่ไหปลาร้าจะใช้เวลา 2 เดือน จะหายเป็นปกติ ส่วนแผลที่ศอกใช้เวลา 2 สัปดาห์ แต่ขณะนี้คณะแพทย์มีความเป็นห่วงสุขภาพจิตใจของเด็ก ซึ่งโรงพยาบาลพระราม 9 ได้เตรียมจิตแพทย์ ไว้ดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กแล้ว และเห็นว่าไม่ควรให้เด็กย้ายโรงพยาบาล เพราะอาจทำให้แผลผ่าตัดได้รับการกระทบกระเทือนได้ ทั้งนี้โรงพยาบาลพระราม 9 ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของน้องมิ้นท์ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

          พญ.ศุภรัตน์ เอกอัศวิน รักษาการ ผอ.สุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ เปิดเผยว่า จากการส่งแพทย์ทีมสุขภาพจิตไปร่วมกับจิตแพทย์โรงพยาบาลพระราม 9 ดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจน้องมิ้นท์ พบว่า สภาพจิตใจน้องมิ้นท์ไม่ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างที่น่าเป็นห่วง สามารถพูดคุยตอบคำถามได้ แต่เด็กยังอยู่ในอาการตกใจต้องได้รับการดูแลใกล้ชิด เพื่อให้รู้สึกปลอดภัย หลังจากเด็กออก จากโรงพยาบาลแล้ว กระทรวงสาธารณสุขจะส่งทีมจิตแพทย์ติดตามไปดูแลจนกว่าจะหายเป็นปกติ คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลา 1 ปี โดยครอบครัว ญาติ หรือผู้ที่ดูแลจะต้องดูแลให้กำลังใจเด็กควบคู่กันไปด้วย

          ต่อมา เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม นางสุภาณี กาญจนชูมณ มารดาของ นายศิริพงษ์ เดินทางมาที่สน.ตลิ่งชัน ด้วยชุดนุ่งขาว ห่มขาว พร้อมกับเจ้าของอู่รถแท็กซี่คันที่ใช้ก่อเหตุ เมื่อนายศิริพงษ์เห็นมารดา ก็ตรงเข้าสวมกอด โดยนางสุภาณีบอกว่า ไม่ต้องห่วงลูก ๆ ตนจะไม่ทอดทิ้ง เพราะอย่างไรก็เป็นหลาน และขอให้นายศิริพงษ์คิดยาว ๆ

          จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำดอกไม้ ธูปเทียน และรูปถ่ายของ ด.ช.โช มาให้ผู้ต้องหาได้ขอขมา โดยนายศิริพงษ์ ได้กล่าวว่า ข้าพเจ้าได้กระทำผิดต่อน้องโช ซึ่งเป็นเด็กดี ฉลาดน่ารัก มีอนาคตที่ดี แต่ต้องมาจบชีวิตลง ขอให้น้องโชให้อภัยลุงใหญ่ หากชาติหน้ามีจริง ขอให้น้องโชกลับมาเป็นลูกของลุงใหญ่ เพื่อให้ลุงใหญ่ได้ตอบแทนน้องโช เหมือนกับที่ลุงใหญ่เลี้ยงลูกในชาตินี้อย่างดี โดยระหว่างที่ทำพิธี นางสุภาณีได้เข้าไปสวมกอดนายศิริพงษ์และร้องไห้ พร้อมกับปลอบบุตรชาย เมื่อนายศิริพงษ์ ทำพิธีขอขมา ด.ช.โช แล้ว ได้หันมากราบนางสุภาณี และหลั่งน้ำตา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายศิริพงษ์ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา 

          ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนยังไม่พบความเกี่ยวโยงระหว่างนายศิริพงษ์ ผู้ต้องหากับขบวนการใด ๆ ตามที่ตกเป็นกระแสข่าว หากใครให้สัมภาษณ์เช่นกัน ก็ให้ไปสอบถามบุคคลที่ให้ข่าวเอง และขอเตือนสื่อมวลชนให้ระมัดระวังการนำเสนอข้อมูล เพราะจะทำให้สังคมเกิดความสับสน และส่งผลต่อความคลาดเคลื่อนของคดี

          ส่วนการดำเนินคดีคาดว่าจะสรุปสำนวนได้ภายใน 15 วัน เนื่องจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี






คลิป ข่าวฆ่าหั่นศพเด็ก สัมภาษณ์ ผู้ต้องหา คดีฆ่าหั่นศพเด็ก 5 ขวบ

คลิป คำให้การ ผู้ต้องหา ฆ่าหั่นศพ ฆ่าเมีย หั่นศพเด็ก5ขวบ


คลิป ข่าวฆ่าหั่นศพ คดีฆ่าหั่นศพ ฆ่าเมีย หั่นศพเด็ก 5 ขวบ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
     

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มือหั่นศพขอขมาน้องโช ตำรวจยันไม่เอี่ยวยากูซ่า อัปเดตล่าสุด 15 ตุลาคม 2552 เวลา 15:12:46 67,644 อ่าน
TOP