เสื้อแดง
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ
กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยืนยันจะยังคงชุมนุมในวันที่ 17 ตุลาคม ตามที่ได้ประกาศไว้ แม้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่เขตดุสิต กทม. ระหว่างวันที่ 15 - 25 ตุลาคม
โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล จะเป็นไปโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และจะสลายตัวในเวลา 24.00 น. ทั้งนี้การชุมนุมเป็นไปเพื่อทวงถามความคืบหน้าการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากครบรอบ 60 วัน ตามที่รัฐบาลประกาศไว้ว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบฎีกา จึงหวังใจว่ารัฐบาลจะไม่ใช้วิธีการทั้งบนดินและใต้ดินมาสกัดขัดขวาง หากรัฐบาลใช้ความรุนแรงหรือเล่ห์เหลี่ยมจากคนเสื้อสีต่าง ๆ มาทำร้ายคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงก็จะร้องเรียนต่อผู้นำประเทศต่าง ๆ ในการประชุมอาเซียน ที่จะมีการประชุมที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 23 - 25 ตุลาคมนี้ เพราะถือว่าเป็นฝีมือของรัฐบาล 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรัฐบาลคงไม่อยากเห็นภาพนั้นเกิดขึ้น
"คนเสื้อแดงขอประกาศว่า มีจุดยืนในการสนับสนุนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และมีเจตนาดีในการกระชับความสัมพันธ์ รวมไปถึงเติบโตร่วมกันของประเทศต่าง ๆ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช พัทยา ทำให้คนเสื้อแดงต้องตกเป็นจำเลย ดังนั้นก่อนวันประชุมอาเซียน คนเสื้อแดงจะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนนานาชาติ เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น และจะมีตัวแทนคนเสื้อแดงเดินทางไปยังสถานทูตทุกประเทศที่เกี่ยวข้องกับการประชุมอาเซียน เพื่อยื่นหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยา" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า หากรัฐบาลล้มหรือมีท่าทีสกัดขัดขวางการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 17 ตุลาคม ก็เท่ากับรัฐบาลล้มการประชุมสุดยอดอาเซียนด้วยน้ำมือของรัฐบาลเอง
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ว่า ไม่มีเหตุผล ถือเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมืองให้เลวร้ายในขณะที่กำลังรอต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง การอ้างว่าทวงฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ไม่เข้าใจว่าเหตุใด นปช. จึงรีบร้อน เพราะตามปกติกระบวนการถวายฎีกาขออภัยโทษของนักโทษทั่วไปจะใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 1 ปี
นายเทพไท กล่าวอีกว่า การที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคมนั้น เพราะเชื่อว่า นปช. คงพยายามเร่งเร้าให้เกิดความรุนแรง เห็นได้จากเหตุลอบวางระเบิดบริเวณหน้าสำนักงานเอเอสทีวี และหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่รวมถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าไปรับตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ซึ่งคนใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต ก็มีทั้งสายเหยี่ยวและสายพิราบ ทำให้รู้สึกหวาดหวั่นและไม่อยากให้พวกฮาร์ดคอร์สร้างสถานการณ์เช่นเดียวกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬในปี 2535
"ที่ นปช. ขู่ว่าหากการชุมนุมวันที่ 17 ตุลาคม มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ก็จะเดินทางไปชุมนุมประท้วงที่ชะอำ-หัวหิน ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เป็นการแสดงให้เห็นว่า นปช. มีการเตรียมหาเหตุเพื่อไปชุมนุมประท้วงระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน" นายเทพไท กล่าว
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการพิจารณาฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายข้าราชการประจำ ส่วนสาเหตุที่ฎีกาฉบับดังกล่าวล่าช้ากว่าฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษตามปกติ ซึ่งมีระยะเวลา 60 วัน เนื่องจากฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงมีรายละเอียดหลายส่วน ทั้งร้องทุกข์ เล่าเหตุการณ์การยึดอำนาจ การดำเนินคดีที่ดินรัชดาฯ และส่วนสุดท้ายขอพระราชทานอภัยโทษ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาแยกแต่ละประเด็น ที่สำคัญการเขียนหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษลักษณะนี้ กรมราชทัณฑ์ไม่เคยพิจารณามาก่อน ต่างจากฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนักโทษในเรือนจำ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด รวมทั้งรายชื่อผู้ยื่นถวายฎีกามีจำนวนมาก ต้องตรวจสอบสิทธิของผู้ยื่นว่าเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ จึงใช้เวลานานกว่าฎีกาพระราชทานอภัยโทษตามปกติ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
